- 08 ก.ย. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
จากกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และภริยา พร้อมคณะรัฐมนตรี เดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ และเข้าร่วมการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย – กัมพูชา ซึ่งมีพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ โดยในช่วงเช้ามีการหารือทวิภาคีกลุ่มเล็กและหารือทวิภาคีเต็มคณะ ระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ต่อมาปรากฏภาพ พลเอกประยุทธ์ พูดภาษาเขมร หลังจากนั้นสมเด็จฮุนเซนได้โผเข้ากอด นายกรัฐมนตรีของไทยด้วยความดีใจ ขณะที่พลเอกเตียบัญ ยืนยิ้มอย่างมีความสุขอยู่ด้านหลัง
ทั้งนี้หากย้อนไปวันที่ 1 ก.ย. 2553 มีรายงานข่าวจาก หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ รายงานคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน แห่งกัมพูชา ระหว่างร่วมพิธีมอบปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาที่มหาวิทยาลัยพนมเปญ ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ของไทยไม่ใช่สินค้า ที่ใครจะใช้ส่งต่อจากฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายหนึ่ง โดยยังระบุด้วยว่า อดีตนายกฯทักษิณ ไม่ใช่สินค้าสำหรับใช้ในการแลกเปลี่ยนทางการทูตหรือทางการเมือง ส่วนเจ้าตัวและอดีตนายกฯของไทยยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
“สิ่งที่ดีที่สุดในการฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตให้กลับไปสู่ภาวะปกติ คือ กองทัพทหารของไทยจำเป็นต้องถอนกำลังออกไปจากพื้นที่ของกัมพูชา ผมไม่สามารถยิ้มให้คุณ และคงรู้สึกไม่มีความสุขมากๆ เมื่อคุณจับมือกับผมในขณะที่เท้าของคุณเหยียบอยู่บนเท้าของผม” ฮุนเซน กล่าว
ทั้งนี้แม้ว่านายทักษิณ จะลาออกจากการเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชาแล้ว แต่ นายทักษิณก็ยังคงเป็นมิตรที่ดีของตน นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชาที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น ปัจจัยหลักมาจากการที่กองทัพของฝ่ายไทยบุกรุกดินแดนกัมพูชา ส่วนปัญหาด้านความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศที่เกิดขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับอดีตนายกฯทักษิณ” อย่างไรก็ตามมีการตั้งข้อสังเกตุว่าภาพกอดกันระหว่างสมเด็จฮุนเซนกับนายทักษิณ หรือกับภาพล่าสุดที่อดีตผู้นำกัมพูชาสวมกอดนายกฯไทยอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ มีนัยอะไรแฝงหรือไม่ เพียงแค่การสร้างภาพของนักการเมือง คล้ายจะบอกถึงความเป็นเพื่อน หรือ ผลประโยชน์ส่วนตน เพราะต้องไม่ลืมว่าช่วงปี2553-2557 กองทัพไทยอยู่ภายใต้การนำของ2พี่น้องทหารเสือ ซึ่งพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นผู้บัญชาการทหารบก และต่อจากนั้นบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เข้ามานั่งผู้บัญชาการทหารบกต่อ
สำหรับนายทักษิณ ได้เคยโพสต์ข้อความไว้ในทวิตเตอร์ ถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวและที่ปรึกษารัฐบาลด้านเศรษฐกิจ กัมพูชาว่า "ขอบคุณ ท่านฮุน เซน เพิ่งส่งสำเนาที่ King สีหมุนี ทรงโปรดเกล้ามาให้ผมก็นับเป็นเกียรติ แต่คงไม่สนุกเหมือนลงมือทำเองให้คนไทยหายจน" พร้อมข้อความว่า "ผมขออนุญาตพี่น้องคนไทย ไปให้คำปรึกษาด้านเศรษฐกิจกับรัฐบาลกัมพูชาตามที่มีโปรดเกล้าจาก kingสีหมุนีไปพลาง ก่อนที่จะมีโอกาสได้มารับใช้พี่น้องใหม่" นอกจากนี้ยังระบุว่า "อยากทำงานให้คนไทย ก็ไม่ได้แม้กระทั่งพาสปอร์ตเขายังไม่ให้ถือ ยศก็จะถอด เครื่องราชก็จะเอาคืน ถ้ายึดเชื้อชาติและสัญชาติได้ก็คงจะทำ โทษฐานทำงานมากไป"