"สนธิญาณ" ชี้! ศาลสั่งยึดคฤหาสน์ "สมศักดิ์" สะท้อนการโกงกินที่ฝังลึกในการเมืองไทย โดยมีกลไกรัฐฯ เป็นลูกไม้ลูกมือช่วยทำผิด

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 30 กันยายน 2559  ออกอากาศทางช่อง ทีนิวส์ ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย)  กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

ยุคล : เนื่องจากเมื่อวานนี้ แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาให้บ้านพักของนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ จ.อ่างทอง ตกเป็นของแผ่นดิน คุณสนธิญาณจะมาให้รายละเอียดเพิ่มเติม

 

สนธิญาณ : การที่ศาลได้สั่งยึดบ้านของคุณสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ซึ่งมูลค่า 16 ล้านบาท ทีนิวส์คงได้นำเสนอภาพความอลังการของบ้านหลังดังกล่าวให้ท่านผู้ชมได้เห็นกัน ซึ่งเป็นบ้านเลขที่ 5/5 ต.ไผ่จำศีล อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เมื่อยามหนึ่งคุณสมศักดิ์ เป็นนักการเมืองคุณภาพ เป็นคนที่มีความคิดอ่านเพื่อสังคม ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพและวิถีวิธีคิดทุกอย่างล้วนแต่ยืนอยู่บนประชาชนทั้งสิ้น แต่ทันทีที่คุณสมศักดิ์คิดเล่นการเมืองอยู่ในเขตภาคกลาง เป็นภาคอื่นไม่ได้หรอกครับ ต้องพรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยเท่านั้น เพราะพื้นที่ภาคกลาง อ่างทอง สุพรรณบุรี อยู่ภายใต้บารมีของบรรหาร ศิลปอาชา ด้านคุณสมศักดิ์ด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่ ความฉลาดเฉลียวและเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองมาก่อน จึงได้รับความเชื่อถือจากคุณบรรหาร ขยับจากนักการเมืองหน้าใหม่ จนเรียกได้ว่า กลายมาเป็นมือขวาของคุณบรรหารก็ว่าได้ หลังจากนั้นมาก็ได้รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี เป็นผู้บริหารบ้านเมืองมาโดยตลอด ผมเอาเรื่องราวของคุณสมศักดิ์ให้ท่านผู้ชมได้รับทราบ ก็เพื่อให้เห็นพฤติกรรมของผู้ที่เข้ามาเล่นการเมือง และอยู่ในวิถีการเมืองระบอบเลือกตั้งของไทย ในช่วงระยะที่ คสช. เข้ามายึดอำนาจ คุณสมศักดิ์ออกมาต่อต้าน คสช. แสดงวาทะกรรมเรื่องประชาธิปไตยมาโดยตลอด โจมตีและต่อต้านเผด็จการด้วยถ้อยคำและวาจาที่รุนแรง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าย้อนกลับไปดูรากฐานความเป็นมาของคุณสมศักดิ์ แต่สิ่งที่สะท้อนและชี้ให้เห็นอยู่ว่าบ้านที่ศาลยึด เป็นเพียงรูปธรรมหนึ่งที่หลังจากมีการตรวจสอบทรัพย์สิน จากการยื่นบัญชีทรัพย์สินในฐานะที่เป็นนักการเมืองแล้ว มาปรากฏเป็นรูปธรรมขึ้น ไม่ใช่คุณสมศักดิ์ที่ร่ำรวยผิดปกติคนเดียว นักการเมืองทุกคนต่างร่ำรวยผิดปกติทั้งสิ้น เพราะใช้ฐานะทางการเมืองและตำแหน่งที่เกิดขึ้นแสวงหาผลประโยชน์เพียงแต่ใครจะปรากฏหลักฐาน ใครจะปรากฏข้อเท็จจริง และสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ ผมอยากจะสะท้อนว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์มุ่งเน้นเร่งในการปราบโกง แต่ผลที่เกิดขึ้นท่านผู้ชมอย่าไปหลงนะครับว่าเกิดขึ้นเพราะรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่ครับ นี่เป็นกระบวนการปกติในการทำงาน กรณีของคุณสมศักดิ์ก็เรียกว่าบ้านหลังนี้สร้างมาตั้งแต่ 2541 เสร็จตอนปี 2554 กรณีที่เกิดขึ้นนักการเมืองที่เดินทางเข้าคุกหรือข้าราชการที่รับใช้นักการเมืองแล้วเดินทางเข้าคุกเป็นมาตามกระบวนการกฎหมายปกติ ที่ดำเนินการ เพียงแต่ผมต้องการชี้และสะท้อนให้เห็นว่าขั้นตอนและห้วงเวลาของกฎหมายในการปราบปรามการทุจริตใช้ระยะเวลายาวนาน แต่ละคดีเป็น 10 ปีทั้งสิ้น ทั้งขั้นตอนจาก ปปช. เข้าสู้ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา หรือเข้าสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง ก็ย่นระยะเวลาเข้ามาหน่อยแต่ก็นาน ดูต่อไปนะครับว่า แม้จะใช้ระยะเวลายาวนานแต่ผลของการตอบสนองนั้น ในการที่จะต้องรับโทษทัณฑ์นั้นมีอยู่จริง ต้องถือว่ากลไกทางสังคมพอไปได้ เพียงแต่ในช่วงระยะที่ระบอบทักษิณเข้ากุมกลไกอำนาจทางการเมือง กลไกถูกสะดุดหยุดลงไปเพราะ ประชาธิปไตยที่เราพูดที่กล่าวอ้างไม่ได้เป็นประชาธิปไตยอยู่จริง กลายเป็นเผด็จการรัฐสภา เป็นเผด็จการที่ฝังหยั่งรากลึกลงไป ในกลไกของระบบราชการ พรรคชาติไทยคุมกระทรวงเกษตร คุมกระทรวงท่องเที่ยวยาวนาน 10-20 ปี ข้าราชการแต่ละคนกว่าจะเติบโตขึ้นก็ต้องซูฮกกับพรรคนี้ ถึงขนาดว่า ต่อมาพรรคเอาปลัดกระทรวงเกษตรมาเป็นหัวหน้าอย่างนี้เป็นต้น ไม่ต้องนับหรอกครับพรรคอื่นแบบเดียวกันหมด แนวทางของการทุจริตคอร์รัปชั่นถึงทำกันง่าย ภายใต้กลไกของระบอบประชาธิปไตยที่กล่าวอ้างอยู่ ทั้ง ๆ ที่ความจริงเป็นเผด็จการรัฐสภาที่หยั่งรากลึก โดยใช้กลไกของราชการเป็นเครื่องมือในการทุจริตคอร์รัปชั่น แต่พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าเผด็จการทหารจะดี ที่ผ่านมาก็โกงกินกันมาตลอด ตอนนี้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ค่อนข้างจะใสซื่อ เพราะหัวไม่ส่ายหางก็กระดิกยาก ผมไม่ได้บอกว่าหางไม่กระดิกนะครับ หางก็กระดิกยาก เพราะระบบเผด็จการกับระบบประชาธิปไตยที่กล่าวอ้างกัน ทั้ง ๆ ที่แท้จริงแล้ว เป็นระบบเผด็จการรัฐสภา จะมีอยู่อันนึงที่เป็นระบบของสังคมไทยคือระบบพึ่งพิง ระบบของการอุปถัมภ์กัน เราปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ มีการซื้อขายตำแหน่งกันในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การโยกย้ายที่ไม่สำเร็จที่มีปัญหา ถามว่ายังเกิดขึ้นได้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์อาจรู้แต่น้ำท่วมปาก  อาจจะลำบากใจ นี่ล่ะครับระบบอุปถัมภ์ นี่ล่ะครับยามที่เราชื่นชมดีใจในการที่พล.อ.ประยุทธ์บริหารราชการแผ่นดิน ด้านหนึ่งต้องช่วยกันตรวจสอบ แต่ไม่ใช่ช่วยตรวจสอบ ไปยุ่งไปก่อกวนเขาทำงานยากนะครับ แต่จะต้องตรวจสอบและเอาความจริงเหล่านี้มาพูดเหมือนกัน เพราะภายใต้ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้ที่ร่วมงานกับพล.อ.ประยุทธ์ก็มีพฤติกรรม แม้จะไม่รุนแรงเหมือนกับกลไกระบอบทักษิณที่เป็นอยู่แต่ก็มีพฤติกรรมเหล่านี้ ปฏิเสธความจริงเหล่านี้ไม่ได้