สนธิญาณเปิดแผน 2 หน้า"ทักษิณ"จ่อหวนยึดปท.ไทย-ชี้"เสื้อแดง"ส่อชุมนุมอีกเหตุ"มีเงิน เครือข่าย"-สหรัฐฯ"ยังหนุน

สนธิญาณเปิดแผน 2 หน้า"ทักษิณ"จ่อหวนยึดปท.ไทย -ชี้นายกฯวอนสื่อเสนอข่าวเพื่อปท.หวั่นสื่อนอกขยายมากดดันไทย-มั่นใจไร้เกี๊ยะเซี๊ยะเปิดหน้าชกกันเต็มที่ -ย้ำพรรคใหญ่ค้านรธน.หวั่นตั้งรบ.พรรคเดียวไม่ได้ -"ภูมิ

 


สนธิญาณเปิดแผน 2 หน้า"ทักษิณ"จ่อหวนยึดปท.ไทย -ชี้นายกฯวอนสื่อเสนอข่าวเพื่อปท.หวั่นสื่อนอกขยายมากดดันไทย-มั่นใจไร้เกี๊ยะเซี๊ยะเปิดหน้าชกกันเต็มที่ -ย้ำพรรคใหญ่ค้านรธน.หวั่นตั้งรบ.พรรคเดียวไม่ได้ -"ภูมิใจไทย"เงื่อนไขสำคัญ-จับตา"บรรหาร-เนวิน+อนุทิน-สุวัจน์"ชี้เสื้อแดงส่อชุมนุมอีก เหตุ"เงิน-เครือข่าย" พร้อม-มะกัน"ยังหนุน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


รายการ "ยุคล ถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำคืนวันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2559 ออกอากาศทางช่องทีนิวส์  ดำเนินรายการโดย คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) และคุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง)  โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้


ยุคล: สวัสดีครับต้อนรับคุณผู้ชมเข้ามาในช่วงเวลาของรายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" นะครับ วันนี้วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2559 คุณผู้ชมยังคงอยู่กับผม "ยุคล วิเศษสังข์" เช่นเดิมนะครับ และแขกรับเชิญของเราก็ไม่ใช่ใครอื่นนะครับ พี่ต้อย "สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม" ตอนนี้นั่งอยู่ข้างๆ ผมแล้ว ไปทักทายพี่ต้อยหน่อยนะครับ สวัสดีครับพี่ต้อย


สนธิญาณ: สวัสดีครับหนึ่ง สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้อาจจะหล่อเกินหน้าเกินตาคุณยุคลไปซักนิดนะครับ แต่เพื่อให้สอดคล้องกับบรรยากาศ อากาศที่กำลังหนาวเย็น แล้วในห้องเนี่ยนะครับ ก็หนาวเย็นจริงๆ ส่วนข้างนอกก็ถือต้องถือว่า หนาวจับใจ อิสานเหนือและไล่ลงสู่กรุงเทพ ผมขอขยายความเรื่องนี้นิดนึงครับ เป็นเรื่องที่เรียกว่าติดอกติดใจ สำนักข่าวทีนิวส์ก็พยายามในการติดตามข่าวสารเรื่องนี้มาตามลำดับว่า การเกิดขึ้นและความปรวนแปรของสภาพภูมิอากาศเนี่ยนะครับ เป็นสัญญาณอันตราย ที่ธรรมชาติเตือนเรา

 

 

แต่เราไม่ให้ความสนใจหรือให้ความสนใจน้อย เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตกเดี๋ยวแดดออก มันดูเหมือนว่าฤดูการกำลังเคลื่อนและเปลี่ยนแปลง สาเหตุทั้งสิ้นทั้งปวงมาจากเรื่องสภาวะโลกร้อน สภาวะเรือนกระจกที่ทำให้ วันนี้นำแข็งขั้วโลกละลายลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ท่านที่ท่องโลกอินเตอร์เน็ต หรือไปเสิร์จดูในกูเกิ้ลได้เลยครับ ว่าบรรดายอดเขาสูงนะครับ หรือภูเขาน้ำแข็งต่างๆ เนี่ยนะครับ ที่ประกอบกับภาวะโลกร้อนเนี่ย และน้ำแข็งละลาย มันมีภาพเปรียบเทียบที่เห็นได้อย่างชัดเจน ผมกำลังจะบอกว่าจากสภาพนั้น สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นเนี่ย มันทำให้แรงกดของโลกเนี่ย คือโลกเนี่ยมันมีความสมดุล ลอยอยู่ในอากาศที่ว่างเปล่า ลักษณะของโลกมีเปลือกผิวดินหุ้มอยู่ข้างนอก ข้างในมันกลวงๆ เพราะฉะนั้นที่ผมพูดเนี่ยไม่ใช่ว่ามันตันนะ มันถึงมีการขยับของเปลือกโลก ขยับทั้งแนวนอน ขยับทั้งแนวตั้ง ที่เรียกว่าแผ่นดินไหว ขยับแนวตั้ง โดนแรงกดก็เกิดคลื่นสึนามิ นั่นคือผลที่ปรากฏขึ้น ทีนี้โลกที่ตั้งอยู่ เปลือกผิวโลกเนี่ยมันแตก มันแบ่งเป็นส่วนๆๆๆ มันไม่ได้ติดสนิทกันซะทีเดียว เพราะฉะนั้นพอน้ำแข็งจากขั้วโลกนะครับ ซึ่งจำนวนมหาศาลละลายมาเป็นน้ำเนี่ย นึกภาพออกมั้ยครับ น้ำที่เคยดุลอยู่ในมหาสมุทรแบบเดิมๆ เนี่ย มันก็ก่อให้เกิดแรงกด อันนี้ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงที่นำพาไปสู่แผ่นดินไหวที่เพิ่มมากขึ้น กระบวนการหนึ่งก็คือว่ากระแสน้ำอุ่นกระแสน้ำเย็นมันแปรเปลี่ยนทิศทาง มันจึงทำให้สภาวะของบรรยากาศของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง กระบวนการต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปตามความร้อนความเย็นที่เกิดขึ้นในระลอกใหม่จากการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำอุ่น กระแสน้ำเย็น มันจึงนำพาไปสู่มรสุม แล้วก็ฤดูกาลที่ไม่แน่นอนแล้วแต่จะเกิดความกดอากาศ ซึ่งถ้าท่านผู้ชมสังเกตุ อากาศหนาวมาทุกครั้งในสองระลอกนี้นะ ที่ใต้โดนพายุเห็นมั้ย เป็นแพทเทิร์นเลย หนาวมาที่ใต้โดนพายุเลย เพราะแรงกดอากาศมันก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง นอกเหนือจากอากาศหนาวแล้วมันทำให้เกิดคลื่นที่ถาโถมเข้ามา

 

 

แล้วที่ผมเรียนว่าเป็นอันตรายต่อมนุษยชาติทั้งหลายทั้งปวงคืออะไรครับ มันจะนำไปสู่การปลูกพืชพรรณ ธัญญาหาร ไม่ได้ตามฤดูการอันถูกต้องที่มีมาแต่เดิม ที่นี้พืชกว่าจะปรับตัวได้ มันยืนอยู่ตามลักษณะความเคยชินของมัน มันดำรงค์ชีวิตของพืชตามลักษณะความเคยชินของมัน ที่เป็นอยู่และเป็นไป การออกดอกออกผลอะไรทุกอย่าง ก็จะเปลี่ยนไป อันนี้คือสภาวะธรรมชาติที่มันสมดุลกันอยู่นะครับ ต้นนี้จะมีดอกเวลานี้ ต้นไม้จะมาเกี่ยวต้นนี้ แล้วไปเกี่ยวพันกับต้นนี้ ระหว่างต้นไม้เล็ก ต้นไม่ใหญ่เถาวัลย์ มันสัมพันธ์กันหมด เป็นห่วงโซ่ธรรมชาติ ไม่ใช่ห่วงโซ๋อาหารอย่างเดียวนะครับ เป็นห่วงโซ่ธรรมชาติที่เกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นด้วยความแปรเปลี่ยนเหล่านี้เนี่ยนะครับ วันหนึ่งมันจะส่งผลรุนแรงแล้วก็มหาศาล ที่เป็นเรื่องที่มนุษย์ได้พึงตระหนักจากสิ่งที่เกิดขึ้น    


                   

ยุคล: ครับก็เอามาย้ำเตือนกันก่อนกับสภาพที่เป็นไปขณะนี้ พูดถึงหัวข้อข่าวของวันนี้ เห็นพี่ต้อนหนาวแล้วเนี่ยนะครับ แต่ข่าวเราน่าจะหนาวกว่านะวันนี้เนี่ย


สนธิญาณ: มันก้ต้องหนาวล่ะครับ สำหรับคนไทย


ยุคล: ก็สืบเนื่องจากร่างรัฐธรรมนูญด้วย สืบเนื่องจากท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ดูเหมือนว่า จะมีปัญหากับสื่ออารมณ์หงุดหงิดไม่พอใจ สื่อบางสำนักที่ไปสอบถามแล้วทำให้นายกเกิดความรู้สึกว่า ทำไมยังไม่เข้าใจนายกที่เข้ามาบริหารประเทศ และล่าสุดท่าทีความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เงียบไปนาน กลับมาอีกครั้งนึง แล้วก็มาพร้อมกับเนื้อหาที่ค่อนข้างร้อนแรง บอกว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ห่วยที่สุด แล้วก็บอกด้วยนะครับว่าจะชนะในสนามการเลือกตั้ง จากทั้งหมดทั้งมวลก็เลยมาเป็นหัวข้อข่าวของเราในวันนี้ที่บอกว่า "เปิดแผน 2 หน้า ทักษิณ ยึดประเทศ" เอาหัวข้อก่อน ทำไมถึงต้องเปิดแผน 2 หน้า แล้วทักษิณยังคงอยากที่จะยึดประเทศ ยังไม่ราวี หรืออย่างไรครับพี่ต้อย


สนธิญาณ: ผมต้องเรียนแบบนี้นะครับ ก่อนที่จะอ้างอิงคำพูดผมเนี่ยนะครับ ต้องเรียนท่านผู้ชมว่า เมื่อวานเป็นกรณีพิเศษที่สำนักข่าวทีนิวส์ ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษท่านนายก ด้วยการประสานงานกับทีมงาน ผ่านไปทางทีมงานของท่านนายก คำให้สัมภาษณ์ของท่านนายกเมื่อวานเนี่ยนะครับ หลายคนอาจจะพูดว่า การที่นายกโมโหสื่อ ไม่ใช่เรื่องสื่อด่านายกหรอก ไปอ่านในบทสัมภาษณ์เนี่ยนะครับ ในเว็บไซต์ของทีนิวส์ดูได้ มันเป็นเรื่องที่ท่านนายกรู้สึกได้ว่าสื่อบางส่วน บางกลุ่มรับใช้คุณทักษิณอยู่ และเอาข่าวไปขยายความ ข่าวนี้ฝรั่งก็เอาไปเป็นบรรทัดฐาน เมื่อฝรั่งเอาไปเป็นบรรทัดฐาน ก็นำข่าวนี้กลับมากดดันรัฐบาล มันเหมือนกับเป็นวงจรลูกโซ่ กระบวนการ การต่อสู้ที่ได้ทำกับรัฐบาล ด้วยเหตุนี้มันจึงทำให้เกิดความรู้สึกอัดอั้นตันใจ เพราะสิ่งที่ได้พูดกับสำนักข่าวทีนิวส์เมื่อวานเนี่ยชัดเจน โดยเฉพาะท่อนท้ายเนี่ย        


ยุคล: ครับผม


สนธิญาณ: ระบุและยันเลยว่าใครล่ะเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งปวง 


ยุคล: เดี๋ยวผมทวนความให้ฟังนะครับ ท่านนายกท่านบอกแบบนี้เลยนะครับว่าจากเหตุการณ์กว่า 10 ปี ที่ผ่านมา เพราะคนทำผิดกฎหมายคนเดียว แต่เพราะมีเงินมากก็สามารถทำลายทุกอย่างได้ และที่เขาไม่กลับนั้นไม่ใช่ว่าเขามีคดีเดียวที่หนีไป แต่มีอีกหลายคดีที่รออยู่เขาถึงไม่กล้ากลับ หวังว่าคุณคงเข้าใจ และอยากให้คนอื่นเข้าใจด้วยว่า ประเทศชาติสำคัญอย่างไร ผมมีหน้าที่ที่ต้องทำคนเดียวหรือเปล่า 


สนธิญาณ: ชัดเจน ใครล่ะครับจากเหตุการณ์ 10 ปีที่ผ่านมา เพราะคนทำผิดคนเดียวอ่ะใคร


ยุคล: มีเงินมาก


สนธิญาณ: อ่ะมีเงินมาก ใคร ชัดเจนก็คือท่านนายกหรือ พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงคุณทักษิณ แม้จะเอ่ยชื่อก็เป็นคนอื่นไม่ได้ นี่คือแรงเก็บกด เพราะฉะนั้นยังมีอีกบางส่วนนะครับ อาจจะในเครือข่ายพลังมวลชนที่ต่อสู้กับคุณทักษิณอยู่เหมือนกันเนี่ยนะครับ พยายามโจมตี พล.อ.ชวลิตร อยู่เรื่อยนะ จากกรณีเสียงถังเช่าๆ จำได้มั้ย ที่ทีนิวส์เอามาเปิดเผยเป็นเจ้าแรกเนี่ย วันนี้นะครับมันจบไปแล้ว เห็นชัดแล้ว ว่าในคลิปถังเช่าที่มีข่าวบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีส่วนไปเกี่ยวข้องกับคุณทักษิณเนี่ย คำตอบคือไม่ วันนี้มันเปิดหน้าชกกันชัดเจนหนึ่ง เป็นอย่างอื่นไม่ได้  คู่กรณีคู่ความขัดแย้งในทางหลักการณ์นะ ไม่ใช่ขัดแย้งแล้วจะตีกันตาย คู่ความขัดแย้งทางสังคม ถ้าในภาษาที่นปช. หรือคุณทักษิณพูดคำว่าอำมาตย์เนี่ย เค้าจะแปลคำว่าอำมาตย์หมายถึงกองทัพ และหมายถึงสิ่งที่เหนือกองทัพขึ้นไป วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ ก็พูดชัดเจน ว่าคนๆ เดียวเนี่ย ที่ทำให้บ้านเมืองเป็นแบบนี้ นี่คือคู่ความขัดแย้ง พรรคประชาธิปัตย์ ออกไปอยู่ข้างๆ กลายเป็นส่วนจิ๊บๆ ไปแล้ว ณ สถานการณ์เวลานี้นะครับ เพราะฉะนั้นการเผชิญหน้ากันของทั้งสองส่วนของสังคมเนี่ยนะครับ มันเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ความหมายที่บอกว่าเป็นอย่างอื่นไม่ได้เนี่ย ก็คือมันต้องมีใครไปกันข้างนึง หลายคนก็อาจจะถามผมว่าจะไปได้ยังไง เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ประกาศแล้ว กลางปี 60 เลือกตั้งแล้ว เป็นไปตามโรดแมปแล้ว ทักษิณก็บอกแล้วว่าเลือกตั้งชนะแน่ สู้กัน คุณสนธิญาณบอกถึงที่สุด แล้วมันจะสุดยังไง ก็พลเอกประยุทธ์ยืนยันจะเดินตามโรดแมป ทักษิณก็ประกาศว่าจะชนะการเลือกตั้ง แสดงว่าบ้านเมืองก็ต้องตกมาสู่มือของคุณทักษิณและเครือข่ายพวกพ้องอีก เราจะต้องเห็นว่าในสถานการณ์เฉพาะหน้าที่เป็นอยู่เนี่ยนะครับ มันดำรงค์อยู่ในสภาวะแบบนี้จริงๆ         


ยุคล: มีอีกคำพูดนึงของ พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงเรื่องที่ทีนิวส์เราเองก็นำเสนอมาโดยตลอด เกี่ยวกับการใช้ความรุนแรง เกี่ยวกับสงครามกลางเมือง เหมือนกับว่ามันยังมีโอกาสเกิดขึ้นอีก และอยากให้พี่ต้อยเนี่ยชี้ตรงนี้ให้ชัดด้วย พล.อ.บอกแบบนี้ครับว่าเรื่องประชาธิปไตย เรื่องสิทธิมนุษยชน เรื่องการปิดกั้นสื่อมวลชน จับกุมผู้บริสุทธิ์ หรือว่านักการเมืองที่กระทำความผิด หรือพวกที่หนีคดี แค่เรียกมาคุยก็ยังหนีไป โกหกบิดเบือน ลี้ภัยพูดให้ประเทศเสียหาย ทั้งไมคนถึงให้โอกาสคนเหล่านั้น ทั้งๆ ที่ขอให้กลับมาต่อสู้คดี แต่ไม่กลับมาหารือ อยากให้ประเทศเราเป็นแบบประเทศที่บ้านแตก อพยพสู้รบรุนแรง มีสงครามกลางเมืองจนยูเอ็นต้องส่งกำลังเข้ามาแก้ไขให้ หากต้องการอย่างนั้น ก็ปล่อยให้ทำไป ไม่แยกแยะแล้วจะฟื้นประเทศไทยอย่างไร มันยังมีโอกาสเกิดขึ้นอยู่หรอครับพี่ต้อยเรื่องนี้ ยูเอ็นเข้ามาเพราะสถานการณ์แตกแยกรุนแรง     


สนธิญาณ: คือ ผมต้องเรียนท่านผู้ชมแบบนี้นะครับ ผมเองหรือสำนักข่าวทีนิวส์เนี่ยนะครับ นำเสนอว่าการเคลื่อนไหวในทางการเมือง ภายใต้นโยบายโลกล้อมประเทศเนี่ยนะครับ ยังมีโอกาสที่จะเกิดลักษณะอย่างนี้ขึ้นเสมอ ซึ่งที่ผมย้ำให้ฟังว่า ตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที ผมก็ไม่รู้ว่ากองทัพหรือพล.อ.ประยุทธ์ จะรู้หรือไม่ แต่คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ให้สัมภาษณ์พิเศษสำนักข่าวทีนิวส์เมื่อวานก็ต้องถือว่าเป็นข้อมูลที่ต้องนำมาสู่การพิจารณา ผมจะพูดเรื่อยครับท่านผู้ชมครับว่า นปช. และเครือข่ายของคุณทักษิณเนี่ยต้องการให้ทหารยึดอำนาจ นี่คือเหตุการณ์ก่อนการยึดจริงๆ นะ ทำไมถึงต้องการให้ทหารยึดอำนาจ ผมมีข้อมูลอยู่ในมือชัดเจน มีการฝึกฝนกองกำลังอาวุธเป็นพัน ผ่านอดีตนักการเมืองที่อยู่ในท้องถิ่นต่างๆ เตรียมกำลัง และกำลังส่วนหนึ่งก็คือ กำลังที่เคยปฏิบัติการ เมื่อพฤษภา 53 และกำลังส่วนหนึ่งที่ออกมาถล่มด้วยระเบิดปืนใส่มวลมหาประชาชนที่ชุมนุมในนามของกปปส. กระบวนการการติดอาวุธเนี่ยนะครับ ของเครือข่ายนี้เนี่ย ดำรงค์อยู่ตลอดเวลา และสร้างความต่อเนื่องมาตลอดเวลา เพราะฉะนั้นถ้าเราย้อนกลับไปดูเหตุการณ์เมื่อพฤษภา 53 มวลชนวันที่ยุติการชุมนุมคือวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 เนี่ย มีมวลชนอยู่ในพื้นที่ประมาณ 3-4 พันคนเองนะ ณ เวลานั้น เราอนุมานเอาว่า ถ้าใครสามารถระดมคนออกมาซัก 2-3 หมื่นคน ซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องยากที่ นปช. จะทำได้ ระดมออกมาแล้วเอากองกำลังติดอาวุธเข้าไปแฝงตัว แล้วก็สร้างบรรยากาศให้เหมือนกับพฤษภา 53 แบบนี้ก็ยิงกันนาน ยิงกันหลายวันล่ะ นึกภาพออกมั้ยครับ ก็เหมือนกับพฤษภา 53 ที่กองกำลังทหารไม่สามารถที่จะเข้าไปในพื้นที่ได้ ยิงกันหลายวันแล้วจะเป็นยังไงต่อไป ถ้าการยิงนั้นยิงอยู่ภายใต้บรรยากาศที่กองทัพเข้ามายึดอำนาจในทันทีทันใด ก็แสดงว่าประชาชนที่ออกมาชุมนุมประท้วง มาคัดค้านการยึดอำนาจ มาคัดค้านเผด็จการ กองกำลังติดอาวุธ ซึ่งเป็นฝ่ายผิดกฎหมายเนี่ยนะ จะถูกแปรเปลี่ยน มาเป็นกองกำลังติดอาวุธที่มีความชอบธรรม ในการเมืองระหว่างประเทศทันที ผมไม่ได้พูดเกินเลย ไม่ว่าในซีเรียหรือที่อื่นๆ กองกำลังติดอาวุธที่ต่อสู้กับรัฐบาลของตัวเอง แล้วสหรัฐชี้ว่ารัฐบาลนั้น เป็นรัฐบาลเผด็จการ            


ยุคล: กลายเป็นกองกำลังประชาธิปไตยไปเลย


สนธิญาณ: กลายเป็นกองกำลังที่เป็นประชาธิปไตย กลายเป็นกองกำลังที่มีความชอบธรรม แล้วก็ยิงกันไป ยิงกันไปพักหนึ่ง กองกำลังของสหประชาชาติ หรือกองกำลังของยูเอ็น ก็เข้ามาระงับเหตุการณ์ได้ ถ้าเข้ามาแบบนั้นก็แสดงว่า ประเทศเราไม่สามารถที่จะจัดการกันเองได้แล้ว มันจะจริงหรือไม่จริงแต่การที่นายกได้หยิบยกเรื่องนี้มาพูดเนี่ย  


ยุคล: อันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ พูดเองเลยนะครับ


สนธิญาณ: แสดงว่ามันก็ต้องมีแง่มุมอะไรที่อยู่ในความคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือของท่านนายกอยู่บ้าง


ยุคล: รูปธรรมนึงที่พี่ต้อยพูดมาตลอดก็คือคำให้การของ มหาหิน ขุนทอง


สนธิญาณ: ชัดเจน ทีนี้เนี่ย ถามว่าแล้วคุณสนธิญาณพูดมั่ว ก็ทหารเค้ายึดอำนาจนี่ ก็ไม่เห็นกองกำลังอะไรจะออกมา ไม่เห็นจะชุมนุมมวลชน ก็มวลชลเนี่ยเค้าอยู่ที่พุทธมณฑลสาย 4 เพียงแต่ผมเรียนย้ำว่า กองทัพจะรู้หรือไม่รู้ หรือกองทัพฉลาดลึกล้ำกว่า การเคลื่อนกำลังของกองทัพ กลายเป็นการเคลื่อนภายใต้กรอบของกฎหมาย  


ยุคล: ประกาศใช้กฎอัยการศึกนะครับ


สนธิญาณ: ประกาศใช้กฎอัยการศึกมันไม่ได้ยึดอำนาจนะ กองทหารที่เคลื่อนมาเนี่ย เป็นการกระทำถูกกฎหมาย ใครก็เข้าแทรกแซงไม่ได้ ประกาสกฎอัยการศึกมา 2 วัน ให้พูดแล้ว แสดงให้เห็นถึงทิศทางของประชาธิปไตยอย่างชัดเจน คุยกันๆๆ คุยกันไม่ได้ 2 วัน นั้นผมยึด แต่ตอนนั้นผมยึดเนี่ย จริงๆ ตอนนั้นเนี่ยนะครับหน่วยกำลังทหารเนี่ยเข้าควบคุมพื้นที่ เข้าตัดตอนในเครือข่าย มวลชนที่อยู่ในต่างจังหวัด ในหมู่บ้านในชุมชน ในอะไรต่างๆ เนี่ยนะครับ เรียกว่าทหารทำอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน คือทหารเมื่อก่อนยึดอำนาจทำยังไง เอารถถังเอากำลังมายืนอยู่ตาม 4 แยก เค้าก็เตรียมการไว้เหมือนกัน เช่นเอารถแท็กซี่มาชน เอามวลชนเข้าไปล้อมรถถัง สร้างภาพกระแสตีข่าวไปทั่วโลก แต่เที่ยวนี้การยึดอำนาจไม่มีเลย มีแต่หน่วยกำลังเข้าควบคุมบุคคลที่สำคัญๆ ทั้งหลายเอาไว้ อันนี้แหล่ะครับถึงทำให้มันเกิดเหตุไปไม่ได้ แล้วก็เรื่องนี้เนี่ยนะครับ พูดกันมานาน ย้ำกันมาตลอด ทั้งสนธิญาณและสำนักข่าวทีนิวส์ ว่านี่คือสิ่งที่ปรารภออกมาจากปากของ พล.อ.ประยุทธ์ เอง      


ยุคล: ครับ และที่สำคัญก็เป็นสิ่งที่ออกมาจากความคิดของท่าน และทำให้เรามองเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ คิดยังไงกับนายทักษิณ นะครับ เพราะฉะนั้นวันนี้การที่นายทักษิณ บอกว่า ด้วยสูตรรัฐธรรมนูญนี้เนี่ย เลือกตั้งก็จะชนะ และจะกลับมามีอำนาจเหมือนเดิมเนี่ย มันก็ต้องวัดใจ พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนกันนะครับพี่ต้อยว่า เมื่อคิดแบบนี้แล้ว เห็นอนาคตของชาติแบบนี้แล้ว จะปล่อยให้ผ่านไปแบบนี้หรืออย่างไร เดี๋ยวมาตามกันต่อในเบรคหน้านะครับ ช่วงนี้พักกันก่อนซักครู่เดียวครับ(พักช่วง) กลับเข้ามาในเบรคที่สองของรายการ เบรคที่แล้วเราได้พูดถึงสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวทีนิวส์ สาระสำคัญตอนหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์พูดชัดนะครับว่านายทักษิณเป็นปัญหาและได้อ้อนวอนไปยังสื่อมวลชนว่าให้นำเสนอข่าวเพื่อประเทศชาติและให้เข้าใจตัวพล.อ.ประยุทธ์ที่เข้ามาทำงานด้วยความเสียสละ หากเราตีความว่าพล.อ.ประยุทธ์พูดถึงนายทักษิณ ว่าพล.อ.ประยุทธ์ได้ยืนหยัดปักหลักชัดเจนในการต่อสู้กับนายทักษิณ ในขณะเดียวกันนายทักษิณก็ใช่ย่อยประกบคู่กันมอพอดีเลย

สนธิญาณ : สถานการณ์ลงตัวเป๊ะ

 

 

ยุคล : ไม่ได้นัดหมายกันนะครับ พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์กับทีนิวส์ก็เป็นการให้สัมภาษณ์พิเศษและไม่ได้พูดถึงสถานการณ์รวมๆทั่วไปเสียด้วยซ้ำไป นายทักษิณก็พูดเอาไว้หลายประเด็นแต่ที่ทีนิวส์ของเราหยิบยกขึ้นมา พูดเอาไว้แบบนี้ครับ "ผมจากบ้านไปเกือบ 10 ปี แต่บ้านเมืองเรากลับถอยหลังไปเกือบ 20 ปี ตอนนี้ผู้นำก็บ้าอำนาจจนขาดสติขาดวุฒิภาวะ แสดงกิริยาไม่สมควรขอให้พวกเราเตรียมตัวไว้เลยจะมีการเลือกตั้งในเร็ว ๆ นี้มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยมีโอกาสสูงมากที่จะกลับมาบริหารประเทศ" ถ้าใครก็ตามบอกว่าพล.อ.ประยุทธ์กับนายทักษิณมีโอกาสจะจับมือกันในวันข้างหน้า เห็นสิ่งที่นายทักษิณพูดถึงผู้นำบ้าขาดสติขาดวุฒิภาวะคงไม่แล้วมั้งครับแบบนี้

 

 

สนธิญาณ : ไม่มีทางแล้ว ดำเนินคดีกับทักษิณโดยตรงที่ไปพูดที่เกาหลี อันนี้ถือว่าเปิดหน้าชกกันเต็มที่ มาดูข้อเท็จจริงว่าจะมีความเป็นไปได้ไหมที่ทักษิณบอกว่าจะชนะการเลือกตั้งแน่นอน ผมเรียนแบบนี้ก่อนครับ และอยู่ ๆ พล.อ.ประยุทธ์จะถอยห่างออกไปตาม RoadMap ไม่รับผิดชอบประเทศแล้วหรือทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าใครคนหนึ่งที่หนีไป 10 ปีมีเงินมาก สร้างความเสียหายให้ประเทศชาติ ผมคิดว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ธรรมดานะครับ ดูตั้งแต่ลีลาการยึดอำนาจที่ผมบอกว่าเขาจ้องอยู่ยังพลิ้วมาได้ บริหารประเทศมาจนถึงวันนี้กระแสความนิยมของประชาชนไม่เกิดกับผู้นำคนไหนมาก่อนนะครับถึงขนาดแบบนี้ เป็นที่นิยมเป็นป็อปปูลาร์ของประชาชนอย่างไม่เคยมีมาก่อน นักการเมืองในพรรคเพื่อไทยอาจจะบอกว่า

 

 

ยุคล : สมัยคุณทักษิณก็ป็อปปูลาร์นะครับ

 

 

สนธิญาณ : แต่เป็นการป็อปปูลาร์ภายใต้บรรยากาศหนึ่งที่สร้างนโยบายประชานิยมและมีความรู้สึกว่ากระจายเงินออกไปให้กับประเทศชาติให้กับประชาชน ประเทศก็เลยเจริญทางเศรษฐกิจ แต่ความจริงคือการเอาเงินภาษีไปสร้างกระบวนการความนิยมขึ้น แต่พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่นะครับ ดูสิครับพล.อ.ประยุทธ์น้ำทำนาไม่มีไม่ให้ทำนาปรัง ชัดเจนครับ หรือชายฝั่งทำให้ทะเลชายฝั่งมีปัญหาติดปัญหาไปจนถึงการส่งออกเด็กขาดไม่ได้ ยางพยายามช่วยแต่ก็ขายได้เท่านี้ช่วยได้เท่านี้ คือท่าทีต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ใช่ท่าทีแบบเอาอกเอาใจ เป็นท่าทีที่ยืนหยัดอยู่บนหลักการซึ่งผมอยากจะให้นักการเมืองทั้งหลายได้คิดและตระหนักและดูพล.อ.ประยุทธ์เป็นตัวอย่างในมุมนี้ มุมอื่นถ้าท่านจะไม่ชอบเรื่องเผด็จการก็เรื่องของท่าน แต่นักการเมืองทั้งหลายโปรดพิจารณาว่าถ้าท่านยืนหยัดอยู่บนหลักการประชาชนเขาก็รักและศรัทธา ทีนี้ต้องมาดูก่อนว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ธรรมดา ผมเรียนนะครับรัฐธรรมนูญจะเดินมาในแนวไหนจะโจมตีอะไรก็ตามแต่ แต่ 2 ฉบับที่ผ่านมาไม่ว่าฉบับอาจารย์บวรศักดิ์หรืออาจารย์มีชัยอยู่ในกระบวนการและวิธีการเลือกตั้งแบบเดียวกัน นั่นคือจัดสรรปันส่วนผสมและสัดส่วนผสม จะว่าอะไรก็ตามแต่แต่มีคำว่าผสมมาต่อท้าย เป็นกระบวนการจัดการเลือกตั้งที่เอาเรื่องความนิยมของพรรคการเมืองมาเป็นตัวตั้ง เพราะฉะนั้นกระบวนการทางการเลือกตั้งที่เอามาผสมกันโดยหลักการอันสำคัญก็คือว่าเอาคะแนนนิยมสูงสุดที่พรรคการเมืองได้มาหารด้วยจำนวน ส.ส.ที่มีจากประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งหรือผู้มีใช้สิทธิ์ วันก่อนที่มาเฉลี่ยให้ท่านผู้ชมได้ทราบคือ 7หมื่นคะแนนได้ ส.ส. 1 คน ใน ส.ส. 500 คน เพราะฉะนั้นคุณจะเลือกตั้งในพื้นที่ในบุคคลได้เท่าไหร่ก็ตามแต่ แต่ถ้าคะแนนโดยรวมของคุณได้สัดส่วนเท่านี้ คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ก็จะหดเมื่อวานรวมกับคะแนนพื้นที่แล้วซึ่งจะขยายความให้ฟังว่า แต่ระบบเดิมไม่ใช่เลือกตั้งในพื้นที่แล้วได้มา 200 คะแนน ปาร์ตี้ลิสต์ได้ 60 เปอร์เซ็นต์ได้อีก 70 คน โอกาสแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว คะแนนไม่ทับกันตรงนี้นะครับ จะเรียนแบบนี้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากตารางที่เคยทำให้ดูต้องดูตารางนี้ถึงจะเห็นชัดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจากฐานคะแนนเดิมท่านผู้ชมพิจารณานะครับ พรรคเพื่อไทยจะได้คะแนน 14,700,000 นี่เอาคะแนนเขตตามแนววิธีการเลือกตั้งที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญของอาจารย์มีชัยกำหนดขึ้นมา ในคะแนนเท่านี้เมื่อก่อนพรรคเพื่อไทยได้ 265 เสียง มี ส.ส. 500 คน พรรคเพื่อไทยได้เกินครึ่ง ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้แต่เขาไม่สบายใจ เสียงปริ่มไปก็เอาชาติไทยพัฒนาเอาชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินเข้ามาเพียบ พอเพียบแบบนี้ก็ไม่ต้องห่วงอะไร การจัดตั้งรัฐบาลอยู่ในมืออันนี้คือคะแนนการเลือกตั้งแบบเดิม มาดูการเลือกตั้งแบบใหม่คะแนนแบบเดิมตามสูตรที่อาจารย์มีชัยเขียนขึ้นมาพรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส.เพียง 211 คนเท่านั้น เห็นไหมครับดูตามตารางเมื่อได้ ส.ส.เขตไปแล้ว 204 คน เมื่อสัดส่วนคุณได้เพียงแค่ 211 คน คุณจึงได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพียง 7 คนเท่านั้น ถ้าเราใส่เปอร์เซ็นต์ไปด้วยเราจะยิ่งเห็นชัด คือคะแนนพรรคเพื่อไทยได้ 40 เปอร์เซ็นต์คุณก็ได้ 211

 

 

ยุคล : คือคนไปเลือกตั้งประมาณ 36 ล้าน ได้มา 14 ล้านก็ 40 กว่าเปอร์เซ็นต์

 

 

สนธิญาณ : นั่นคุณก็ได้มา 211 คน เพราะฉะนั้นถ้าคุณไปได้เขตมาเยอะแยะอะไรก็ตามแต่ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ก็จะหดตามมา ยังไงก็ได้แค่ 211 คน ตามเปอร์เซ็นต์ของคะแนนเสียงรวมที่คุณได้

 

 

ยุคล : กรธ. ใช้คำว่า ส.ส. ที่พึงจะได้

 

 

สนธิญาณ : ดูประชาธิปัตย์ ต้องดูสองพรรคเพราะเขาสู้กัน ประชาธิปัตย์แบบเดิมได้ 159 คน คือได้ ส.ส.เขต 115 และปาร์ตี้ลิสต์ 44 ในปาร์ตี้ลิสต์จะสังเกตไหมครับพรรคใหญ่กวาดไปหมดเลย มาดูสิครับว่าการนับคะแนนแบบใหม่ประชาธิปัตย์จะเหลือ ส.ส.เพียงแค่ 147 คน ปาร์ตี้ลิสต์เคยได้ 44 จะได้ 32 เมื่อเอามารวมกับ 115 อันเดิมที่มี คะแนนหดหายไปถูกไหมครับ 12 คะแนน จุดสำคัญที่ผมจะพูดต่อไปท่านผู้ชมพิจารณานะครับ พรรคภูมิใจไทยตัวเลขนี้สำคัญ พรรคภูมิใจไทยได้คะแนนมา 3,500,000 ได้ ส.ส.เขต 29 ส.ส.บัญชีรายชื่อ 5 คน แต่โดยตามสัดส่วนต้องถือว่าเขาได้ประมาณ 9-10 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นเมื่อเขาได้ ส.ส.เขตไป 29 คน ใน10เปอร์เซ็นต์ของส.ส.500 เขาต้องได้ 50 คนครับ ปาร์ตี้ลิสต์ในการคำนวณแบบเดิมเคยได้ 5 คน เพิ่มมาเป็น 21 คน

 

 

ยุคล : ก็คือ 3,500,000 เอา 70,000 หาร ตก 50 คน

 

 

สนธิญาณ : พอดีเป๊ะ อันนี้ละครับที่ผมบอกว่าต้องดูให้ดีว่าในการเลือกตั้งตามแนวนี้คือไม่ว่าแนวนี้เป็นทั้งแนวรัฐธรรมนูญอาจารย์บวรศักดิ์จนถึงอาจารย์มีชัย พรรคขนาดกลางเข้มแข็งขึ้น

 

 

ยุคล : แต่พรรคภูมิใจไทยตองยันคะแนนเดิมให้อยู่ด้วยนะครับ

 

 

สนธิญาณ : นี่เราพูดจากตัวเลขว่าพรรคภูมิใจไทยเขาถอยออกมาจากพรรคเพื่อไทยในยามที่พรรคเพื่อไทยได้รับความนิยมเขารักษาคะแนนของเขาได้แบบนี้ และวันนี้ก็ต้องถือว่าเขาก็มีความพร้อมในระดับที่น่าสนใจทีเดียวทั้งคนที่อยู่เบื้องหลังและกระบวนการของการที่ฟูมฟักทางการเมืองอยู่ สิ่งที่ผมจะเรียนแปลว่าอะไรครับ แปลว่าที่พรรคใหญ่เขาคัดค้านรัฐธรรมนูญมาจากเหตุผลนี้ ไม่สามารถที่จะตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้หรือไม่สามารถที่จะทำให้พรรคหนึ่งพรรคใดได้รับคะแนนเสียงเกินครึ่งเว้นแต่ว่า

 

 

ยุคล : คือต้องได้ 50 เปอร์เซ็นต์ขึ้น

 


สนธิญาณ : คือคนเลือกคุณถล่มทลายไป 20 ล้านเสียง แบบนั้นใครก็ปฏิเสธไม่ได้ และนั่นก็จะเป็นเสียงข้างมากที่แท้จริง เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรเพราะมาจากฐานของประชาชนจริง ๆ ไม่ใช่เพราะมาจากวิธีการเลือกตั้ง 2 แบบ 2ส่วน ซึ่งพิลึกพิลั่นกันอยู่ด้วยคะแนนแบบนี้ดูฐานตัวเลขนี้ถามว่าถ้าพรรคภูมิใจไทยไม่เอาด้วย พรรคเพื่อไทยจะตั้งรัฐบาลก็จะเหนื่อย เพราะพรรคเพื่อไทยจะได้ 211 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนาได้ 26 เสียง พรรคเพื่อแผ่นดินได้ 18 เสียง พรรคพลังชลได้ 7 เสียง นี่คือเป็นรัฐบาลเดิมนะครับ ได้ 250 เสียงปริ่มมากนึกออกไหมครับคะแนนปริ่มเหลือเกิน ดังนั้นการตั้งรัฐบาลจึงไม่แข็งแรงฉะนั้นความหมายที่ทักษิณบอกว่าชนะ ก็อาจจะชนะ

 

 

ยุคล : หมายถึงได้คะแนนเยอะสุดในพรรคการเมืองอื่น ๆ

 

 

สนธิญาณ : ใช่ครับ แต่จะตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ก็อีกเรื่อง เพราะตัวแปรในการตั้งรัฐบาลกลายมาเป็นที่พรรคเล็ก มาอยู่ที่พรรคภูมิใจไทยก็ต้องดูครับว่าจะเลือกเล่นข้างไหน

 

 

ยุคล : ภูมิใจไทยยังต้องการคุณเนวินอยู่หรือเปล่าครับ

 

 

สนธิญาณ : ภูมิใจไทยวันนี้หัวหน้าพรรคชื่อคุณอนุทิน ชาญวีรกูล

 

 

ยุคล : คุณเนวินก็บอกว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวบริหารจัดการ

 

 

สนธิญาณ : ต้องถามว่าใครเป็นเจ้าของพรรคตัวจริง ต้องใช้แบบนั้น คุณเนวินจะเข้าไปบริหารจัดการหรือไม่ แต่จะบอกว่าคุณเนวินไม่มีบารมีเหนือพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ได้หรอกครับ คุณอนุทิน ชาญวีรกูลยังเป็นลูกเจี๊ยบทางการเมือง ผมไม่ได้ดูถูกนะครับ เจริญเติบโตทางการเมืองเพราะคุณเนวินฟูมฟักขึ้นมา ตอนนั้นอยู่ภายใต้ร่วมเงาคุณทักษิณ ประเด็นที่ผมเรียนอยู่ตรงนี้ครับอยู่ตรงภูมิใจไทยถามว่าคุณอนุทิน ชาญวีรกูล วันนี้ยังมีความสัมพันธ์กับคุณทักษิณไหม ยังมีและยังเกรงใจอยู่ย้ำนะครับ แต่เป็นนกรู้ทางการเมืองเพราะฉะนั้นถ้ามาบวกกับคุณเนวินตอนที่ถอยออกมาจากพรรคเพื่อไทยและยกขบวนมาสนับสนุนคุณอภิสิทธิ์ คุณเนวินได้เคยให้สัมภาษณ์ไหม ซึ่งผมคิดว่าไม่ว่าคุณเนวินคุณปฏิเสธจะมีบทบาทหรือไม่ผมยืนยันว่าเกษียณไม่ได้ ยังมีบารมีกับพรรคภูมิใจไทยอยู่ คุณเนวินอยู่ว่าทำไมถึงปฏิเสธคุณทักษิณ

 

 

ยุคล : คุณเนวินเคยแถลงข่าวเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 52 ซึ่งตอนนั้นคุณเนวินออกมาจากพรรคเพื่อไทยแล้ว ก็มีปัญหาทางฝั่งของพรรคเพื่อไทยออกมาโจมตีคุณเนวินอย่างหนัก คุณเนวินสวนกลับไปเลยว่า "คำว่ารัฐไทยใหม่ของกลุ่มคนทักษิณและเสื้อแดงกล่าวถึงนั้นหมายถึงอะไร และข้อเรียกร้องให้องคมนตรีลาออกนั้นเป็นการก้าวล่วงพระราชอัธยาศัย ซึ่งตนถือว่าสำคัญกว่าพระราชอำนาจ และถ้าจะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องข้ามศพตนไปก่อน"

 

 

สนธิญาณ : จะจริงจะไม่จริงก็ตามแต่ คำพูดนี้ผูกมัดคุณเนวินนะครับ ในฐานะคนที่มีบทบาททางการเมืองและต้องถือว่าเป็นผู้มีบทบาททางการเมืองที่สำคัญในวันนี้คนหนึ่ง ณ เวลานั้นถอยออกจากคุณทักษิณ สิ่งที่พูดถึงเรื่องเครือข่ายคุณทักษิณกระทบกระเทือนต่อสถาบันฯ เป็นแต่เพียงข้ออ้างเพื่อเปลี่ยนขั้วทางการเมืองหรือเพราะคุณเนวินคิดแบบนั้นจริง ๆ นี่เป็นประเด็นสำคัญ แต่เขาบอกว่าก่อนพูดเราเป็นนายคำพูด หลังพูดไปแล้วคำพูดเป็นนายเรา คุณเนวินจะบอกว่าไม่มีความพัวพันกับพรรคเพื่อไทย ณ เวลานั้นแต่ในระยะเวลาต่อไปในอนาคตข้างหน้าถ้าปฏิเสธแต่ว่าน้องชายยังอยู่เครือข่ายขับเคลื่อนของตัวเองยังอยู่ก็เสียนะครับ

 

 

ยุคล : เหมือนพี่ต้อยมาดักเอาไว้

 

 

สนธิญาณ : ดักอะไร อีกปีครึ่ง แต่หยิบมาพูดให้เห็นว่า ภายใต้รัฐธรรมนูญที่กำลังจะออกมา พรรคภูมิใจไทยจะเป็นตัวแปรที่สำคัญ คนชื่อเนวินจะทรงพลังอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งคนชื่อสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รวมทั้งบรรหาร ศิลปอาชานี่คือพรรคขนาดกลาง และถ้าแพ็คกันเสียงก็ดุลกลายเป็น 3 เศร้าทันที

 

 

ยุคล : แล้วทำไมคุณทักษิณยังมั่นใจ เขาไม่ได้มองชนะเพียงแต่ตัวเลข คุณทักษิณก็เหมือนเข้าใจวิธีการเหล่านี้และมองว่ายังไงก็ตั้งรัฐบาลได้ คำว่าชนะของคุณทักษิณน่าจะหมายความว่าตั้งรัฐบาลไม่ใช่หรือครับ

 

 

สนธิญาณ : บางทีจะเป็นไปได้ไหม อาจจะปลอบใจลูกน้อง ผมบอกว่าพล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ธรรมดา ผมไม่รู้ว่ารัฐธรรมนูญที่คิดแบบนี้พล.อ.ประยุทธ์คิดไว้หรือเปล่า แต่เราต้องกลับมาดูว่าปลอบใจลูกน้องหรือเปล่า คุณหญิงสุดารัตน์ต้องกลับมาดูว่าคำพูดของคุณทักษิณมาพูดในงานของใคร คุณหญิงสุดารัตน์ก่อนหน้านี้ หน่อยไม่ยุ่งกับการเมืองค่ะ หน่อยกำลังสนใจและติดตามในเรื่องพระพุทธศาสนากำลังไปสร้างสถานสถานที่สวนลุมพินีสถาน ซึ่งเป็นสถานที่ประสูติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และคุณหญิงไปเอาพระโพธิสัตว์พระพุทธเจ้าตอนที่เป็นเจ้าชายสิทธัตถะที่ชี้มือตอนนั้นยังไม่เป็นพระพุทธเจ้านะครับ คุณหญิงสุดารัตน์ปฏิเสธในการที่จะแสดงออกทางการเมือง

 

 

ยุคล : คนดูเขาจะชอบนะครับ

 

 

สนธิญาณ : คือหน่อยอย่างนู้นอย่างนี้ แต่ในขณะเดียวกันจำได้ไหมครับ มีข่าวว่าคุณหญิงสุดารัตน์มีความสนิทสนมกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และอาจจะมานั่งเป็นหัวหน้าพรรค คสช.เพื่อในการดุลและเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่ปรากฏว่าข่าวนี้ไม่จริง ยิ่งวันนี้ไม่จริงเพราะว่าการที่คุณหญิงสุดารัตน์มาจัดประชุมเลี้ยงปีใหม่ ส.ส.ในสังกัดเป็นการประกาศศักดาทางการเมืองว่าหน่อยยังเป็นหัวหน้าทีมกรุงเทพฯของพรรคเพื่อไทยอยู่ จะเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไร ส.ส.ทั้งหลายที่มาล้วนจะต้องมาภายใต้บารมีของคุณหญิงสุดารัตน์ จะเป็นการเลี้ยงปีใหม่เฉย ๆ แล้วจะมาบอกนักข่าวทำไมเรื่องทักษิณวิดีโอคอลมา ไม่ว่าจะลูกน้องหรือคุณสุดารัตน์บอกเอง ถ้าเขาสั่งห้ามพูดไม่ได้พูดหรอก ไม่มีใครกล้าพูดหรอก

 

 

ยุคล : นี่ออกมาเป็นชิ้น ๆ เลยนะครับ

 

 

สนธิญาณ : คุณอนุดิษฐ์ออกมาโต้นะครับว่ามีคนออกมาให้ข่าวว่าพูดเกินเลยไป แต่ผมจะเรียนว่าการออกมาเคลื่อนตัวของคุณหญิงสุดารัตน์เรียกว่ามีนัยยะทางการเมืองในส่วนตัวของคุณหญิงสุดารัตน์เหมือนกัน แต่ส่วนที่จะชนะหรือไม่ผมจะเรียนเลยนะครับว่าวันนี้การเมืองอยู่ที่คนสามคน คือ 1.เนวิน ชิดชอบและอนุทิน, 2.สุวัจน์ ลิปตพัลลภ, 3.บรรหาร ศิลปอาชา จะชรามากแล้วนะครับ พวกนี้จะเป็นตัวดุล ทีนี้ถ้าพวกเขาเป็นตัวดุลในสิ่งที่พรรคเพื่อไทยหรือใครคิดก็ตามแต่ทหารจะสร้างรัฐธรรมนูญมาแบบนี้เพื่อที่จะไปล็อบบี้พรรคขนาดกลางนี้เอาไว้ไหม และไปจับกับพรรคประชาธิปัตย์ ดูท่าพรรคประชาธิปัตย์จะลอยอีกหรือเปล่า นี่เป็นการวิเคราะห์แต่ผมคิดว่า ผู้ที่อ้างรัฐธรรมนูญไม่ได้คิดลึกซึ้งแบบนี้หรืออาจจะคิดแต่จริง ๆ การเลือกตั้งแบบนี้มีนัยยะสำคัญที่ผมเคยได้เรียนไว้แล้ว นี่ผมก็ขยายความให้ฟังว่าในแง่มุมการต่อสู้ที่มี 2 แนวทาง นี่คือหนึ่งแนวทาง ส่วนแนวทางที่สองจะมาขยายต่อ

 

 

ยุคล : เดี๋ยวมาตามต่อในเบรคหน้ายังเหลืออีก 1 แนวทาง หัวข้อวันนี้ทักษิณจะยึดประเทศไทย เพราะฉะนั้นวิธีการเลือกตั้งเป็นวิธีการที่นำไปสู่ แต่พี่ต้อยบอกว่าลำบาก อีกวิธีการนึงคืออะไรติดตามในเบรคหน้าครับ (พักช่วง)