"69 ปี วันชาติมอญ"  ชาวมอญต้องกำหนดอนาคตตัวเอง!!

"69 ปี วันชาติมอญ" ชาวมอญต้องกำหนดอนาคตตัวเอง!!

 

นี่คือ บรรยากาศการสวนสนามของทหารมอญ  ในงานรำลึกวันชาติมอญ ครบรอบ 69 ปี เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา  ซึ่งจัดขึ้นที่หมู่บ้านพนังเปิง เขตพื้นที่ปะโฮ เมืองเย้ รัฐมอญ สหภาพพม่า   
 

โดยมี "พล.อ.โทโมน ประธานพรรคมอญใหม่"  เป็นประธานในการเปิดงาน ซึ่งบรรยากาศเป็นอย่างคึกคัก  มีประชาชนชาวมอญในพม่าและฝั่งไทยราว 1 หมื่นคน เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง    ในขณะที่บ้านเรือนโดยรอบมีการประดับธงชนชาติมอญ คือ ธงแดง ที่มีหงส์สีเหลืองอยู่ตรงกลาง กันอย่างสวยงาม
 

งานวันชาติมอญเริ่มจัดขึ้นนับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๑ เป็นต้นมา หลังจากที่พม่าเมืองได้รับเอกราชอังกฤษ และจากการที่รัฐบาลพม่าไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงปางโหลง ทำให้ชนกลุ่มน้อยต่างๆ พยายามแยกตัวออกมาเป็นอิสระและจับอาวุธขึ้นต่อต้านกับพม่า ชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่มก็มีวันสำคัญนี้ เพื่อแสดงออกถึงความเป็นชนชาติและอิสระในการปกครองตนเอง
 

วันชาติมอญถูกกำหนดให้ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๓ หรือหลังวันมาฆะบูชา ๑ วัน  เนื่องจากมีความสำคัญเป็นวันแรกสร้างเมืองหงสาวดี  โดยกษัตริย์สองพี่น้องคือ พระเจ้าสมละ (อ่านว่า สะมะละ) และ วิมละ (อ่านว่า วิม-มะ-ละ) เป็นที่สังเกตุว่า แม้วันนี้ชาวมอญจะยังไม่มีประเทศที่เป็นของตนเอง แต่มีความเป็นชาตินิยมสูง  ดังจะเห็นได้จาก ในงาน "วันชาติมอญ"  ชาวมอญที่มาร่วมงานจะพร้อมใจกันแต่งชุดประจำชาติ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำให้มีความแตกต่างจากพม่า   เนื่องจากพม่า ได้ดำเนินนโยบายกลืนชาติมอญมาโดยตลอด จนเอกลักษณ์ของมอญ ใกล้จะสูญหาย
 

สำหรับชุดมอญ  จะมีลักษณะเฉพาะ คือ ผู้ชายต้องใส่ “โสร่งแดง” เป็นโสร่งพื้นแดงลายตารางคล้ายคันนา มีแถบขาวคาดที่กลางผืนส่วนผู้หญิงจะนุ่ง “ผ้าถุงแดง” ลายดอกบนพื้นแดงมีเชิง  ส่วนเสื้อมีลักษณะเป็นเสื้อสีขาว หรือ สีชมพูอ่อนแขนยาว คอกลมผ่าหน้าผูกเชือก
 

พล.อ.โทโมน ประธานพรรครัฐมอญใหม่ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานว่า เพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้นำชนชาติมอญ ที่ได้สร้างสิ่งที่เป็นมงคล  มีการปกครอง มีปราสาท บันลังก์ เพียมพร้อมไปด้วยศักดิ์ศรี และได้ปรากฏกระฉ่อนกระจายไปทั่วโลก ไม่ใช่แค่เอเชียอาคเนย์ หรือเอเชียเท่านั้น มอญสมัยใหม่มีความสามัคคี ได้เริ่มมีการปลุกใจรักชาติ เพื่อให้มีจิตใจเข้มแข็งและสร้างเมืองมอญอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งจะได้รับรู้ประวัติศาสตร์  เพื่อเข้ามาแบกรับหน้าที่ ช่วยเคลื่อนไหวพร้อมๆกัน  จนกว่าจะทำให้หลักชัยของชนชาติถึงเส้นชัย 


 พล.อ.โทโมน   กล่าวด้วยว่า สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปและสถานการณ์การเมืองปัจจุบันพวกเรากำลังจะดำเนินต่อไป เราจะดำเนินการพร้อมกับชาติพันธุ์ทั้งหมด  พวกเราเองที่สำคัญคือต้องรักสมัครสามัคคีในหมู่ของพวกเรา  จับมือถือร่วมเคลื่อนไหวไปพร้อมๆกัน พวกเราต้องทำงานชนชาติด้วยมือของพวกเราเอง ในขณะที่สิทธิ์และเสียงจากรัฐบาลกลางกำลังขออยู่   การเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2008 นั้น รัฐสภาใหม่ครั้งที่ 2 ได้ปรากฏให้เห็น เป็นขั้นเป็นตอนในขณะนี้ ดังที่ พรรค NLD ของนางอองซานซูจี ได้ชัยชนะเลือกตั้งไปแล้ว   และจะเดินหน้าสร้างเกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ ให้มีความเสมอภาค หรือ รักในกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ได้รับสันติภาพในระยะยาว ในประเทศของพวกเรา ให้รัฐธรรมนูญสามารถใช้ปกครองได้ทั่วประเทศ  และเพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยสามารถสถาปนาขึ้นมาได้จะต้องเจรจากับรัฐบาลเก่าและกลุ่มกองทัพให้เรียบร้อยก่อนแล้ว ถึงจะมาพูดถึงประธานาธิบดีใหม่ ให้มีรัฐบาลใหม่ก่อน แล้วถึงจะไปเจรจาแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2008
 

พล.อ.โทโมน  กล่าวอีกว่า  พรรครัฐมอญใหม่ของเรา หรือ พรรคชาติพันธุ์ต่างๆเขาต้องปกครองกันเอง พรรคของมอญจะใช้หนทางนี้ในการดำเนินการต่อไป พรรคมอญใหม่เอง ได้แก้ไขความยุ่งยากการเมืองมาตั้งแต่ ปี 2012 มีการหยุดยิงและเซ็นสัญญากับรัฐบาลพม่า 2 ชั้นคือ  ระดับรัฐ และระดับประเทศ  สำหรับการกลับไปเซ็นสัญญาหยุดยิงกับคณะกรรมการข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ" หรือ  NCA ของรัฐบาลพม่าอีกครั้งนั้น เนื่องจากรัฐบาลพม่า ยังไม่ยอมรับให้กลุ่มชาติพันธุ์ทั้งหมดเข้าร่วม จึงยังไม่เซ็นสัญญาหยุดยิงอีกครั้ง  แต่ถ้าต้องการให้เกิดสันติภาพในระยะยาว การหยุดยิงจะต้องเกิดขึ้นเป็นอันดับแรกเสียก่อน หลังจากนั้นจึงมีการเจรจาการเมือง เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าร่วม   และจากนั้นจะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบอบประชาธิปไตย  พวกเราต้องเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ปี 2008 เพื่อให้สามารถสถาปนาระบอบการปกครองประชาธิปไตยในระบบสาธารณรัฐได้   ดังนั้นพวกเราต้องร่วมต่อสู้ร่วมกับกลุ่มชาติพันธุ์ พรรคการเมืองประชาธิปไตยทั้งหลาย พรรคการเมืองกลุ่มชาติพันธุ์ภายใต้รัฐธรรมนูญ  พร้อมกับกลุ่มหาชน และชาวบ้านชาวเมือง ได้ดำเนินการต่อสู้ไป อย่างหนักแน่น  โดยชาวมอญต้องสามัคคีกัน เพื่ออนาคตของชนชาติมอญ ซึ่งมอญต้องจัดการเองระบบสาธาณรัฐที่แท้จะต้องปรากฏขึ้น
 

"ปะกาวสอน" ผู้ประสานงานด้านวัฒนธรรมมอญ กล่าวว่า การจัดวันชาติมอญในปีนี้ รัฐบาลพม่ามีการเปิดกว้างมากขึ้น ไม่ปิดกั้นเหมือนปีที่ผ่านๆมา ซึ่งเมื่อก่อน การจัดงานจะทำเป็นการเฉพาะกลุ่ม แต่ในปัจจุบันชาวมอญจากพื้นที่ต่างๆ สามารถเข้าร่วมได้  ทั้งจากฝั่งไทยและในพม่าเอง
 

ปะกาวสอน ยังกล่าวด้วยว่า ถ้าเราจะมีประเทศของเราเอง เราต้องค้นหาต้นตระกูลของกษัตริย์ แต่ไม่รู้ว่ายังมีหรือไม่   นอกจากนี้ อยากให้เมืองหงสาวดี กลับมาเป็นของมอญเหมือนเดิมเหมือนในอดีต
 

ด้านอนาคตของชาวมอญนั้น    "บู๋" นายทหารชาวมอญ กล่าวว่า แม้ว่าพรรคของอ๋องซานซูจี จะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ แต่อำนาจจริงๆยังอยู่ภายใต้กลุ่มทหาร  ซึ่งเขาอาจจะปล่อยให้บริหารประเทศต่อไป แต่วันหนึ่งกลุ่มทหารอาจจะสร้างสถานการณ์ปั่นป่วน  เพื่อสร้างวิกฤติศรัทธาต่ออ่องซานซูจี และเข้ามาควบคุมอำนาจโดยการเชื้อเชิญของประชาชน ดังนั้นทางกองทัพชาวมอญจึงขอจับตาสถานการณ์นี้ก่อน ยังไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้