ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

เดือดกว่าไฟเตโชฯ!! "อ.สุวินัย" โต้ "อ.อ้อย อัจฉราวดี" เข้าใจไปเองว่า "บรรลุธรรม" ตีความพระบาลีผิดๆ เตโชฯ มีจริง..แต่ไม่ได้ใช้แบบที่เข้าใจ!!

            จากกรณีของอาจารย์อ้อย อัจฉราวดี วงศ์สกล เจ้าสำนักเตโชวิปัสสนา กับประเด็นที่เธอออกมาบอกว่า ไม่ได้ออกบวชก็สามารถบรรลุธรรมได้ และได้อ้างตัวว่า เป็น "ฆราวาสบรรลุธรรม" ที่เป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ จากการเปิดประเด็นของเว็บไซต์ alittlebuddha ที่ออกมาเปิดประเด็นถึงเรื่องนี้เป็นรายแรก

 

อ่านข่าวเพิ่มเติม อริยะพันธุ์พิเศษ?! เว็บดังเปิดประเด็น อ.อ้อย เจ้าสำนัก "เตโชวิปัสสนา" อ้างเป็น "ฆราวาสบรรลุธรรม" โดยไม่ต้องบวช สื่อจิตกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้

 

            หลายคนยังสงสัยกับคำว่า "เตโชวิปัสสนา" ว่าคำนี้ๆ คืออะไร และมีที่มาที่ไปอย่างไร ทั้งนี้ อาจารย์สุวินัย ภรณวลัย ได้ออกมามาตอบคำถามของนิยามของเตโชวิปัสสนากรรมฐาน ในความเชื่อของบรรดาลูกศิษย์อาจารย์อ้อย อัจฉราวดี ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยระบุข้อความว่า

เดือดกว่าไฟเตโชฯ!! "อ.สุวินัย" โต้ "อ.อ้อย อัจฉราวดี" เข้าใจไปเองว่า "บรรลุธรรม" ตีความพระบาลีผิดๆ เตโชฯ มีจริง..แต่ไม่ได้ใช้แบบที่เข้าใจ!!

 

วิวาทะเรื่องเตโชวิปัสสนากรรมฐาน /สุวินัย ภรณวลัย

ตามความเชื่อของลูกศิษย์อ.อัจฉราวดี นิยามของเตโชวิปัสสนากรรมฐานเป็นดังนี้

"เตโชวิปัสสนากรรมฐาน คือการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ตามหลักสติปัฏฐานสี่ เน้นมาที่การมีความเพียรเผากิเลส เตโชวิปัสสนา เป็นเทคนิคในการปฏิบัติ ที่ตีตรงมาที่หัวใจของคำว่า อาตาปี สัมปชาโณ สติมา พึงมีความเพียรเผากิเลสให้เร่าร้อน หลักการภาวนา เป็นการจุดธาตุไฟในกายมาเผากิเลส ไม่ใช่เตโชกสิณ ที่เพ่งไฟจากภายนอก แต่เตโชวิปัสสนา คือการตั้งสติรู้กาย เวทนา จิต ธรรม ด้วยเทคนิควิธีการที่ทำให้เกิดธาตุไฟในกายจุดขึ้นมาเผากิเลส ทำให้จิตบริสุทธิ์อย่างรวดเร็ว
การปฏิบัติวิธีนี้ ไม่เคยมีผู้ใดได้รู้วิธีการมาก่อน พระอาจารย์สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ท่านได้มาสื่อจิตสอนวิธีการปฏิบัติให้ อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล เมื่อปี 2550 และเมื่ออาจารย์ได้ทดลองปฏิบัติดู ก็ได้เห็นความมหัศจรรย์ของผลที่ได้จากการปฏิบัติด้วยเป็นวิธีที่สามารถชำระจิตให้บริสุทธิ์ชนิดขุดรากถอนโคนกิเลส เกิดเป็นมรรคผลที่เป็นเสมือนเส้นทางลัดมุ่งไปสู่ประตูนิพพานดังที่ได้บันทึกไว้ในหนังสือ เตโชวิปัสสนา...เปิดประตูนิพพาน"

ประเด็นที่ผู้รู้ทั้งหลายแย้งมาหลักๆ มี 2 ประเด็นที่น่าสนใจทางวิชาการคือ

1) ความหมายจริงๆของอาตาปีคือ "ปรารภความเพียรเพื่อละอกุศลธรรม เพื่อยังกุศลธรรมให้เกิดขึ้น มีกำลังใจมีความเพียรมั่น ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย"
มิได้หมายถึง "การจุดธาตุไฟในกายมาเผากิเลส" ตรงนี้คือความเข้าใจผิดเพราะตีความพระบาลีแบบผิดๆนั่นเอง

งั้นๆ ถามว่า วิชาจุดหรือปลุกเตโชธาตุในกายหรือให้เกิดไอร้อนในกายมีในศาสนาพุทธมาก่อนการค้นพบวิชาเตโชวิปัสสนากรรมฐานหรือไม่ ... คำตอบที่ชัดเจนคือมีครับ เรียกว่า Tummo ของพุทธทิเบต แต่วิชานี้พระลามะทิเบตฝึกไว้เพื่อต่อต้านความหนาวในสภาพอากาศที่เย็นจัดเป็นหลัก มิใช่เพื่อเผากิเลส ชำระจิตให้บริสุทธ์อย่างรวดเร็วแต่ประการใด

2)โดยส่วนตัวผมไม่สงสัยประสบการณ์ผู้ฝึกที่เกิดไอร้อนในกายขณะที่ฝึกเตโชวิปัสสนานะ แต่การฝึกภาวนาจนเกิดไอร้อนแล้วไปตื่นเต้นดีใจว่าตัวเอง "บรรลุธรรม"แล้วมันเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดและความหลงผิดที่หนักหนาสาหัสมากของผู้ฝึกเตโชวิปัสสนาทุกคนที่หลงเชื่อเช่นนั้นไล่ตั้งแต่เจ้าสำนักลงมา

จะว่าไปแล้วคนที่ฝึกวิชาลมปราณทั้งหลาย โดยเฉพาะสายเต๋าหรือวิชากำลังภายในล้วนรู้จักช่ำชองการฝึกแบบนี้เป็นอย่างดี แต่จุดประสงค์ของการฝึกให้เกิดไอร้อนในกายของเต๋านั้นก็เพื่อสุขภาพ ทำให้อายุยืน และชะลอวัยมากกว่า โดยชักนำไอร้อนที่เกิดขึ้นบริเวณท้องน้อยให้ไหลเวียนไปตามวงโคจรจุลจักรวาลน้อย(เสี่ยวโจวเทียน)ในร่างกาย

ดังนั้น การคร่ำเคร่งฝึกเตโชวิปัสสนาสำหรับคนที่คิดว่าใช่ มันคงช่วยหล่อเลี้ยงเส้นทางภาวนาของคนผู้นั้นได้ แม้จะฝึกปฏิบัติด้วยความหลงผิดเข้าใจผิดก็ตาม

แต่เตโชวิปัสสนาโดยตัวมันเองไม่ทำให้ผู้นั้น"บรรลุธรรม"ได้ อันนี้ก็จริงแท้แน่นอน

ถ้าเชื่อถ้าศรัทธาเตโชวิปัสสนากรรมฐานก็ทำต่อไปเถอะครับ ยังไงก็ยังดีกว่าคนทั่วไปที่ไม่ฝึกปฏิบัติแต่ผู้ฝึกเตโชวิปัสสนาควรฝึกด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องตามหลักวิชาการและตระหนักถึงข้อจำกัดของเตโชวิปัสสนาด้วยว่าจะพาผู้นั้นไปถึง"ทางตัน"ที่จุดใด

ในอดีตผมเคยเจอ "วิชาของหลวงปู่โต"ที่มาสอนผู้นั้นในสมาธิมาก่อน โดยที่วิชานั้นเกี่ยวโยงกับการบริกรรมคาถาชินบัญชรเพื่อเร่งธาตุในกายจนกระทั่งผู้ฝึกเข้าสู่สมาธิแบบ Dynamic Meditation ได้ จะว่าไปแล้ว วิชาทางจิตที่เร้นลับแบบนี้ยังมีความเชื่อมโยงกับหลวงปู่โตผ่านคาถาชินบัญชร มากกว่าวิชาเตโชวิปัสสนาของอ.อัจฉราวดีเสียอีกที่เราหาความเชื่อมโยงกับตัวตนของหลวงปู่โตแทบไม่ได้เลย นอกจากคำกล่าวอ้างที่ค่อนข้างเลื่อนลอยของตัวเจ้าสำนักเตโชวิปัสสนาเท่านั้น

ผมเขียนบทความชิ้นนี้ด้วยความหวังดีและปรารถนาดีต่อคนที่ฝึกเตโชวิปัสสนาทุกคนนะ โปรดอย่าทำตัวแบบคนที่ยังเชื่อว่า "โลกแบน" อยู่เลย สิ่งที่พวกท่านทำอยู่นั้นเป็นรูปแบบหนึ่งของการภาวนาก็จริง แต่ผลที่คาดหวังอย่างเลิศลอยนั้นไม่จริงแน่นอน

เดือดกว่าไฟเตโชฯ!! "อ.สุวินัย" โต้ "อ.อ้อย อัจฉราวดี" เข้าใจไปเองว่า "บรรลุธรรม" ตีความพระบาลีผิดๆ เตโชฯ มีจริง..แต่ไม่ได้ใช้แบบที่เข้าใจ!!

ทั้งนี้ทางด้านนักเขียนชื่อดัง "ทิพยจักร" ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค Jaruvat Chanposri ถึงกรณีเตโชวิปัสสนา ถึงแนวทางและหลักการปฏิบัติ โดยระบุข้อความว่า

        ผมเองอ่านแนวทางวิธีเตโชวิปัสสนาแล้วก็สรุปได้ว่า หลักการของเตโชวิปัสสนานั้นคือการอาศัยการตามรู้เวทนาอันเกิดจากธาตุไฟในตัวเรา หลักการลักษณะนี้ ทางสำนักของท่านโกเอ็นก้าก็สอนและเผยแพร่มานานแล้วครับ การตามรู้เตโชธาตุในตัวนั้นแม้สำนักที่เล่นปราณ เล่นพลังจักรวาล พลังชี่กงแบบเต๋าก็รู้จักกันดี

       โดยวิธีการ ในการตามรู้นั้นเป็นเรื่องทางสมถะครับ มิใช่ด้านวิปัสสนาเลยแม้แต่น้อย จะเป็นวิปัสสนาก็ต่อเมื่อจิตเห็นความเกิดดับในกาย เวทนา จิต ธรรม ซึ่งในเบื้องต้นหรือต้นทางนั้น จิตต้องเห็นตั้งแต่ปฏิกูลในกาย จนถึง ความเป็นอนัตตาของกาย ซึ่งมีผลให้จิตเบื่อหน่ายในกาม เมื่อจิตแจ้งในกายสังขารแต่นั้นไปแม้เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็จะถูกกำหนดรู้ว่าไม่เที่ยงเป็นทุกข์เช่นกัน ความคลายออกจากความยึดมั่นถือมั่นจึงมีขึ้น

        ถ้าเข้าใจว่าการกำหนดเอาไอร้อนในตัวเผากิเลสได้นั้นเป็นการเข้าใจผิดๆตีความพระบาลีแบบผิดๆครับ การจะละกิเลสไม่ใช่การนั่งภาวนาแบบมุทะลุ แต่เป็นการรู้จักการใช้ สติ สมาธิและปัญญา รวมพลังกันในการพิจารณาเพื่อละสิ่งที่หลง อีกประการหนึ่งคือ การกำหนดเอาเวทนาคือความร้อนในกายเพื่อไปเผากิเลสในใจนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว จะละกิเลสละอวิชชาเป็นงานทางด้านปัญญาที่ต้องเข้าไปคลี่คลายอย่างตรงๆ หาใช่เอาเตโชธาตุไปเผาอย่างที่เข้าใจ

            ลองย้อนไปพิจารณาเมื่อครั้งท่านอัญญาโกญฑัญญะมีดวงตาเห็นธรรมเป็นพระโสดาบัน ท่านก็สรุปรวมในจิตท่านได้ว่าสิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นดับไปเป็นธรรมดา จิตแจ้งในความเกิดดับนั่นเอง อันนี้เป็นส่วนของปัญญาที่พาให้เห็นแจ้งในสัจจะความจริงและพาพ้นสมมุติอวิชชา มิได้เป็นการเอาเตโชธาตุ เวทนาใดๆมากำหนดเพื่อแผดเผาเลย วิปัสสนา เป็นเรื่องของการรู้จริงตามสัจจะความจริงที่มีอยู่ คือ การเกิด การดับ เมื่อจิตรู้แจ้งจิตก็ละความยึดมั่นถือมั่นทั้งปวงลง ท่านผู้ปฏิบัติทั้งหลายพึงพิจารณาเอาเถิด

 

 

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่

ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้ไม่ใช่ของจริง!! ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ.. "ประธานสงฆ์คนงาม เจ้าสำนักเตโชฯ" #ฆราวาสบรรลุธรรม !!

แตกต่างกันเหลือเกิน!! นักเขียนดังชี้จริยวัตรงดงามไม่ฉาบมายาของ "คุณแม่จันดี" เทียบ "อ.อ้อย อัจฉราวดี" รู้เลยใครกันแน่ ฆราวาสบรรลุธรรมตัวจริง

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : Facebook Suvinai Pornavalai

                           Facebook Jaruvat Chanposri