"สุวัจน์" เปิดปากปมร่างรธ. ลั่นอยากเห็นความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อประโยชน์ของชาติ - ชี้ท้ายสุดปชช.เป็นผู้ตัดสิน!!

 

เมื่อวันที่ 9 ม.ค.59 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เปิดบ้านเนื่องในวันเกิดครบรอบ 61 ปี และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อมวลชน โดยระบุเนื้อหาดังนี้

 

 

 

 

 

สุวัจน์: เรื่องการร่างรัฐธรรมนูญเนี่ยนะครับ ผมคิดว่าช่วงนี้คณะกรรมาธิการที่เค้าร่างเนี่ย ก็คงอยากที่จะรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ก่อนที่จะไปสรุปเพื่อนำไปสู่การแก้ไข ฉะนั้นเราอาจจะมีความรู้สึกว่าตอนนี้มีความคิดเห็นที่เสนอขึ้นมาเยอะ เนื่องจากรัฐธรรมนูญเนี่ยมีทั้งประเด็นนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และเรื่องเศรษฐศาสตร์ นะครับ ฉะนั้นในแต่ละเรื่อง แม้แต่เรื่องกฎหมายหรือเรื่องนิติศาสตร์เนี่ย เรื่องเดียวกันก็ยังมองเห็นต่างกันอยู่แล้ว รัฐศาสตร์ก็เหมือนกัน เศรษฐศาสตร์ก็เหมือนกัน ฉะนั้นผมคิดว่า ณ ขณะนี้มองว่าเป็นเรื่องปกตินะครับ ในการที่มีความรู้สึกว่ามีความเห็นต่างกันอยู่ แต่ผมก็มีความเชื่อมั่นทั้งสองฝ่ายนะครับ ทั้งฝ่ายที่เป็นผู้ร่างอย่างท่านมีชัยเนี่ย ก็ต้องถือว่าท่านเป็นผู้ที่รู้เรื่องนี้ และอยู่ในวงการเรื่องนี้มานาน

ส่วนผู้ที่ให้ความคิดเห็นต่างๆ โดยเฉพาะพรรคการเมือง หรือผู้นำทางองค์กรต่างๆ นั้น ก็มีประสบการณ์ล่ะครับ เพียงแต่ว่าผมอยากเห็นความร่วมมือกันนะครับ เหมือนกับว่าเราต้องอยู่ร่วมกันในการที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ที่แต่ละฝ่ายมี ด้วยบรรยากาศของมิตรภาพ ด้วยบรรยากาศของความรู้สึกว่าพวกเรากำลังทำหน้าที่ในการที่จะให้รัฐธรรมนูญดีที่สุดแล้วก็เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ฉะนั้นถ้าเราสามารถที่จะเปิดใจกว้างด้วยกันทุกฝ่ายนะครับ คณะกรรมาธิการก็เปิดใจกว้างที่จะรับฟังความคิดเห็น ผู้ที่ให้ความคิดเห็นก็ถ่ายทอดจากประสบการณ์ที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ในเชิงสร้างสรรค์ ผมคิดว่าถ้าเราสามารถสร้างบรรยากาศอย่างนี้ได้เนี่ย ก็จะเป็นประโยชน์ แม้ว่าวันนี้อาจจะเห็นต่างกัน แต่ถ้าเกิดเราได้รวบรวมความคิดเห็นต่างๆ เนี่ย แล้วนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไข เพราะขณะนี้ก็ยังไม่ได้สิ้นสุดนะครับ ก็จะเป็นประโยชน์ แล้วผมคิดว่าสำคัญที่สุดเนี่ย ในที่สุดแล้วพี่น้องประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน เพราะจะมีการทำประชามติ ก็เป็นเรื่องที่ดีนะครับ

เราจำกันได้ตอนร่างรัฐธรรมนูญปี 49 เนี่ย ตอนนั้นก็มีบรรยากาศอย่างนี้เหมือนกันว่าเห็นด้วยไม่เห็นด้วย แต่เมื่อนำไปประชามติแล้ว พอพี่น้องประชาชนตัดสินออกมาเนี่ย ก็เป็นเรื่องที่ดีที่สังคมไทยทุกฝ่ายให้การยอมรับ แล้วก็ไม่ได้มีประเด็นที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง ฉะนั้นถ้าเราดูอย่างนี้นะครับ แล้วเราพยายามรักษาบรรยากาศต่างๆ แต่สำคัญที่สุดก็คือว่าเนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้เนี่ย เป็นรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นท่ามกลางสภาวะแวดล้อมของประเทศ ที่เกิดจากความขัดแย้งแล้วก็มีความเห็นตรงกัน ว่าจะต้องตั้งรากฐานของการปฏิรูป ฉะนั้นผมคิดว่าก็จะเห็นอะไรใหม่ๆ หลายๆ อย่าง ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ฉะนั้นเนี่ยความคิดเห็นที่แตกต่างกันเนี่ยก็ช่วยกันสะท้อนออกมา สำคัญที่สุดก็คือว่าในการทำประชามตินั้น เราจะทำอย่างไรให้ผู้ที่จะให้คำตอบ ก็คือประชาชนเนี่ย ได้รับรู้ข้อเท็จจริง ข้อมูลที่ถูกต้อง แล้วให้พี่น้องประชาชนเนี่ยเป็นผู้ตัดสินว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ชอบหรือไม่ชอบ รับหรือไม่รับ ฉะนั้นตอนนี้ผมคิดว่าเราก็สามารถที่จะให้ข้อมูล หาช่องทางให้พี่น้องประชาชนเนี่ย ได้รับข้อมูลที่เป็นกลาง เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ดุลพินิจการตัดสินใจมอบให้พี่น้องประชาชน ผมเชื่อว่าจะได้ข้อยุติที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับ