"สนธิญาณ" ย้ำ! นายกฯ คนนอกใครเสนอใครเลือกไม่สำคัญหากไม่มีเสียง สส.ในสภาหนุนยังไงก็ไปไม่รอด เพราะต้องถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tnews.co.th

รายการ "สถาพรถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 24 สิงหาคม 2559  ออกอากาศทางช่อง ทีนิวส์ ดำเนินรายการโดย คุณสถาพร เกื้อสกุล (ถา) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย)  กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ : วันนี้อยากจะพูดเรื่อง ส.ว. เสนอนายกรัฐมนตรี ผมเรียนแล้วว่า ต้องเป็นไปตามกลไกของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ผมเปิดตัวตรง ๆ เลยในการที่จะให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่จะต้องเป็นไปตามกฎหมาย และข้อเท็จจริงอันหนึ่งในการที่เราติดตามข่าวสารความจริงอยู่เรื่องหนึ่ง คือ คุณจะรักจะชอบเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรก็ตามแต่ ให้ ส.ว. เสนอชื่อ ส.ว.โหวต ก็ทำได้ แต่อยู่ไม่ได้หรอกครับรัฐบาลที่ไม่มีเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส. ต้องเรียนนะครับเพราะรัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่มาจากเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส. หากรัฐบาลได้รับการสนับสนุนจากเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส. สมมติว่า วุฒิสมาชิกเสนอชื่อไปแล้วได้แล้ว บริหารประเทศไปแต่ ส.ส.อภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐธรรมนูญกำหนดว่า ถ้า ส.ส. อภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้านายกรัฐมนตรีถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจให้พ้นทั้งคณะ ตรงนี้ตอนที่ลงมติโหวตนั้นลงกันเฉพาะ ส.ส. เท่านั้น นี่ต้องทำความเข้าใจ หากอยากจะได้นายกคนนอกก็ต้องว่าไปตามกลไกของรัฐธรรมนูญ บรรดาท่านที่อยากจะเชียร์จนออกหน้าออกตาออกมา คือผมอยู่ในประเภทอวยนายกอยู่แล้ว แต่ประเภทออกมาอวยแล้วไม่เข้าท่าจะทำให้เสียหายในทางการเมือง และทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธาต่อ พล.อ.ประยุทธ์ และนายก เพราะฉะนั้นอย่างไรก็ตามแต่ผมเรียนเลย อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็อยากได้ แต่ข้อเท็จจริงสำคัญอยู่ที่ ส.ส. เท่านั้น ต้องเสียงส่วนใหญ่มากกว่า 250 เสียง ในสภาสนับสนุน ถ้าตอนโหวตเรื่องนายก ถ้าเป็นนายกคนนอกถ้าเสียงไม่ถึง 500 ก็ไม่ได้นะครับ เพราะฉะนั้นคนที่ออกมาเชียร์มาอวยเป็นนักกฎหมายด้วยซ้ำต้องเข้าใจจุดนี้ ผมเปิดให้เห็นชัดเจนเลยว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกได้ต้องมีพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งสนับสนุน ไม่ใช่แต่พรรคเล็ก ๆ นะครับ ซึ่งถ้าพรรคเล็ก ๆ สนับสนุนยังไงก็อยู่ไม่ได้ ถ้า 2 พรรค ประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยสนับสนุนอย่างไรก็เกิน 250 เสียง โหวตกี่ครั้งก็ได้ เพราะฉะนั้นก็ไปคิดพิจารณาเลยว่า นี่คือข้อเท็จจริงเป็นอยู่แบบนี้ ถ้าเราอยากจะเฝ้ามองสถานการณ์ทางการเมือง ก็ดูอย่างเข้าใจและดูพรรคประชาธิปัตย์ละกัน ถ้า พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายก ถ้าท่านรับขึ้นมาคงไปร่วมพรรคเพื่อไทยท่านก็คงไม่เอา และพรรคเพื่อไทยก็คงไม่เอาท่าน ก็เหลือพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งโดยท่าทีคุณอภิสิทธิ์ก็ไม่เอาอยู่แล้ว จึงเป็นที่มาว่าคุณอภิสิทธิ์ประกาศว่าจับมือกับพรรคเพื่อไทยเลยว่าไม่เอานายกคนนอก แล้วจะโหวตกันไปตามกติกา แบบนั้นก็ชัดเจนเลยว่า นายกคนนอกปิดทางเลย ไม่ต้องกลัวว่าใครจะเสนอให้โหวตอะไร คุณองอาจ คล้ามไพบูลย์ ไม่ต้องกลัวประกาศไปแบบนี้ ผมก็หวังว่าประชาชนเขาจะได้คิดพิจารณาตัดสินใจ แล้วจะมีคนมาบอกว่า ถ้าอย่างนั้นผมจะตั้งพรรคสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ แบบคุณไพบูลย์มาว่ากัน ซึ่งผมก็ย้ำว่าคุณไพบูลย์ยังมีศักยภาพไม่เพียงพอ แต่ถ้ามีใครออกมาตั้งแบบนี้ แล้วประชาชนส่วนใหญ่เขาเทเสียงให้ แบบเหมือนกับลงประชามติก็อาจจะเป็นอีกประเด็นหนึ่งในทางการเมืองที่เป็นทางเลือกใหม่ ๆ และเกิดเป็นทางเลือกจริง ๆ ที่ประชาชนตัดสินใจและเกิดขึ้นจากความรู้สึกที่เป็นความรู้สึกและเหตุผลของประชาชนจริง ๆ