ตามติด !! "แกนนำนปช." ดิ้นช่วย 8 ลูกน้อง ทำเพจโจมตี "คสช." - เพราะกลัวคดีสาวถึง หรือ ช่วยเพราะฐานะเจ้านาย ???

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

 

อีกหนึ่งประเด็นที่ยังคงติดตามและดูเหมือนว่าแกนนำนปช.จะให้ความสนใจในความช่วยเหลือผู้ต้องหา 8 คนที่ทำ เว็บเพจ โจมตี คสช.เป็นอย่างยิ่ง

 


ทั้งนี้คงสามารถพิจารณาได้ สองเหตุผลหลักๆคือเนื่องจากเป็นคนรู้จักกัน แต่อีกด้านหนึ่งคงไม่ปฏิเสธได้ว่าการที่คดียังไม่สิ้นสุดและอาจจะซัดทอดขยายผลเอาผิดไปกับบรรดาแกนนำนปช.

 


เพราะฉะนั้นแกนนำนปช.ก็จะต้องเข้าไปช่วยเหลือคนเหล่านี้ก่อนที่ข้อมูลจะหลุดรอดออกไปเพิ่มเติมและอาจจะทำให้ถูกดำเนินคดี
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ กล่าว ว่า ขอเรียกร้องคนไทยอย่าวิตกกังวล และต้องก้าวข้ามข้อห้ามการแสดงความเห็น หรือสิ่งกีดขวางที่เป็นอุปสรรคกับความเห็นต่างร่างรัฐธรรมนูญให้หมด แล้วมุ่งหน้าไปสู่การใช้สิทธิออกเสียงประชามติให้มากมาย โดยแสดงให้เมียนมาเห็นว่าประชาธิปไตยของประเทศไทยมีจิตวิญญาณไม่น้อยหน้าเช่นกัน

 


นายจตุพร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระบุว่ามีคนข่มขู่ให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ลาออกนั้น สิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญ สะท้อนถึงบรรยากาศของประเทศเริ่มร้อนแรงขึ้นมาทันที จึงขอฟังจาก รมว.คลัง ว่า ใครบังอาจข่มขู่ เพราะภายใต้อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ ใครบังอาจกล้าข่มขู่กับคนถือปืน ถือเป็นการท้าทายอำนาจ คสช.ที่มาจากการยึดอำนาจ ดังนั้นถ้าเป็นความจริงแล้ว ถือเป็นเรื่องใหญ่ อย่าปล่อยให้เงียบ เมื่อเป็นประเด็นสาธารณะต้องทำให้ความจริงให้ปรากฏ         

 


นายจตุพร กล่าวต่อว่า สำหรับการประกันตัว 8 ผู้ต้องหาทำเพจ เรารักพล.อ.ประยุทธ์ ได้ยื่นขอประกันเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ศาลทหารไม่อนุญาต ส่วนทนายจะรอให้ถึงการฝากขังครบผัดแรกจำนวน 12 วันก่อน โดยวันที่ 10 พ.ค.นี้ จะขอยื่นประกันตัวอีกครั้ง เพราะการคัดค้านการประกันตัวอ้างเรื่องจะไปยุ่งกับพยาน ซึ่งเรื่องนี้คงไม่ได้เกิดขึ้น โดยตามคำร้องนั้น อ้างพยานมาจากทหารทั้งหมด ใครจะกล้ายุ่งด้วย

 


อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากรายละเอียดของคำฟ้องก็จะพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 8 คน มีการกระทำความผิดที่แตกต่างกันไปโดยเฉพาะสองคนที่อยู่ในระดับผู้ประสานงานตามผังของทหาร ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาความผิดมาตรา 112 อีกด้วย

 


 

สำหรับ ผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย โดนข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ฐานยั่วยุปลุกปั่น และพ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ซึ่ง มีรายชื่อดังนี้

น.ส. ณัฏฐิกา วรธัยวิชญ์ หรือนัท

นายนพเก้า คงสุวรรณ

นายวรวิทย์ ศักดิ์สมุทรนันท์ หรืออ้วน

นายโยธิน มั่งคั่งสง่า หรือโย

นายธนวรรธน์ บูรณศิริ

นายศุภชัย สายบุตร หรือตั๋ม

นายหฤษฏ์ มหาทน

นายกัณสิทธิ์ ตั้งบุญธินา หรือที

 

อย่างไรก็ตามวานนี้  พ.ต.ท.ชัยพร นิตยภัตร์ สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เดินทางไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในความผิดมาตรา 112 ฐานหมิ่นเบื้องสูงแก่นายหฤษฏ์ มหาทน และ น.ส.ณัฏฐิกา วรธัยวิชญ์ เนื่องจากในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่พบข้อความมีลักษณะเข้าข่ายความผิดมาตรา 112 เป็นข้อความที่นายหฤษฏ์และ น.ส.ณัฏฐิกา สนทนาผ่านโซเชียลมีเดีย จึงรวบรวมพยานหลักฐานกระทั่งศาลทหารกรุงเทพออกหมายจับในความผิดดังกล่าว ลงวันที่ 29 เมษายน         

 


รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนปฏิเสธที่จะลงชื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยให้เหตุผลว่ารอการแต่งตั้งทนายความส่วนตัวขึ้นมาใหม่ เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 2 คนขอยกเลิกที่จะใช้ทนายความจากสภาทนายความ ทางพนักงานสอบสวนจะเสนอเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณา

 


ซึ่งที่ผ่านมาตามผังของทหารได้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้ให้ข้อมูลว่านายจตุพร และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ เป้นผู้สนับสนุนทางการเงิน และก็ทำให้ทั้งสองคนต่างออกมาปฏิเสธ

 


29 เม.ย. 2559 จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ กล่าวในรายการมองไกล  ว่า  ณัฏฐิกา วรธัยวิชญ์ หรือ นัท และนพเก้า คงสุวรรณ หรือ นพ เป็นลูกน้องของตน เป็นฟรีแลนซ์มาดูแลเพจให้ตน และเพจพีซทีวีด้วย โดยสถานีพีซทีวีเป็นคนว่าจ้างให้มาดูแล มีหลักฐานการจ้างเงินชัด ไม่มีอะไรซับซ้อน

 


นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด ง กล่าวว่า การทำเพจล้อเลียนผู้นำประเทศ หรือบุคคลสาธารณะ ไม่ใช่เรื่องแปลก การทำเพจห่างไกลความผิดมาตรา 116 ที่เป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคง ถ้าเป็นศาลอาญาก็คงไม่รับเรื่องนี้ แต่นี่เป็นศาลทหาร แม้แต่คดีหมิ่นประมาทยังไม่รู้ว่าจะเข้าข่ายหรือไม่เลย ส่วนที่มีรูปตนเองปรากฏในผังล้ม คสช. รู้สึกเป็นเกียรติ แม้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลยก็ตาม และไม่รู้สึกกังวล เพราะมองว่าเป็นการหวังผลทางการเมืองที่มีหัวแล้วต้องมีตัวประกอบ ซึ่งตนเองและนายจตุพรถูกจับมาเป็นตัวประกอบเรื่องนี้ แต่ไม่สามารถดำเนินคดีได้ เนื่องจากไม่มีข้อเท็จจริง

 


อย่างไรก็ตามหากย้อนกลับไปพิจารณาคำให้การผู้ต้องหา ที่ทำ เว็บเพจ โจมตี คสช. ในวันแถลงข่าวว่าตัวเข้านั้นรับเงินมาจากณัฏฐิกา วรธัยวิชญ์ หรือนัท มาจำนวน15,000บาท เพราะฉะนั้น จากคำให้การดังกล่าวว่าผู้ต้องหาได้รับเงินมาจากพีชทีวี จึงไม่น่าจะใช่ เพราะถ้าหากว่าเป็นพนักงานของพีซทีวี จริงก้จะได้รับเงินมาตามกระบวนการของลูกจ้างและนายจ้าง

 


ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนกลุ่มแอดมินเพจ "เรารัก พล.อ.ประยุทธ์" หลังจากดำเนินคดีไปแล้ว 8 ราย ปรากฏข้อมูลในเอกสารคำร้องฝากขังว่านายพานทองแท้ให้เงินสนับสนุนว่าอยู่ในสำนวนไปก้าวล่วงได้อย่างไร

 


แต่มีพยานหลักฐานการให้เงิน แต่ยังไม่ทราบว่าให้เพื่อไปทำอะไร กำลังพิจารณาจะเชิญนายพานทองแท้มาสอบปากคำ หากพิจารณาแล้วเห็นสมควรสอบปากคำจะออกหมายเรียกนายพานทองแท้มาพบพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ ต้องตรวจสอบกับทางกองทัพในฐานะผู้เสียหายก่อนว่าหลักฐานที่ไปถึงนายพานทองแท้มีมูลหรือไม่ หากกองทัพยืนยันว่ามีมูลต้องเรียกสอบ ก็จะออกหมายเรียก

 


"การให้เงินหากพบว่าเอาไปให้ทำผิดต้องเรียกนายพานทองแท้มาสอบ ดำเนินคดีตามกฎหมาย หลักฐานถึงใครก็ว่าไปตามกบิลบ้านกบิลเมือง ผมเป็นตำรวจไม่เกี่ยวกับการเมืองไม่ได้ตั้งใจจะโยงไปหาใคร กลุ่มใด ทุกอย่างไปตามหลักฐาน คดีนี้มีผู้ทำผิดมากกว่า 8 คนแน่นอน กำลังสืบสวนสอบสวนขยายผล"