เกาะติด !! นโยบาย "คสช." ปฏิบัติการกวาดล้าง "ผู้มีอิทธิพล" 6จุด ในจังหวัดนครปฐม

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

 

 


ติดตามปฏิบัติการกวาดล้างตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติซึ่งปรากฏผลเป็นรูปธรรมหลังจากที่เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมกำลังบุกจู่โจมที่เป้าหมายกว่า 6 จุด ในพื้นที่จังหวัดนครปฐมและก็สามารถจับกุมตรวจยึดสิ่งของผิดกฎหมายได้เป็นจำนวนมาก

 


การปราบปรามผู้มีอิทธิพล เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบ จากศูนย์รักษาความปลอดภัย และกองพลทหารราบที่ 9 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำกำลังเข้าตรวจค้นอาวุธปืนและสิ่งผิดกฎหมายตามนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลของรัฐบาล ทั้งหมด 6 จุด ในจังหวัดนครปฐม

 


จุดที่ 1 บ้านของนายพเยาว์ เนียะแก้ว พบ
1. ปืนลูกซองจำนวน 2 กระบอก
2.ปพ.357 จำนวน 1กระบอก
3.ปพ.11มม. จำนวน 1กระบอก
4.ปพ.9มม. จำนวน 1กระบอก
5.เงินสด 2ล้านบาท
6.ทองคำแทง 1,150บาท
7.รถยนต์ปอร์เช่ รุ่นคาเย่น สีดำ กก.8888 นครปฐม
8.รถยนต์โตโยต้า รุ่นแฮริเออร์ สีขาว กจ.9911 นครปฐม
9.รถยนต์โตโยต้า รุ่นแฮริเออร์ สีขาว กจ.9889 กทม.
10.รถยนต์โตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีขาว ชฐ9000 กทม.
11.รถยนต์เบนซ์ รุ่นslc250 สีขาว ย.2108 กทม.(ป้ายแดง)

 


จุดที่ 2 บ้านนายชวเทพ พรหมเอียดพบ
1. ปืนไรเฟิล-ลูกซอง 4 กระบอก
2. ปืนพก 1 กระบอก
3. เครื่องกระสุน ลูกซอง 55 นัด
4. กระสุน .45 53 นัด
5. กระสุน .38 25 นัด
6. กระสุน .22 6 นัด
7. วิทยุสื่อสาร 6 เครื่อง

 

 

จุดที่ 3 บ้านนายวิชาญ พรหมเอียด
1. ปืนพก 14 กระบอก
2. ปืนยาว 3 กระบอก
3. เครื่องกระสุน จำนวนหนึ่ง

 


จุดที่ 4 บ้านนายประสาน บุญมี (บ้านพ่อตานายวิชาญ)
1. รถยนต์ BMW ฌช 7272 กทม. สีขาว
2. รถยนต์ เบนซ์ SLK 250 ช-9999 กทม. สีดำ
3. รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ศ-3333 กทม. สีขาว
4. ยาบ้า 19 เม็ด
5. ยาไอซ์ จำนวนหนึ่ง
6. ปืนพก 3 กระบอก
จุดที่ 5 สนามยิงปืน
1. ปืนพก 11 มม.
2 กระบอก 2. ปืนพก .357 1 กระบอก
3. ปืนลูกซอง 1 กระบอก
4. ปืนพก 9 มม. 1 กระบอก
5. ปืนพก .45 2 กระบอก
6. กระสุนปืน จำนวนหนึ่ง

 


จุดที่ 6บ้านนายจุมพล พันมี พบ
1.ปืนพก จำนวน 1 กระบอก พร้อมใบอนุญาติ
2. เครื่องกระสุน 106 นัด
3.โพยหวย และโพยบอลในคอมพิวเตอร์
4.รถยนต์ฮอนด้า รุ่นaccord ป้ายแดง
5.รถกะบะ isuzu รุ่นdmax ป้ายแดง
6.รถกะบะ isuzu รุ่นhi-lander ถห 5996 กทม.
7จยย. honda ทะเบียน 1กฉ 3155 นครปฐม
8จยย. bmw mf motortad ไม่ติดป้ายทะเบียน
9.จยย. Honda click ขมจ. 420 นครปฐม
10.จยย. Forza ป้ายแดง

 

 

อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงจังหวัดนครปฐมซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการวิพากษณ์วิจารย์มาโดยตลอดว่าเป็นพื้นที่ของกลุ่มผู้มีอิทธิพลตามที่ปรากฏจากการรายงานข่าวในช่วงหลายปีที่ผ่านมาซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ไปติดตามและจับกุมผู้กระทำความผิดกฏหมายอย่างต่อเนื่อง

นครปฐม เป็นจังหวัดในภาคกลาง มีนายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด

ข้อมูลสถิติ

พื้นที่ 2,168.327 ตารางกิโลเมตร

ประชากร 899,342 คน  
 

การปกครองส่วนภูมิภาค แบ่งออกเป็น 7 อำเภอ ประกอบด้วย 106 ตำบล และ 930 หมู่บ้าน
1. อำเภอเมืองนครปฐม
2. อำเภอกำแพงแสน
3. อำเภอนครชัยศรี
4. อำเภอดอนตูม
5. อำเภอบางเลน
6. อำเภอสามพราน
7. อำเภอพุทธมณฑล

 

พื้นที่จังหวัดนครปฐมประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 117 แห่ง
แบ่งตามประเภทและอำนาจบริหารจัดการภายในท้องที่ได้เป็น
องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง
เทศบาลนคร 1 แห่ง
เทศบาลเมือง 4 แห่ง
เทศบาลตำบล 18 แห่ง
องค์การบริหารส่วนตำบล 93 แห่ง

 


สำหรับ องค์การบริหารส่วนจังหวัด มีโครงสร้างประกอบไปด้วย

นายอนุสรณ์ บุญกวิน ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด

ปฏิบัติหน้าที่ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม สภาอบจ.ประกอบไปด้วย

1.นายประดิษฐ์ ศรีสุขจร

ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด

2.นายสำเริง บุญอรุณรักษา

รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด

3.นายธนพันธ์ โชคดำรงสุข

รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด

 

 

4.นางสาวปทุมมาศ กมลเวช เลขานุการสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม

 


สมาชิกสภา อบจ.เขตอำเภอเมืองนครปฐม

พ.ต.ท.ชาญ ใจเย็น เขต ๑

นายสมพงษ์ ปิยนันท์จรัสศรี เขต ๒

นายสุรพงศ์ นิ่มปุญญกำพงษ์ เขต ๔

นายชัยยศ บุญยงค์ เขต ๕

นายสุเทพ บุญนิยม เขต ๖

นายสมศักดิ์ โตศรีพลับ เขต ๗

นายอภินันท์ ศิริรังสี เขต ๘

นายแมน มุ้ยมี เขต ๙


สมาชิกสภา อบจ.เขตอำเภอสามพราน
นายสมนึก สกุลรัตนกุลชัย เขต ๑
นายสมชาย มณีรัตน์ เขต ๒
นายมะเนตร โคจริยาวัฒน์ เขต ๓
นายสำเริง บุญอรุณรักษา เขต ๔
นายจักรกฤษณ์ สงประชา เขต ๕
นายสุรชัย อนุตธโต เขต ๖
นายทองดี มิ่งขวัญ เขต ๗


สมาชิกสภา อบจ.เขตอำเภอนครชัยศรี
เขต 1 นาย วิชิต จำปาทอง
เขต 2 นาย ชัชวาล บุญอำไพ
เขต 3 นายบุญส่ง นัดสูงวงษ์
เขต 4 นาย สังเวียน นัดสูงวงษ์


สมาชิกสภา อบจ.เขตอำเภอกำแพงแสน
เขต 1 นาย สมนึก สกุลรัตนกุลชัย
เขต 2 นาย สมชาย มณีรัตน์
เขต 3 นาย มะเนตร โตจริยวัฒน์
เขต 4 นาย สำเริง บุญอรุณรักษา
เขต 5 นาย จักรกฤษณ์ สงฆ์ประชา
เขต 6 นาย นาย อนุชัย อนุตธโต
เขต 7 นาย ทองดี มิ่งขวัญ


สมาชิกสภา อบจ.เขตอำเภอบางเลน
เขต 1 นาย นิมิต จงอักษร
เขต 2 นาย เสฐียรพงษ์ รัตนภิริมย์


สมาชิกสภา อบจ.เขตอำเภอดอนตูม
เขต 1 นาย ชรินทร์ ลี้ไพบูลย์
เขต 2 นาย บัญชา บุญวงษ์

 

สมาชิกสภา อบจ.เขตอำเภอพุทธมณฑล
เขต 1 นาย วินัย วิจิตรโสภณ

 


ย้อนกลับไป พ.ศ.2554 จังหวัดนครปฐมเคนเป็นข่าวโด่งดังถึงการปราบปรามผู้มีอิทธิพลมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งนั้นมีนักการเมืองชื่อดังเข้าไปเกี่ยวข้องโดยเฉพาะตระกูลสะสมทรัพย์

 


เมื่อเดือนกันยายน 2544 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และ ป.ป.ง.รวมทั้งตำรวจภูธรภาค 7 นำกำลังทหาร-ตำรวจตามแผนเฉพาะกิจ “อินทนน 44” กว่า 700 นาย พร้อมเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ เข้าตรวจค้นอย่างละเอียดบริเวณ “บ่อฝังกลบขยะ” นับพันไร่ของ “อนุชา สะสมทรัพย์” น้องชายนายไชยา ทำการจับกุมแรงงานต่างด้าวและผู้ต้องหาคดียาเสพติดนับสิบราย

 


ขณะเดียวกัน ตำรวจได้บุกค้นบ้านนายก อบจ. รองนายก อบจ.นครปฐม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ สจ.ยึดทรัพย์สินทั้งเงินสด บัญชีธนาคาร และทรัพย์สินอื่นๆ ไว้ตรวจสอบ ซึ่งเป็นไปตามยุทธการกวาดล้างตรวจค้นแหล่งต้องสงสัยฟอกเงิน ทั้งนี้การตรวจค้นดังกล่าวไม่ใช้ตำรวจจาก จ.นครปฐม เพราะส่วนใหญ่มีความใกล้ชิดกับนักการเมืองเจ้าของพื้นที่ อาจจะทำให้ข่าวรั่วถึงหูเสียก่อน

 

แต่ผลการตรวจค้นกลับไม่พบอะไร มิหนำซ้ำตระกูล “สะสมทรัพย์” ออกมาโวยวาย แถมท้ายผู้กำกับการตำรวจภูธรภาค 7 อย่าง “พล.ต.ท.ธีรวุฒิ บุตรศรีภูมิ” ถูกทุบป้ายชื่อ และหลังจากที่ รมต.มหาดไทย “ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์” ออกมาอภิปรายกลับไปว่า “ตำรวจทำตามหน้าที่” ก็ทำให้ทั้ง “เผดิมชัย-ไชยยศ” ไม่พอใจและออกมาเปิดศึกปะทะกัน จนหัวหน้าพรรคอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” ต้องสงบศึกด้วยการเตรียมเอาเรื่องกับตำรวจ

 


“ไชยา สะสมทรัพย์” ซึ่งในขณะนั้นเป็น ส.ส.เขต 4 จ.นครปฐม พรรคไทยรักไทย กล่าวหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “... กลั่นแกล้งตระกูลสะสมทรัพย์ โชว์ผลงานให้นายเห็นในช่วงฤดูโยกย้าย หวังให้ตัวเองได้รับตำแหน่ง แต่กลับทำให้วงศ์ตระกูลของผมได้รับความเสียหายป่นปี้ โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ธีรวุฒิ ผู้บัญชาการภาค 7 เป็นคนหูเบาได้รับข้อมูลมาผิดๆ จากคู่แข่งทางการเมืองของตนที่เป็น ส.ส.สอบตก ไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัด แถมยังยกกำลังมากมายราวกับอาชญากร ค้นบ้านที่เป็นหัวคะแนนและคนสนิทของตนแทบทั้งสิ้น ...”

 

 

ในขณะนั้น ตำรวจภูธรภาค 7 ถือได้ว่ามีผลงานในการกวาดล้าง “ผู้มีอิทธิพล-ซุ้มมือปืน-ยาเสพติด” ในเขตนครปฐม โดยเฉพาะการจับกุมหลานของนายไชยาที่ชื่อ “คณิน (แหลม) ลักษณ์ในธรรม” ในคดีข่มขืนร่วมกันพรากผู้เยาว์ และร่วมกันฆ่า ทั้งนี้ยังพบว่านายคณินยังมีส่วนพัวพันหรือรู้เห็นคดีต่างๆ อีกหลายคดี แต่ผู้เสียหายไม่กล้าแจ้งความ และยังพบว่าผู้ต้องหาร่วมคดียังอาศัยบารมีของผู้กว้างขวางในพื้นที่

 


แต่แล้วตระกูล “สะสมทรัพย์” ตกเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภาค 7 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวม 7 นาย เข้าจับกุมตัว “อนุชา สะสมทรัพย์” น้องชายนายไชยา ที่ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถนนเพชรเกษม ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เพราะเข้าใจว่าเป็นคนร้ายลักลอบขนยาเสพติด

 


แม้จากการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่นายอนุชาได้เข้าแจ้งความว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ “ทำเกินกว่าเหตุ” เพราะมีการชักปืนมาจ่อที่ศีรษะ ทั้งที่ตนไม่มีปืน และยังถูกเจ้าหน้าที่ใช้ปืนมาจ่อหัว อีกด้วย นอกจากนี้จากกรณีการ “ค้นบ่อขยะ” ของนายอนุชาที่มีอยู่เดิม ทำให้ตระกูล “สะสมทรัพย์” ที่ดำรงตำแหน่ง ส.ส.เกิดความไม่พอใจมากขึ้นไปอีก

 


จากการตรวจสอบข้อมูลข้อมูล 11 กันยายน 2544 พบว่าตระกูล“สะสมทรัพย์” เปิดกิจการมาแล้ว 16 บริษัท รวมทั้งบริษัทที่คนในตระกูลถือหุ้นและเป็นกรรมการมีมากกว่า 25 บริษัท แต่บางบริษัท “ไม่ระบุว่าทำกิจการอะไร” จนปิดตัวเองในเวลาต่อมา บางบริษัทมีทรัพย์สินสุทธิแบบ “ก้าวกระโดด” มากถึง 20 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ในปีที่ผ่านมา “ไม่มีรายได้” และมีดอกเบี้ยค้างจ่าย 4,000 บาทเท่านั้น

 


ซึ่งจากการตรวจสอบเชิงลึก บางบริษัทจดทะเบียนและทำกิจการเหมือนกัน และที่น่าสนใจก็คือ บางบริษัทพบเรื่องอื้อฉาว โดยเฉพาะ “บริษัทลำเลียงชัย” เมื่อครั้งยื่นซองประกวดราคาจ้างเหมาขนขยะของ อบจ.นนทบุรี จนถึงขั้นมีอดีตตำรวจซึ่งเป็นคนรับใช้เข้าไป “ชกต่อย” คนของบริษัทคู่แข่งมาแล้ว

 


ขณะเดียวกันผลการเลือกตั้งสส.ในปี2554ของนครปฐม  ผู้ที่ได้รับเลือกเป็นสมาฃิกสภาผู้แทนรษฎรจังหวัดนครปฐม มีรายชื่อดังต่อไปนี้
เขต 1 พันโทสินธพ แก้วพิจิตร  เบอร์ 21 ชาติไทยพัฒนา ได้คะแนน 33,816
เขต 2 นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ เบอร์  1 เพื่อไทย ได้คะแนน  49,127
เขต 3นายก่อเกียรติ สิริยะเสถียร เบอร์  1 เพื่อไทย ได้คะแนน  56,936
เขต 4 นายอนุชา สะสมทรัพย์ เบอร์  1 เพื่อไทย   ได้คะแนน   43,717
เขต 5 นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ เบอร์ 1 เพื่อไทย  ได้คะแนน   48,544