"สนธิญาณ" ย้ำ! "บิ๊กตู่" นั่งนายกฯ คนนอกยิ่งกว่า "งานหิน" เพราะโหวตชนะก็อยู่ยาก เว้นแต่ ปชป.หนุน!!!!

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tnews.co.th

รายการ "สถาพรถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 30 หาคม 2559  ออกอากาศทางช่อง ทีนิวส์ ดำเนินรายการโดย คุณสถาพร เกื้อสกุล (ถา) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย)  กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สถาพร : ตอนนี้มีผู้คนให้ความสนใจในการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อหรือไม่อย่างไร จริง ๆ แล้วถ้าจะเป็นก็เป็นได้ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ จู่ ๆ คุณสมพงษ์ สระกวี ซึ่งเป็นสมาชิก สปท. ก็จุดประเด็นเรื่องดังกล่าวมา บอกว่ามีเพื่อนนายกรัฐมนตรีที่เป็นทหารอยู่ใน สปท. ไปปรึกษาเรื่องการตั้งพรรคการเมือง การกระทำแบบนี้ คุณสมพงษ์มีวัตถุประสงค์อย่างไร

 

สนธิญาณ : ผมเรียนเพื่อให้ทำความเข้าใจก่อนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อไหร่ก็เป็นไม่ได้นะ ต้องย้ำเสียก่อน ไม่ใช่ว่าท่านอยากจะเป็น ก็เป็นไม่ได้ ต้องทำความเข้าใจให้ท่านผู้ชมฟัง โอกาสที่พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งครั้งต่อไปนั้นริบหรี่ ยาก 99 เปอร์เซ็นต์ไม่มีโอกาสจะเป็นได้ เหลือไว้ 1 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นท่านฟังผมแล้วก็อย่าอัดอึด รู้สึกว่าทำไมคุณสนธิญาณลงประชามติมาก็บอกว่าให้ลงประชามติ เผื่อพล.อ.ประยุทธ์จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เจตนาที่เราจะต้องลงรับร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง มีเหตุผลอันสำคัญก็คือว่า ไม่อย่างนั้นระบอบทักษิณจะเอาเรื่องนี้ไปขยายให้เห็นว่าประชาชนคนไทยไม่ยอมรับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ แล้วเรื่องนี้ไปตอกย้ำซ้ำเติมในต่างประเทศ การเคลื่อนไหวนานาชาติ แล้วสักวันหนึ่งจะเป็นหอกดาบที่มาทิ่มแทงประเทศนี้และรัฐบาลนี้ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ต้องย้ำนะครับนี่เพิ่งออกแถลงการณ์สถานทูตสหรัฐอเมริกาว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมืองอะไรใด ๆ ของไทย แต่ทูตก็แถลงไปนู่นมานี่ เยี่ยมคนนั้นนี้ พูดจาให้ร้ายประเทศไทยตลอดมา นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น ฉะนั้นวันนี้ต้องมาทำความเข้าใจกันให้ชัดว่าโอกาสที่พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นยาก เพราะว่าร่างรัฐธรรมนูญเขียนเอาไว้ชัดเจนว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้พรรคการเมืองต้องเสนอชื่อไป 3 พรรค เสนอไปแล้วต้องเลือกได้ตั้งได้ เสนอไปแล้ว 25 คน จาก ส.ส. ทั้งหมด 500 คน ถึงจะเสนอได้ เมื่อเสนอแล้วจะต้องมีอีก 50 คนเป็นคนรับรอง และเมื่อถึงตอนโหวตในคำถามพวกที่สนช.ตั้งไปว่าให้ ส.ว.มาโหวตได้ ก็ปรากฏว่า โหวตได้จริง ๆ มารวมกัน ส.ว. 250 และ ส.ส. อีก 500 เป็น 750 โหวตกัน 400 ก็ชนะแล้ว  ชนะก็คือมี ส.ว. 250 และ ส.ส. อีก 150 รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ ถึงอยู่ได้ก็เดือนเดียวถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที ส.ส.คือผู้ที่มีอภิสิทธิ์อภิปรายไม่ไว้วางใจ อยู่ไม่ได้เกิดไม่ได้ ย้ำเลยว่ามีช่อง 1 เปอร์เซ็นต์ที่จะเป็นไปได้คือ 1. พรรคประชาธิปัตย์ให้การสนับสนุน

 

สถาพร : ก็คือเสนอชื่อขึ้นไป

 

สนธิญาณ : ทั้งเสนอชื่อและโหวต แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้การสนับสนุนก็จบ ซึ่งมีอยู่ 2 พรรคที่จะทำให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีได้ ก็คือพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคเพื่อไทยเขาไม่มีทางสนับสนุนอยู่แล้วเพราะถือเป็นศัตรูทางการเมือง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ถือเป็นศัตรูทางการเมือง จำนวนหนึ่งเชียร์พล.อ.ประยุทธ์ เชียร์รัฐมนตรี อีกจำนวนหนึ่งไม่เชียร์แต่ถือหลักการประชาธิปไตย แบบคุณอภิสิทธิ์ คุณองอาจทำนองนี้ก็ว่ากันไป ดังนั้นถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่หนุนซึ่งโดยสภาพในขณะนี้ไม่น่าจะหนุน เพราะคุณอภิสิทธิ์ถือหลักการประชาธิปไตยเคร่งครัดอยู่

 

สถาพร : คือถ้ากรรมการพรรคยังเป็นชุดนี้อยู่ก็ไม่น่าจะสนับสนุนกัน

 

สนธิญาณ : เป็นหัวหน้าพรรค เป็นไปไม่ได้เลย คือ การที่พรรคประชาธิปัตย์ที่มีคุณอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคหนุน เพราะคุณอภิสิทธิ์มีหลักการใหญ่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ นั่นก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ถัดมาถ้ารัฐธรรมนูญไม่ผ่านจะขอมาร่างรัฐธรรมนูญเองด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นคนละหลักการกับพล.อ.ประยุทธ์ แล้วจู่ ๆ จะมารับนายกคนนอกเป็นไปไม่ได้ เหลืออีกเศษเสี้ยวคือตั้งพรรคขึ้นมาใหม่แบบที่คุณสมพงษ์ว่า เป็นเรื่องที่ผมเรียนว่าหืดขึ้นคอ ต้องเรียนเอาประเด็นแรกก่อน เดี๋ยวจะทำความเข้าใจเรื่องพรรคการเมือง ประเด็นแรกข่าวมีเมื่อคืนผมก็พูดไปแล้วรอบนึงว่า เปิดเผยตัวมาเลยว่าเพื่อนนายกคือใคร วันนี้ คสช. ก็ออกข่าวมาแล้ว ให้เปิดชื่อหน่อยว่าเพื่อนนายกชื่ออะไร มิฉะนั้นเป็นประเด็นว่าพล.อ.ประยุทธ์คิดจะตั้งพรรค ซึ่งผมเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่มีทางจะตั้งพรรค เพราะทันทีที่ตั้งพรรคการเมืองก็จะจบหมดลงทันที เพราะประชาชนเข้าสู่วงจร ความตั้งใจที่จะทำงานสัก 4-5 ปีทำไม่ได้หรอกครับ ตั้งพรรคการเมืองต้องมีเงิน เลือกตั้ง แม้แต่ซื้อเสียงก็ต้องใช้เงินเป็น 100 ล้านบาท จะไปยืมเงินเขามาก็ไม่ได้หรอกครับ จะมาตั้งพรรคแบบคุณไพบูลย์ นิติตะวัน ฝันขึ้นมาก็ยากเหลือเกินครับ ทีนี้มาดูคุณสมพงษ์ เขาเป็นอดีต ส.ว. สายเสื้อแดงยืนหยัดอยู่ข้างระบบทักษิณ ที่สปท.ตั้งขึ้นเมื่อเพื่อให้ดูหลากหลาย คุณสมพงษ์ก็แสดงไปเรื่อย นี่ก็เป็นการแสดอิทธิฤทธิ์ที่เนียน จู่ ๆ บอกว่าเพื่อนนายกให้ตั้งพรรคให้มาปรึกษา ผมเรียนนะครับเพื่อนนายกถ้ามีอยู่จริงคนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ต้องหาตัวให้เจอเพราะคบไม่ได้ ไม่ฉลาด ติดข้างมาทางโง่เสียด้วยซ้ำ จะตั้งพรรคการเมืองแต่ไปปรึกษาคุณสมพงษ์ สนิทสนมกับระบอบทักษิณ ก็รู้อยู่แล้วว่าระบอบทักษิณกับนายกรัฐมนตรีซัดกันจะเป็นจะตาย จะฆ่ากันอยู่ พูดภาษาง่าย ๆ ในทางการเมืองก็เป็นแบบนั้นอยู่ จู่ ๆ ก็ไปปรึกษาฝ่ายตรงข้ามแล้วจะบอกว่าไม่รู้ ไม่รู้ยิ่งไม่ได้ความอย่าคิดมาตั้งพรรคการเมืองเลย ถ้าไม่รู้จักว่าประวัติสมพงษ์เป็นอย่างไร ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนไม่ดี ตอกย้ำกันให้เห็นให้ชัดก่อน แต่เขายืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามยืนอยู่คนละขั้ว ไม่อย่างนั้นอีกทางหนึ่งต้องเข้าใจว่า คุณสมพงษ์โผล่ขึ้นมาเอง พูดขึ้นมาเองเพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์เสียคะแนนทางการเมือง ถึงไม่ได้ตั้งเองมาบอกมาเพื่อนคิดตั้งก็ต้องเรียนแบบนี้ชัดเจน ส่วนในเรื่องของพรรคการเมือง ผมอยากบอกว่าไม่ใช่เรื่องความศรัทธาอย่างเดียว ระบบการเลือกตั้งวางแบบเอาไว้ ส.ส.เขต บวก จัดสรรปันส่วนผสม แต่เขตก็ยังนำอยู่ ในบรรดา ส.ส.เขตที่มา ผมถามว่าจู่ ๆ คุณตั้งพรรคแล้วคุณอยากได้กระแสลอย ๆ คุณจะไปสวนทางประชาธิปัตย์ได้อย่างไรในภาคใต้ หัวคะแนนทำงานมาเป็น 20-30 ปี ญาติพี่น้องเชื่อมโยงกันหมดเขารักเขาศรัทธาแม้ที่ผ่านมาลงประชามติเขาอาจจะไม่เห็นพ้องกับคุณอภิสิทธิ์เขาจึงสวนรับร่างรัฐธรรมนูญ  ส่วนเลือกตั้งถ้าไม่ชัดว่าพล.อ.ประยุทธ์ลงเลือกเองเขาก็ไม่เลือก เขาก็เลือกพรรคคนของเขา ถ้าบอกว่าชัด พล.อ.ประยุทธ์ตั้งพล.อ.ประยุทธ์ก็เสียมวยทันทีในทางการเมือง ใช้ไม่ได้ จะสูญเสียความน่าเชื่อถือโอกาสทุกสิ่งทุกอย่างที่จะทำงานให้บ้านเมืองจบไม่มีประเด็นในการที่จะทำได้ อีสานคุณจะไปแทรกอย่างไรกับพรรคเพื่อไทย ขนาดพรรคประชาธิปัตย์ตั้งมา 70 ปี เก่าแก่ เลือกตั้งครั้งที่แล้วพรรคเพื่อไทยได้ 103 เสียง ประชาธิปัตย์ได้ 5 เสียง ตั้งมานมนานยังแทรกเขาไม่ได้ แล้วนี่จู่ ๆ มาตั้งแล้วบอกจะแทรกอีสานได้ เพื่อจะได้เสียงแทรกพรรคเพื่อไทยได้นั้นฝัน ฉะนั้นใครที่จะตั้งพรรคแบบที่คุณสมพงษ์หรือแบบอะไรก็ตามแต่ ก็ชัดเจน ผมย้ำเลย ไม่ใช่ความปรารถนาดี นี่ยุยงแดกดันต่างหาก เหมือนกับที่คนเสื้อแดงทำ ดูไปแบบนี้ล่ะครับพล.อ.ประยุทธ์ ดูไปสิว่าพรรคประชาธิปัตย์ ตัวเองเลือกตั้งก็แพ้ บอกว่ากลไกร่างรัฐธรรมนูญรับกับระบอบประชาธิปัตย์ นั่นก็เท่ากับยกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้กับคุณหญิงสุดารัตน์ พูดง่าย ๆ ตอนนี้เป็นตัวเต็งของพรรคเพื่อไทย ก็ไปดูว่าบทบาทของคุณหญิงสุดารัตน์ในพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์ก็ไปคิดใคร่ครวญเอา สนับสนุนวัดพระธรรมกาย เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ออกมาสนับสนุนไผ่ ดาวดิน ก็ดูกันเอาเองแล้วกัน