- 29 พ.ค. 2562
เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ดาราสาวดีกรีนางงาม อย่าง จ๋า ญาสุมินทร์ เลิศอมรวัฒนา ที่ก่อนเริ่มเข้าวงการเธอเป็นพยาบาลประจำที่โรงพยาบาลหนองคาย จากนั้นได้มีโอกาสประกวดนางงามเพื่อหารายได้พิเศษ เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว จนกระทั่งมีคนแนะนำให้เข้าสู่เวทีประกวดนางงามในเวทีระดับประเทศ
เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ดาราสาวดีกรีนางงาม อย่าง จ๋า ญาสุมินทร์ เลิศอมรวัฒนา ที่ก่อนเริ่มเข้าวงการเธอเป็นพยาบาลประจำที่โรงพยาบาลหนองคาย จากนั้นได้มีโอกาสประกวดนางงามเพื่อหารายได้พิเศษ เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว จนกระทั่งมีคนแนะนำให้เข้าสู่เวทีประกวดนางงามในเวทีระดับประเทศ
โดย จ๋า ญาสุมินทร์ ได้รับตำแหน่ง รองมิสไทยแลนด์เวิลด์อันดับ 1 ประจำปี 2537 ความสวยของเธอทำให้ได้เข้าวงการบันเทิงอย่างรวดเร็ว มีผลงานการถ่ายแบบมากมาย รวมไปถึงการแจ้งเกิดในพิธีกรรายการโทรทัศน์ อย่างรายการ มาสเตอร์คีย์ กับ นีโน่ เมทนี บุรณศิริ โดยทำหน้าที่พิธีกรมานานถึง 13 ปี ก่อนที่จะห่างหายไปจากวงการตั้งแต่ปี 2550
ก่อนชีที่ จ๋า ญาสุมินทร์ นั้นจะตกลงแต่งงานกับ อเล็กซ์ แคนโนน แฟนหนุ่มชาวออสเตรเลีย และมีลูกด้วยกัน 1 คน คือ น้องเอเจ อรัณย์ แคนโนน แต่ปัจจุบัน สาวจ๋า ได้เลิกรากับสามีแล้ว
ซึ่งสาว จ๋า ญาสุมินทร์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่ได้โลดแล่นอยู่ในวงการถึง 13 ปี ก็ถูกปลดจากรายการแบบฟ้าผ่า ซึ่งขณะนั้นได้รับโทรศัพท์จากผู้ใหญ่ว่า ตนโดนปลดออกจากรายการเพราะปรับผังใหม่ โดยจะไม่มีตนร่วมจัดรายการ คำถามในใจของเธอขณะนั้นคือ เธอจะไปทำอะไร เพราะขณะนั้นตัวเธอเองก็ได้เริ่มลงทุนในธุรกิจอื่นๆ บ้างแล้ว แต่เจ้าตัวก็คิดว่าไม่เป็นไร ไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิงก็ทำธุรกิจส่วนตัวไป โดยในตอนนั้นเธอเสียใจมาก ไม่รู้ว่าจะเดินต่อไปอย่างไร หรือเข้าไปพูดกับใครที่ไหนได้บ้าง เพราะไม่มีใครให้คำแนะนำใดๆ เพราะโดยส่วนตัวเข้าใจว่าการเป็นดาราก็เหมือนผู้ถูกว่าจ้างทั่วๆไป ที่ผู้จ้างมีสิทธิ์เลิกจ้างเมื่อใดก็ได้ และตนก็ไม่ทราบว่าจะไปเรียกร้องกับใคร
รวมไปถึงอีกหนึ่งเรื่องราวที่ฝังใจและเจ็บปวดตลอดชีวิต คือเรื่องการทำศัลยกรรม และเจอหมอเถื่อน จนคนตราหน้าว่า หน้าเน่าเพราะพิษศัลยกรรม! ซึ่ง จ๋า ญาสุมินทร์ กล่าวว่า ตอนนั้นเพียงแค่อยากทำให้ออกมาดีที่สุด แต่เราโชคร้ายที่เจอหมอเถื่อน ตนก็ไม่รู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี เริ่มมาจากคำว่าไม่รู้ เพราะพี่ๆในวงการแนะนำตนก็ไป อาจเป็นเพราะตนไม่ได้ยับยั้งชั่งใจ ใครบอกว่าดีก็ไป และในสมัยก่อนวงการบันเทิงยังไม่ได้ยอมรับเรื่องศัลยกรรม หากแฟนๆรู้จะเหมือนเรื่องผิดเป็นอย่างมาก จะโดนต่อว่า ว่าสวยไม่จริง ดูเป็นเรื่องลบมากในสมัยนั้น ซึ่งตนรู้สึกกดดันมากในยุคนั้น คิดมาก เครียด กระแสตอนนั้นแรงมาก ทั้งโดนล้อในรายการ โดนโจมตีข่าวเรื่องศัลยกรรมต่างๆนานา คนอื่นอาจไม่คิดอะไร แต่ตนเก็บเอาไปคิดทุกวันว่า ตัวเราไม่ดีพอหรือ รู้สึกเหมือนตนเป็นสิ่งแปลกปลอมหรือตัวประหลาด ทำให้สูญเสียความมั่นใจไปพอสมควร ซึ่งความจริงตนคิดเพียงว่าอยากทำให้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ผลลัพธ์มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเท่านั้นเอง
นอกจากนี้ จ๋า ญาสุมินทร์ ได้เล่าถึงประสบการณ์การเจอหมอเถื่อนต่อว่า ได้ไปตรวจพบในช่วงหลังว่า สิ่งที่หมอฉีดเข้าไปในหน้าคือ พาราฟิน สารประกอบที่เอาไว้ทำเทียนไข ซึ่งตนได้รับการผ่าตัดแก้ไขเยอะมาก สารบางอย่างเอาออกไม่หมดเพราะมันแทรกซึมไปตามเซลล์ผิวหนังแล้ว ในวงการบันเทิงต้องการคนสวยและ ซึ่งตนก็ต้องการให้ดูสวย แต่โชคร้ายที่ต้องมาเจอหมอเถื่อน และมีคนในวงการไม่น้อยที่โดนพิษศัลยกรรมจากหมอเถื่อน คนในวงการกว่า 20 คน ที่รอเข้ารับการบริการซึ่งถือว่าเยอะมาก ค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการก็มีราคาสูง เพียงแต่หมอที่ทำศัลยกรรมไม่ซื่อสัตย์ในอาชีพ ฉีดสิ่งที่ไม่ควรฉีดเข้าสู่ร่างกายตน ซึ่งที่ผ่านมา ตนได้ทำการผ่าตัดแก้ไขสิ่งแปลกปลอมบนใบหน้ามาแล้วกว่า 10 ครั้ง สมัยก่อนก็ทำศัลยกรรมที่แก้ม ฉีดเข้าไปตามร่องเพื่อให้ใบหน้าอิ่ม และตอนหลังได้ไปเอาออกแต่ก็ยังไม่หมด และมีที่คาง จมูก ซึ่งตนได้เอาออกไปแล้ว ซึ่งก็ยังมีบางจุดที่เอาออกไม่ได้เพราะมันติดกับเส้นประสาท ไม่สามารถขูดออกได้เสี่ยงต่อการทำให้ใบหน้าผิดรูป ตนคาดหวังในวิวัฒนาการความงามว่า จะสามารถเอาสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ออกไปได้หมด จากที่ช่วงแรกๆที่ต้องอยู่กับมัน เกลียดมันมากๆเพราะต้องมาอยู่ในใบหน้าเรา แต่ตอนนี้ตนได้ปรับวิธีคิดให้อยู่ร่วมกับมันได้ ทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ขอบคุณ jaa_yasumin