ประมาทไม่ได้! เกาหลีเหนือประกาศศักดายิงจรวดดาวเทียมสำเร็จแล้ว หลายประเทศรุมประณามหนัก!!

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

 


ประชาคมโลกเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิดว่าเกาหลีเหนือจะทำการยิงจรวดดาวเทียมเมื่อไหร่ หลังจากมีการประกาศว่าจะยิงในวันที่ 8 – 25 ก.พ.นี้ ซึ่งเมื่อวันที่ 6.ก.พ.ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ประกาศขยับวันทดสอบการยิงจรวดดาวเทียมให้ใกล้เข้ามาเป็นไม่เกินวันที่ 14 ก.พ. แต่ล่าสุดนานาประเทศต้องตกตะลึง  เพราะเมื่อเช้าที่ผ่านเกาหลีเหนือได้ทำการยิงจรวดดาวเทียมเกาหลีเหนือไปเรียบร้อยแล้ว

 

 

 

 

 


เกาหลีเหนือประกาศผ่านรายการพิเศษทางสถานีโทรทัศน์ KCTV ของทางการว่า ประธานาธิบดีคิม จอง อึน สั่งการเมื่อวันเสาร์ให้ทำการยิงจรวดดังกล่าว


โดยรายงานระบุว่า ดาวเทียมสำรวจโลก "กวางมยองซง 4" ถูกยิงออกจากฐานเมื่อเวลา 9.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (07.30 น.ตามเวลาไทย) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จากศูนย์อวกาศโซแฮในเขตชอลซาน จังหวัดเปียงอานเหนือ ก่อนจะเข้าสู่วงโคจรตามเป้าหมาย ทั้งนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเตรียมเรียกประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในวันนี้ ตามคำเรียกร้องของญี่ปุ่น สหรัฐ และเกาหลีใต้ สำหรับชิ้นส่วนของจรวดส่วนแรกอาจจะตกลงในทะเลจีนใต้ และชิ้นส่วนที่สองคาดว่าจะตกลงในทะเลฟิลิปปินส์ การทดสอบขีปนาวุธในวันนี้เป็นการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลครั้งที่ 6 ของเกาหลีเหนือภายใต้โครงการพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์ข้ามทวีป


ขณะที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ หารือฉุกเฉิน เหตุเกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลขึ้นสู่ท้องฟ้า ไม่ใช่จรวดส่งดาวเทียมตามกล่าวอ้าง ขณะที่นายกฯ ญี่ปุ่น แถลงการณ์ประณามการกระทำ พร้อมระบุว่าเกาหลีเหนือจงใจคุกคามความมั่นคงของญี่ปุ่น โดยรัฐบาลเกาหลีใต้และรัฐบาลญี่ปุ่น ได้ยืนยันตรงกันว่า เกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลขึ้นสู่ท้องฟ้า และการทดสอบดังกล่าวไม่ใช่จรวดส่งดาวเทียมตามคำกล่าวอ้างของเกาหลีเหนือแต่อย่างใด ส่งผลให้รัฐบาลญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต้องหารือฉุกเฉินเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากการทดสอบขีปนาวุธถือว่าเป็นการละเมิดมติสหประชาชาติ และเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของภูมิภาค ล่าสุด สำนักข่าวยอนฮัพ ของเกาหลีใต้ รายงานว่า การทดสอบครั้งนี้อาจเป็นการทดสอบที่ล้มเหลว เนื่องจากชิ้นส่วนจรวดจากขีปนาวุธถูกเผาไหม้ก่อนจะตกทะเล บริเวณทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะเชจู ขณะที่ สายการบินญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เริ่มประกาศปรับเปลี่ยนเส้นทางการบิน เพื่อหลีกเลี่ยงชิ้นส่วนจากขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ


ทั้งนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ได้ส่งคำร้องไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อขอให้มีการจัดประชุมฉุกเฉิน เพื่อหารือวางแผนตอบโต้การกระทำดังกล่าวในวันนี้ ขณะที่ล่าสุด นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ พร้อมทั้งระบุว่า เกาหลีเหนือจงใจท้าทายมติสหประชาชาติและคุกคามความมั่นคงของญี่ปุ่น ก่อนจะออกประกาศให้ประชาชนในประเทศญี่ปุ่นติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด  หลังจากที่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นเคยประกาศให้กองกำลังป้องกันตนเอง หรือ เอสดีเอฟ พร้อมรับสถานการณ์ โดยสามารถยิงสกัดวัตถุใดๆ ก็ตามที่ล่วงล้ำเข้ามาในดินแดนญี่ปุ่น และจะก่อให้เกิดอันตรายกับประเทศได้


ขณะที่ฝากฝั่งสหรัฐได้ออกมาประณามเกาหลีเหนือทันทีหลังจากมีการยิงจรวดดาวเทียม โดยนางซูซาน ไรซ์ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ ออกแถลงการณ์ ประณามการกระทำของเกาหลีเหนือ โดยบอกว่า การยิงจรวดที่ใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธ หลังจากที่เพิ่งจะทดลองนิวเคลียร์ไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่าน แสดงให้เห็นถึงการกระทำที่ยั่วยุ และบั่นทอนเสถียรภาพ และยังเป็นการละเมิดมติหลายข้อของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วย


สำหรับการยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 9.00 น ในวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 7.30 น ในไทย โดยมีเส้นทางโคจรมุ่งลงใต้ ผ่านเกาะโอกินาวาของญี่ปุ่น และเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลกรุงเปียงยางได้แจ้งต่อยูเอ็นก่อนหน้านี้ว่า มีแผนที่จะยิงจรวดเพื่อปล่อยดาวเทียมสำรวจขึ้นสู่วงโคจรโลก ซึ่งได้รับเสียงคัดค้านอย่างมากจากนานาประเทศ ที่เชื่อว่า เกาหลีเหนือมีเป้าหมายที่แท้จริงอยู่ที่การทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล


ความหวาดหวั่นที่หลายๆประเทศกำลังกังวลต่อเกาหลีเหนือที่อ้างเรื่องปล่อยดาวเทียมเป็นการบังหน้าแต่ความเป็นจริงแล้วแฝงไปด้วยความต้องการในการทดสอบขีปนาวุธพิไสยไกล ถือเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่บังคับใช้กับเกาหลีเหนือมานับตั้งแต่ปี 2549 หลังจากนี้นานาประเทศจะทำการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือมากน้อยแค่ไหน จะมีการเจรจาร่วมกันเกิดขึ้นหรือไม่ โดยที่ผ่านมารัฐบาลเกาหลีเหนือของนายคิม จอง-อึน บรรลุข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลสหรัฐ เมื่อเดือนก.พ. 2555 ว่าด้วยการระงับโครงการขีปนาวุธเพื่อแลกกับอาหารจำนวน 240,000 เมตริกตันสำหรับชาวเกาหลีเหนือ  แต่ข้อตกลงมีอันต้องเป็นโมฆะ เมื่อเกาหลีเหนือทดลองขีปนาวุธในเดือนเม.ย.ปีเดียวกัน การกระทำที่ยั่วยุของเกาหลีเหนือถึง 2 ครั้ง ติดต่อกันแบบนี้ จะส่งผลให้เกาหลีเหนือได้รับผลกระทบอะไรเพิ่มติมบ้างนั้น ต้องมาติดตามกัน