ภพชาติ วิญญาณ มีจริง!!! “นายเสียง โหสกุล” บุก รพ. พิสูจน์ เรื่องนพ.อาจินต์ สื่อญาณกับลูกสาว “พิมพวดี”

ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th/

จากที่ได้เล่าถึงที่มาของ “พลับพลาพิมพวดี”  วัดมกุฏกษัตริยาราม ไว้ในตอนที่แล้ว รายละเอียดตามลิงค์ http://panyayan.tnews.co.th/contents/201477/

                และ วิญญาณกตัญญู ดญ.พิมพวดี รักษาอาการป่วยให้พ่อ เฉลยกรรมเก่า เจ้ากรรมนายเวรเป็นนักโทษที่พ่อเคยบีบขมับ ทรมาน http://panyayan.tnews.co.th/contents/201485/
                ในตอนนี้จะเล่าถึง “นายเสียง โหสกุล” คุณพ่อของพิมพวดี บุก รพ. พิสูจน์การสื่อญาณ นายแพทย์อาจินต์ ความว่า 

ภพชาติ วิญญาณ มีจริง!!! “นายเสียง โหสกุล” บุก รพ. พิสูจน์ เรื่องนพ.อาจินต์ สื่อญาณกับลูกสาว “พิมพวดี”

(พิมพวดี)

ข่าวลือ ข่าวจากปากต่อปาก ไปไกลกว่าประชาสัมพันธ์ทางสื่อมวลชน จากนั้นก็มีชายหญิงคู่หนึ่ง ซึ่งผมไม่รู้จักมาก่อนมาขอเยี่ยม สองท่านนี้เอาพวงมาลัยพวงใหญ่มาแขวนให้ผมที่หัวเตียงนอน สักครู่ใหญ่ผู้ชายที่มาด้วยก็ขออนุญาตเอารูปถ่ายเด็กผู้หญิงราว ๆ สามสิบใบ  มาวางเรียงบนที่นอนผม และท่านก็ถามว่า

"คุณหมอ ช่วยชี้ซิครับว่า คนที่มาหาคุณหมอ มาคุยกับคุณหมอ แล้วบอกว่าชาติก่อนเป็นลูกสาวคุณหมอ และชาตินี้เกิดมาเป็นลูกสาวผมน่ะ คนไหนในรูปถ่ายที่นำมาเรียงอยู่นี่"

ผมลุกขึ้นนั่ง แล้วหยิบแว่นตามาสวมดูไปที่ละรูป ดูไม่นานนัก ผมก็หยิบเอารูปหนึ่งขึ้นมา และบอกว่า

"หนูคนนี้แหละครับ ที่มาหาผมทุกวัน" ทั้งสองท่านหุบรอยยิ้มที่มุมปาก คุณผู้หญิงร้องไห้โฮใหญ่ คุณผู้ชายก็เช็ดน้ำตา แล้วกล่าวว่า "ใช่แล้วครับ รูปนี้คือรูปถ่ายหนูพิมพ์ พิมพวดี โหสกุล ลูกสาวผม ถ่ายในเครื่องแบบนักเรียน ส่วนนอกนั้นเป็นรูปเพื่อน ๆ ของหนูพิมพ์" 

          นายเสียง : ผมทราบข่าวก็เลยถือโอกาสมาเยี่ยม และสอบถามถึงลูกสาวผม เพราะทุกวันนี้ ก็ยังระลึกถึงหนูพิมพ์อยู่เสมอ แกเป็นเด็กที่น่ารักน่าเอ็นดูมาก ท่านั่งประจำของแกก็คือท่านั่งเท้าคาง เอาข้อศอกยันพื้นไว้ อย่างที่คุณหมอพูดจริง ๆ ผมชื่อ เสียง โหสกุล ครับ ตอนนี้หนูพิมพ์อยู่ที่ไหน 
นายแพทย์อาจินต์ จึงพูดขึ้นว่า หนูพิมพ์ยังอยู่แถว ๆ นี้ และมาเยี่ยมผมเกือบทุกคืน โดยมากก็ไม่เว้น แต่บางที่ก็มาตอนกลางวัน หนูพิมพ์บ่นว่าคนถือขาหยั่งที่วางพวงหรีด เอาขาหยั่งไปเกี่ยวกับระย้าโคมไฟกลางศาลาพิมพวดี ตกลงมาแตกหลายอัน พ่อเธอไม่รู้เลยไม่มีใครไปทำให้ดีเหมือนเก่า เธอเสียดายมาก ผมก็นอนอยู่ที่เตียงนี้มากว่าสิบวันแล้ว ไม่เคยไปนั่งในศาลาที่ว่านี้ แล้วผมจะรู้ว่าที่กลางศาลาพิมพวดี มีโคมไฟระย้าห้อยอยู่ได้อย่างไร แล้วเดี๋ยวนี้ตกลงมาแตกหลายอัน
 

ภพชาติ วิญญาณ มีจริง!!! “นายเสียง โหสกุล” บุก รพ. พิสูจน์ เรื่องนพ.อาจินต์ สื่อญาณกับลูกสาว “พิมพวดี”

(พ่อแม่ ของพิมพวดี ในชาติปัจจุบัน)

 


          นายเสียง จึงไห้คนขับรถบึ่งไปดูโคมไฟ ว่าเป็นจริงตามที่ผมพูดหรือไม่ พอคนขับรถกลับมาก็บอกว่า "ระย้าที่ห้อยโคมไฟขาดไปหลายอัน สงสัยว่าจะตกลงมาแตก" ท่านจึงสั่งว่า "พรุ่งนี้ให้ช่างไฟไปดู แล้วไปจัดการเปลี่ยนใหม่ให้เรียบร้อย"

          คุณเสียง และภรรยา นั่งอยู่อีกสักพักก็กลับ ก่อนกลับได้ถามผมว่า หนูพิมพ์พูดหรือเปล่าว่า วิญญาณของเธอจะไปไหนต่อ ผมก็ตอบว่า "อีกไม่ช้าหนูพิมพ์จะไปเกิด และทีนี้จะไปเกิดเป็นผู้ชาย เธอคุยกับผมว่าอย่างนั้น" พอได้ยินคำนี้ ภรรยาคุณเสียงก็ยกมือไหว้พึมพำว่า "เกิดชาติใดฉันใดขอให้มาเป็นแม่ลูกกันอีก" ก่อนจากกัน ทั้งสองท่านได้ออกปากเชิญผมว่า ถ้าผมหายป่วยเมื่อไหร่จะเชิญผมและภรรยาไปรับประทานอาหารที่บ้านสักครั้ง ผมจึงออกปากขอรูปถ่ายของหนูพิมพ์ไว้ เพื่อจะได้ดู และอุทิศกุศลให้เธอ เวลาสวดมนต์และทำบุญกุศล

          พอค่ำอาการปวดก็มาเยือน ผมนึกไปถึงหนูพิมพ์พยายามเข้าสมาธิไปมันก็ไม่ทุเลา หนูพิมพ์มาเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ พอรู้ว่าเธอมาผมก็พูดว่า "มาแล้วหรือลูก" แล้วผมก็ถามว่า "เมื่อไหร่จะหาย หรือหมดเวรกรรมเสียทีมันทรมานจริง ๆ " หนูพิมพ์ก็ตอบว่า "อีกสี่ปีถึงจะพบหมอที่จะรักษาให้หายขาดได้ เมื่อนั้นก็หมดเวร แล้วก็จะมีความสุขตลอดไป" ผมก็ถามต่อไปว่า "แล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ไนตอนนี้ เพราะตอนนี้ปวดมาก" เธอตอบว่า "พรุ่งนี้ พ่อจะต้องถูกผ่าตัดอีก คราวนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับงวดนี้ และจะเป็นการผ่าตัดที่ทารุณที่สุดในชีวิตพ่อ!"

          รุ่งเข้า 7 นาฬิกา อาจารย์ท่านก็มาเยี่ยมตามเคย พอได้รับรายงานจากพยาบาล ท่านก็ยืนนิ่งครู่หนึ่ง แล้วก็หันมาพูดกับผมว่า "เดี๋ยวแปดโมงเช้าเอาไปผ่าอีกที ทีนี้จะเลาะประสาทฝอยออกหมดทั้งแถบ มันคงจะไม่มีอะไรมาปวดอีกแล้ว" พอราว ๆ 8 นาฬิกา รถเข็นคันนั้นก็มาอีก คราวนี้พยาบาลไม่ฉีดยาให้ก่อนผ่าตัด ผมจึงถามพยาบาลว่าทำไมไม่ฉีดยาสลบ ก็ได้รับคำตอบว่า คราวนี้อาจารย์จะผ่าสด ๆ ไม่ใช้ยาฉีด ไม่ใช้ยาชาใด ๆ ทั้งสิ้น จะได้รู้ว่าประสาทฝอยเส้นไหนมันเสีย มันถึงปวด ผมก็นึกว่ากรรม กรรมแน่แท้ 

          เวลาผ่าตัด ผมร้องออกมาดังกว่าวัว กว่าควาย ที่กำลังถูกเชือดอีก เพราะการผ่าตัดแบบนี้ เวลาดึงเส้นประสาททีไรก็สะดุ้งจนตัวลอย พยาบาลห้องผ่าตัดก็กดหัวไว้ ทั้ง ๆ ที่พันธนาการไว้อย่างเหนียวแน่น ผมร้องโอดโอย ดังที่สุดในชีวิต เจ็บที่สุดในชีวิตปวดที่สุดในชีวิต และทารุณที่สุดในชีวิต เหมือนกับที่ หนูพิมพ์ บอกไว้ไม่มีผิด และสุดท้ายผกก็สลบไปเอง เพราะความเจ็บปวด มารู้สึกตัวอีกทีเมื่อพบว่าตัวเองมาอยู่ในห้องนอนที่สายน้ำเกลือรุงรัง มีสายยางอยู่ที่จมูกที่ปาก ก็พบภรรยาและพยาบาลที่นั่งเฝ้าอยู่ พอหลับตาสักครู่ หนูพิมพ์ ก็เอามือมากุมตรงที่แผลผ่าตัด และที่ปวดอยู่ ผมก็ถามเธอว่า
 

ภพชาติ วิญญาณ มีจริง!!! “นายเสียง โหสกุล” บุก รพ. พิสูจน์ เรื่องนพ.อาจินต์ สื่อญาณกับลูกสาว “พิมพวดี”

(ภาพถ่ายพิมพวดี)


          นายแพทย์อาจินต์ : พ่อหมดเวร หรือยัง

          พิมพวดี โหสกุล: พ่อชดใช้กรรมตามที่เขาอาฆาตไว้มากแล้ว ต่อไปนี้จะดีขึ้น ๆ

          นายแพทย์อาจินต์ : พ่อจะถูกผ่าตัดอีกไหม

          พิมพวดี โหสกุล: ไม่มีอีกแล้ว

          นายแพทย์อาจินต์ : แล้วจะปวดโรคประสาทนี้อีกไหม

          พิมพวดี โหสกุล: ยังมี แต่ไม่ทารุณมากนัก จะมีอีกสี่ปี

          นายแพทย์อาจินต์ : แล้วจะให้พ่อทำอย่างไรต่อไป

          พิมพวดี โหสกุล: ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขาไปเรื่อย ๆ ขออโหสิเขาเสียภาวนา แล้วส่งในไปแผ่ส่วนกุศลให้เขาเสมอ ๆ นะพ่อนะ

          นายแพทย์อาจินต์ : พ่อจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่

          พิมพวดี โหสกุล: วันอาทิตย์นี้แหละจ้ะ…พ่อ

          นายแพทย์อาจินต์ : ถ้ามันยังไม่หาย จะกลับไปได้อย่างไร

          พิมพวดี โหสกุล: ก็ยังมีกรรมเบา ๆ หลงเหลืออยู่อีก ถึงจะเป็นก็ไม่รุนแรงเท่าคราวนี้จ้ะ

          นายแพทย์อาจินต์ : เวลาพ่อกลับบ้านแล้ว พ่อจะเรียกให้ลูกไปหาจะได้ไหม

          พิมพวดี โหสกุล: หนูจำต้องลาไปเกิดแล้ว และเป็นผู้ชายจ้ะ..แล้วลูกเข้าบ้านพ่อไม่ได้ เจ้าที่ เจ้าทาง เขาห้ามจ้ะ หนูลาพ่อเลยนะ และทีนี้จะไม่มาอีกแล้วจ้ะพ่อ พ่ออย่าลืมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขา และเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย นะพ่อนะ

ภพชาติ วิญญาณ มีจริง!!! “นายเสียง โหสกุล” บุก รพ. พิสูจน์ เรื่องนพ.อาจินต์ สื่อญาณกับลูกสาว “พิมพวดี”

(นายเสียง โหสกุล)

          เสียงหนูพิมพ์แว่ว ๆ แต่ชัดเจนติดมาจนบัดนี้…แล้ว หนูพิมพ์ ไม่ปรากฏกายให้เห็นอีกเลย อาการปวดผมก็บรรเทาเบาบางลง ๆ ซึ่งตอนที่ออกจากโรงพยาบาล ก่อนกลับบ้านผมถือรูปหนู พิมพวดี ไว้ในมือ แล้วสั่งให้รถแวะไปที่วัดมกุฏกษัตริยารามก่อน เพื่อไปดูศาลาพิมพวดี ไปดูรูปหนูพิมพ์ผู้มีพระคุณ ผมยกมือขึ้นอุทิศส่วนกุศลให้เธอ และบอกเธอว่า จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ เมื่อสวดมนต์ก็จะอุทิศส่วนกุศลให้เธอทุกวัน จนกว่าผมจะตายไป และขอให้ได้พบกันเป็นพ่อลูกทุก ๆ ชาติ

         

            ย้อนอ่านเรื่องราวของ ดญ.พิมพวดีได้ที่

ที่มาของ “พลับพลาพิมพวดี”วัดมกุฏกษัตริยาราม กับเรื่องราววิญญาณระลึกชาติ บทพิสูจน์ตายแล้วไม่สูญ ภพชาติ เวรกรรม มีจริง !!! http://panyayan.tnews.co.th/contents/201485/

 

 

วิญญาณกตัญญู ดญ.พิมพวดี รักษาอาการป่วยให้พ่อ เฉลยกรรมเก่า เจ้ากรรมนายเวรเป็นนักโทษที่พ่อเคยบีบขมับ ทรมาน

http://panyayan.tnews.co.th/contents/201477/