"สนธิญาณ"ฟันธง!การเมือง59เดือดระอุแน่คดี"ชายจืด"สลายพันธมิตร-"ปู"ข้าวเน่าจะถูกชูเป็นประเด็นเคลื่อนไหว!จับตาลิ่วล้อ"แม้ว"ช่วยโหมกระพือแค่ไหน?

ติดตามข่าวสารได้ที่ http://www.tnews.co.th

 


รายการ "ธราวุฒิ ถามตรง สนธิญาณ ฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 1 มกราคม 2559 ออกอากาศทางช่องทีนิวส์  ดำเนินรายการโดย คุณธราวุฒิ ฤทธิอักษร (แซค) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการ บริษัททีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

 


สนธิญาณ : สวัสดีครับแฟนข่าวทีนิวส์ทุกท่านสวัสดีปีใหม่ เราได้เริ่มต้นศักราชใหม่ปีใหม่ ความจริงก็คือวันธรรมดาวันหนึ่งที่หมุนเวียนมาพบกับชีวิตเราทุกวันตามวิถีชีวิตปกตินั่นก็คือเรามีภารกิจและทำงานหลับนอนตื่นเช้าขึ้นมาก็จะเจอกับวิถีชีวิตเดิม ๆ ทุกวัน แต่วันนี้ก็คือวันที่ได้สมมติกันว่าเป็นวันเริ่มต้นของปีใหม่ว่ายังไปตามกาลหมุนเวียนของดวงอาทิตย์และโลกที่หมุนเวียนรอบตัวเองและดวงอาทิตย์ ชีวิตของมนุษย์ทุกคนจะอวยพรกันมากน้อยขนาดไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับผลที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของตัวเอง เพราะฉะนั้นผมก็ขออวยพรให้กับญาติมิตรแฟนข่าวทีนิวส์ทุกคนว่าขอให้จิตใจเข้มแข็งมีสติมุ่งมั่นคิด พูด กระทำในสิ่งดีงามทุกสิ่งทุกอย่างที่จะกลับมายังชีวิตของพวกเราและสังคมไทยทั้งหมดก็จะบังเกิดแต่ความดีความงามเราก็จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ปี 2559 จะเป็นปีที่การเมืองไทยจะดุเดือดเลือดพล่านมากกว่าปี 2558 ผมเรียนย้ำนะครับ ปีที่ผ่านมาเราอาจจะดูเหมือนว่าสถานการณ์ไม่มีอะไรมาก คสช. เข้ามาคุมสถานการณ์ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2557 เรารู้สึกสบายใจ ไม่มีม็อบ ไม่มีการปะทะของทั้งสองฝ่ายแต่ในแง่การปฏิบัติการทางการเมืองแล้วถือว่ารุนแรงมากในปี 2558 อย่าลืมนะครับเรามีระเบิดราชประสงค์ เรามีคำรับสารภาพของกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมืองว่ามีการจัดตั้งเป็นกลุ่มขบวนการที่เรียกว่ากลุ่มปฏิวัติเพื่อเปลี่ยนแปลงการเมือง ยืนยันชัดเจนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยการก่อตั้งสหพันธรัฐ ซึ่งนั่นหมายความว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ต้องล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ และก่อรูปการปกครองแบบระบบสาธารณรัฐขึ้น และมีการเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผยอย่างอาจารย์หวาน ซึ่งพูดชัดเจนประกาศชัดว่าต้องการใช้ระบบสาธารณรัฐ ในคำรับสารภาพในปี 2558 ของนายมหาหิน ขุนทอง หนึ่งในผู้ต้องหาที่ขว้างระเบิดศาลอาญาที่บอกว่าวางระเบิด 100 จุดเพื่อสร้างความวุ่นวายแล้วต่างชาติจะเข้ามาดูช่างจะไปสอดรับและขานรับกับบทบาทของทูตสหรัฐอเมริกาหรืออังกฤษ ที่ออกมาพูดเรื่องความไม่เป็นประชาธิปไตย และทำให้หวนไปนึกถึงเหตุการณ์ในซีเรียที่สหรัฐอเมริกาเข้าไปสนับสนุนกลุ่มกบฏต่อรัฐบาลซึ่งตัวเองประกาศว่าเป็นเผด็จการจึงต้องสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลงให้เป็นประชาธิปไตย กลุ่มกบฏนั้นจะก่อเหตุด้วยอาวุธสงครามมากมายที่สหรัฐอเมริกานั้นส่งไปสนับสนุนนั่นคือสิ่งที่ได้เกิดขึ้นแล้วในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเราดังที่ได้เรียนว่าปี 2558 ไม่ใช่ปีที่สงบราบเรียบแต่เป็นการก่อรูปของคลื่นใต้น้ำที่รุนแรง ปี 2559 มีคดีความ 2 คดีใหญ่จะเป็นตัวชี้นำทางการเมืองนั่นก็คือคดีของคุณ สมชาย วงษ์สวัสดิ์ ที่ขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง ในกรณีการใช้ความรุนแรงปราบปรามกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย เมื่อปี 2551 กับอีกคดีของคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา157 ในกรณีจำนำข้าว 2คดีนี้จะถูกชูมาเป็นสถานการณ์หลักของการเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยมีสถานการณ์อื่น ๆ ที่รองรับจากสถานการณ์อื่น ๆ ที่เกิดขึ้น ความต่อเนื่องของสถานการณ์ที่เราเห็นอยู่ในตอนนี้ ตัวอย่าง ปปช. ยกคำร้องกรณีของคุณอภิสิทธิ์และคุณสุเทพในเรื่องของการผลักดันหรือการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553  และเอาไปเปรียบเทียบกรณีของคุณสมชายว่าเป็น 2 มาตรฐานที่เกิดขึ้น ดังนั้นการเคลื่อนไหวทางการเมืองก็จะหยิบฉวยสถานการณ์จาก 2 คดี 2 บุคคลดังกล่าวมาเป็นตัวเปิด และเราจะเห็นภาพของคุณยิ่งลักษณ์ที่ออกมาแสดงอิทธิฤทธิ์ทางการเมืองโดยมีการขยายความของบรรดาพรรคเพื่อไทย นปช. และคนเสื้อแดง ขานรับทำงานกันเป็นทีม เพื่อสร้างแรงกดดันและความรู้สึกในการถูกรังแกในฐานะเป็นผู้หญิงหรืออื่น ๆ อีกมากมายที่จะเกิดขึ้นติดตามมา ไม่เพียงเท่านั้นอีกกลุ่มหนึ่งที่จะออกมาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องและแหลมคมรุนแรงมากกว่าเดิมก็คือกลุ่มแนวร่วมทั้งหลาย ซึ่งในปี 2558 ที่ผ่านมาต้องถือว่าได้ก่อให้เกิดสถานการณ์ที่อึดอัดและเรียกว่าเป็นไม่ไปสำหรับ คสช. และรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักศึกษาหรือกลุ่มที่ประชาชนจัดตั้งขึ้นมาที่หยิบฉวยขึ้นมาที่เห็นว่าเป็นช่องว่าง เช่น กรณีราชภักดิ์เป็นต้น หรือหยิบฉวยสถานการณ์ต่าง ๆ ไปโหมให้เห็นกระแสหลักที่ผมได้กล่าวมาแล้ว ยังเดินไปในรอยเดิมและที่สำคัญที่สุดในปี 2559 ทุกคนคาดคิดได้ว่าเมื่อเลยไปประมาณกลางปีก็จะเป็นไปตาม RoadMap ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศไว้และนั่นก็ได้รับการยืนยันจาก พล.อ.ประยุทธ์ ตลอดมาว่าอย่างไรก็ไปตามเวลา RoadMap รัฐธรรมนูญจะผ่านไม่ผ่านก็จะจัดการเลือกตั้งขึ้นให้ได้ ดังนั้นในแง่มุมของคนที่กำลังต่อสู้และเคลื่อนไหวอยู่ก็จะโหมขยายฐานการสนับสนุนทั้งจากมวลชนและข้าราชการประจำทั้งหลายซึ่งถือว่าเป็นโครงสร้างหลักในการบริหารราชการเมืองบ้าน ว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จะอยู่เพียงเท่านี้ อยากให้ความร่วมมือก็เฉยเสียหรือควรจะเลือกข้างในแต่เห็นได้อย่างชัดเจน อันนี้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่เสริมสร้างการเมืองให้กดดันและวิกฤตมากยิ่งขึ้น ฟังดูแล้วเหมือนกันผมเอาสิ่งที่เลวร้ายเหลือเกินมาพูดกับแฟนข่าวทีนิวส์ในปี 2559 ซึ่งเป็นวันที่ 1 มกราคม แต่นี่เป็นความจริงที่เกิดขึ้นสิ่งเหล่านี้จะบรรเทาเบาบางลงได้ก็เพราะเราคนไทยทั้งหลายร่วมจิตร่วมใจทำสิ่งที่ดี ๆ คิดดี พูดดี ทำดี ให้เป็นพลังแห่งความสร้างสรรค์ของบ้านเมือง เป็นพลังส่งผลให้คนที่คิดร้ายทำลายบ้านเมืองมีความคิดที่จะกลับจิตใจมีความสำนึกในความดีงามขึ้น เพื่อให้พลังแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายได้เกิดเป็นพลังที่จะหนุนส่งนำพาความดีความงามชะล้างความเลวร้ายทั้งหลายนี้ออกไป ขอสวัสดีปีใหม่และขอให้ทุกท่านมีความสุข