จีน-รัสเซีย สับเละสหรัฐฯ เป็นพวกถืออำนาจเผด็จการข้างเดียว หลัง ทรัมป์ ออกมาตราหน้าจีน-รัสเซีย ทำสหรัฐฯสูญเสียผลประโยชน์

วันที่ 20 ธ.ค. 60 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังถูกจีนและรัสเซียวิพากษ์วิจารณ์ และโจมตีอย่างหนัก หลังจากที่เขาได้ถึงพูดปราศรัยในงาน "ยุทธศาสตร์ความมั่นแห่งชาติ" ปี 2017 โดยตราหน้าว่าจีนและรัสเซียเป็นภัยหลักที่คุกคามต่ออำนาจ อิทธิพล และผลประโยชน์ของอเมริกา เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา

 

จีน-รัสเซีย สับเละสหรัฐฯ เป็นพวกถืออำนาจเผด็จการข้างเดียว หลัง ทรัมป์ ออกมาตราหน้าจีน-รัสเซีย ทำสหรัฐฯสูญเสียผลประโยชน์

โดยในวันปราศรัยยุทธศาสตร์ความมั่นแห่งชาติ ปี 2017 นั้น ทรัมป์ได้กล่าวอิงถึงแนวทางว่า "อเมริกาต้องมาก่อน" ก่อนที่อ้างอิงถึงชัยชนะของเขาในการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วว่า ชาวอเมริกันโหวตเลือกที่จะทำให้สหรัฐฯกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และโจมตีนโยบายการต่างประเทศของรัฐบาลชุดก่อนๆที่นำพาประเทศล้มเหลว แต่หลังจากที่ตนก้าวเข้าสู่ทำเนียบขาวไม่ทันครบปี ทั่วโลกต่างรับรู้ชัดเจนว่าสหรัฐฯกำลังกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง 

 

จีน-รัสเซีย สับเละสหรัฐฯ เป็นพวกถืออำนาจเผด็จการข้างเดียว หลัง ทรัมป์ ออกมาตราหน้าจีน-รัสเซีย ทำสหรัฐฯสูญเสียผลประโยชน์

 

นอกจากนี้ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า จีนและรัสเซียต่างต้องการสร้างโลกซึ่งขัดแย้ง โดยการท้าทายอำนาจ อิทธิพล และผลประโยชน์ของสหรัฐฯ อีกทั้งยังพยายามบ่อนทำลายความมั่นคงและความมั่งคั่งของสหรัฐฯ โดยทางรัสเซียนั้นมุ่งหมายบ่อนทำลายอิทธิพลของสหรัฐฯ ทั่วโลก และทำให้แตกแยกกับพันธมิตรและหุ้นส่วน นอกจากนี้อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียยังถือเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับสหรัฐฯ ขณะที่จีนก็พยายามแทนที่สหรัฐฯในเอเชีย ซึ่งท่าทีของทรัมป์ที่กล่าวถึงรัสเซียและจีน กลายเป็นหนังคนละม้วนกับถ้อยคำในยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติใช้เวลาร่างนาน 11 เดือน

 

จีน-รัสเซีย สับเละสหรัฐฯ เป็นพวกถืออำนาจเผด็จการข้างเดียว หลัง ทรัมป์ ออกมาตราหน้าจีน-รัสเซีย ทำสหรัฐฯสูญเสียผลประโยชน์

ต่อมาวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทางด้าน นายหวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้สหรัฐฯ ว่าการที่สหรัฐฯยกจีนเป็นพันธมิตร แต่อีกด้านหนึ่งมองเป็นฝ่ายตรงข้ามเป็นมุมมองที่ไม่สมเหตุสมผล เป็นแนวคิดแบบสงครามเย็นที่ล้าสมัย ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อทิศทางของความร่วมมือและความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีเท่านั้น แต่ยังจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของประชาคมโลกด้วย 

 

จีน-รัสเซีย สับเละสหรัฐฯ เป็นพวกถืออำนาจเผด็จการข้างเดียว หลัง ทรัมป์ ออกมาตราหน้าจีน-รัสเซีย ทำสหรัฐฯสูญเสียผลประโยชน์

 

ส่วนทางด้าน นายดมิตริเปสคอฟ โฆษกทำเนียบรัสเซีย ได้ตอบโต้สหรัฐฯ เช่นกันว่า ความคิดของทรัมป์นั้น เป็นความคิดนักจักรวรรดินิยม คือการปฏิเสธไม่ฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ถืออำนาจเผด็จการข้างเดียว