ยอดบริจาคทะลุ!! หลังจากชาวเน็ตได้ชมภาพไวรัลสุดสะเทือนใจ เด็กน้อยชาวจีน เดินเท้าฝ่าอากาศหนาวมาสอบ ส่งผลให้ชาวเน็ตแห่ช่วยกันบริจาค

     หลังจากที่มีการแชร์ภาพหนูน้อยชาวจีนรายหนึ่ง เด็กชายหวัง ที่ต้องเดินเท้าฝ่าสภาพอากาศหนาวเย็น -9 องศาเซลเซียส แถมเสื้อผ้าก็ไม่ได้หนา เพื่อมาสอบส่งผลให้มีเกร็ดน้ำแข็งเกาะอยู่เต็มเส้นผมและคิ้ว หลังจากที่ได้เผยแพร่ออกไปนั้น หลายๆคนก็ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆ กันอย่างมากมาย ถึงความน่าสงสารและความมานะพยายามของน้อง (อ่านข่าวเพิ่มเติม : ผมหนาว!! แต่ผมต้องมีอนาคตที่ดี....เด็กชายต้องเดินฝ่าหิมะ -9 องศา ไกล 4.5 กม. เพื่อมาโรงเรียน )
 

     หลังจากที่มีการแชร์ภาพหนูน้อยชาวจีนรายหนึ่ง เด็กชายหวัง ที่ต้องเดินเท้าฝ่าสภาพอากาศหนาวเย็น -9 องศาเซลเซียส แถมเสื้อผ้าก็ไม่ได้หนา เพื่อมาสอบส่งผลให้มีเกร็ดน้ำแข็งเกาะอยู่เต็มเส้นผมและคิ้ว หลังจากที่ได้เผยแพร่ออกไปนั้น หลายๆคนก็ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆ กันอย่างมากมาย ถึงความน่าสงสารและความมานะพยายามของน้อง

 

     ล่าสุด วันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา เว็บไซต์เดอะซัน ได้รายงานว่าด้วยความน่าสงสารที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวเน็ตทั่วประเทศพร้อมใจกันบริจาคเงินเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางมูลนิธิพัฒนาเด็กของมณฑลยูนนานที่เป็นผู้รับเงินบริจาคดังกล่าว เผยว่า ทางมูลนิธิได้รับยอดเงินบริจาคเข้ามา 2.1 ล้านหยวน (ราว 10 ล้านบาท) ซึ่งมันจะถูกนำมาจัดสรรเพื่อช่วยเหลือเด็กชายหวังและโรงเรียนของเขาต่อไป 

     โดยพบว่าเด็กทุกคนในโรงเรียนประถมซวนซานเป่า ซึ่งเด็กชายหวังเรียนอยู่ จะได้รับเงินจากการบริจาคครั้งนี้คนละ 500 หยวน (ราว 2,500 บาท) อย่างไรก็ตามแม้จะมีเสียงวิจารณ์จากชาวเน็ตเรื่องที่มูลนิธิที่รัฐดำเนินการ จะเข้ามาเป็นผู้จัดการเงินส่วนนี้แทนที่จะนำไปช่วยเด็กชายหวังทั้งหมด แต่ทางมูลนิธิชี้ว่าแคมเปญที่พวกเขาเปิดรับบริจาคนั้น ยังมีจุดประสงค์เพื่อจะช่วยเหลือเด็กคนอื่น ๆ ที่เผชิญความลำบากเช่นเดียวกับเด็กชายหวังด้วย 

 

ขอบคุณ
thesun

China Xinhua News

 

อ่านข่าวบันเทิงเพิ่มเติม :

***   หนาวสะท้าน!!! เปิดภาพหมู่บ้านที่หนาวที่สุดในโลก สร้างสถิติใหม่อุณหภูมิต่ำกว่า -60 องศา (คลิป)

***   คนไข้ฉุน หมอโรคหัวใจหายทั้งแผนก ปล่อยรอคิวนานกว่า 40 น. ที่แท้กินเลี้ยงวันเกิดหัวหน้าแพทย์ (คลิป)

***   โหดเหี้ยม!!!!! แม่ชาวจีนทำโทษลูก มาราธอนยาว 5 ชม. ทั้งทุบ ทั้งตี จนลูกตายเพราะทำมือถือหาย อีกทั้งคำสารภาพของผู้เป็นแม่ ทำชาวโซเชียลรุมประณาม