สวรรค์ล่ม!!! หลังรัฐบาล คสช. งัด "ม.44" หวดเข้าใส่ "สำนักจานบิน" โครมใหญ่ และปูพรมตรวจค้นหา "หลวงพ่อนะจ๊ะ" ละเอียดยิบราวเอ็กซเรย์ทุกตารางนิ้ว แม้ยังไม่เจอตัวพระเดชพระคุณฯ แต่ก็เล่นเอา "ธรรมกาย-อาณาจักรพุทธพาณิชย์แสนล้าน" สวรรค์ล่มไปชั่วข้ามคืนทีเดียว เพราะฝ่ายบ้านเมืองตัดสินใจอายัด "ตัวตึกดาวดึงส์" อันเป็นเสมือนฮาเร็มส่วนตัวของหลวงพ่อนะจ๊ะทั้งหลังเอาไว้เพื่อดำเนินคดี...แค่นี้ก็ง่อยเปลี้ยหนักแล้ว
วันนี้ (18 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษและรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ร่วมกันแถลงข่าวถึงการตรวจค้นวัดพระธรรมกายเป็นวันที่ 2 วานนี้ว่า การตรวจค้นต้องทำให้ครบถ้วนทุกพื้นที่ก่อน จะพบ-ไม่พบพระธัมมชโยต้องประเมินหลังจากการตรวจค้นเสร็จสิ้นแล้ว และถ้ามีเหตุจำเป็น สามารถตรวจค้นซ้ำอีกได้ตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 5/2560 ในขณะนี้ยังไม่ได้มีการปรับแผนอะไร คาดว่าจะปฏิบัติการได้เสร็จตามระยะเวลา หากเหตุการณ์ปกติแล้ว ก็จะสามารถให้ประชาชนเดินทางเข้า-ออกได้ตามปกติ
"ตัวพระธัมมชโย ทางการข่าวยังเชื่อว่าพระธัมมชโยอยู่ในพื้นที่ ถ้าพบตัวก็ดำเนินการจับกุมตามหมายจับ ถ้าไม่พบตัวก็ติดตามทางการข่าวดำเนินการจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป และต้องมีการปรับแผนประเมินสถานการณ์ดูว่ามีจุดอ่อน-จุดแข็งอย่างไร ซึ่งการปฏิบัติการต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนก่อน ส่วนผลสัมฤทธิ์จากการดำเนินการเป็นลำดับรอง" พ.ต.ต.วรณัน กล่าว
อย่างไรก็ดี สำหรับอาคารดาวดึงส์อันเปรียบเสมือนฮาเร็มส่วนตัวของ "หลวงพ่อนะจ๊ะ" พ.ต.ต.วรณัน ได้อรรถาธิบายถึงเรื่องนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า
"ในส่วนข้อสงสัยเกี่ยวกับห้องพักที่ใช้รักษาอาการอาพาธของพระธัมมชโย ที่อาคารดาวดึงส์ พบอุปกรณ์ทางการแพทย์ชนิดหนึ่งคือตู้ไฮเปอร์แบริค (Hyperbaric chamber) เป็นเครื่องให้ออกซิเจนภายใต้สภาพความกดบรรยากาศสูง ซึ่งใช้รักษาผู้ประสบเหตุจากการดำน้ำ จึงต้องมีเหตุจำเป็นในการ "อายัดอาคารดาวดึงส์ไว้" พร้อมทั้งควบคุมพื้นที่ห้ามมิให้ผู้ใดเข้า-ออกหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของ และประสานขอให้ผู้เชี่ยวชาญได้เข้าตรวจสอบการใช้ตู้ดังกล่าว พร้อมคงกำลังบางส่วนไว้รักษาพื้นที่โดยรอบวัดพระธรรมกาย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและป้องกันภัยแทรกซ้อนในพื้นที่สำคัญ" พ.ต.ต.วรณัน ระบุ
นอกจากนี้ พ.ต.ต.วรณัน ยังยืนยันว่า แม้การปฏิบัติการตรวจค้นจะไม่พบบุคคลตามหมายจับ แต่ในทางปฏิบัติยังมีการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมต่อไป หากผู้ใดพบเบาะแสความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาตามหมายจับ ขอให้แจ้งข้อมูลมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษทางสายด่วน 1202 โทรฟรีทั่วประเทศ ในนามของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้บัญชาการเหตุการณ์ และเจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษทุกท่าน ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้จนเสร็จสิ้น และขอขอบคุณผู้สังเกตการณ์จากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ การปฏิบัติการครั้งนี้ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง หรือเกิดการกระทบกระทั่งจนมีการบาดเจ็บหรือสูญเสีย
อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews
