- 18 ต.ค. 2560
ติดตามรายละเอียดที่นี่ http://www.tnews.co.th
จากกรณีอดีตผกก.บุกศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพระราชรัชมุนี หรือเจ้าคุณนิมิต เจ้าอาวาสวัดสวนดอก พระอารามหลวง และเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ จากการตรวจสอบพฤติกรรมและหลักฐาน พบว่ามีการสวมรอยบัตรคนตาย ก่อนจะขยับฐานนะขึ้นมาเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ และยังมีหลักฐานที่ชี้ชัดว่าพระรูปนี้ไม่ได้มีสัญชาติไทย แต่เป็นคนต่างด้าวปลอมตัวเข้ามาเป็นพระสงฆ์
พระราชรัชมุนี หรือเจ้าคุณนิมิต เจ้าอาวาสวัดสวนดอก
ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวอยู่ระหว่างรวบรวมพยานและหลักฐานในข้อกล่าวที่ว่าเจ้าคุณนิมิต เจ้าอาวาสวัดสวนดอกเชียงใหม่ เบื้องต้นยังไม่มีการออกหมายเรียก แต่ได้ตั้งข้อหาไว้แล้ว จำนวน 3 ข้อหาแล้ว โดย พ.ต.อ.ก่ำแก้ว สุยาติ ผกก.สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ บอกเพียงว่าขณะนี้เจ้าคุณนิมิตถือเป็นผู้ถูกกล่าวหา ยังไม่ใช่ผู้ต้องหา หากทำการอออกหมายเรียกจำนวน 2 ครั้งแล้วยังไม่มา ก็จะเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย คือออกหมายจับต่อไป เพราะถือว่ามีเจตนาหลบหนีคดี ซึ่งมีกระแสข่าวว่าอาจหลบหนีไปในประเทศเมียนมา (คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : บอกเลยรายนี้ไม่ธรรมดา!! ผกก.แม่อายคอนเฟิร์ม "เจ้าอาวาสคนดัง" ทิ้งวัดสวนดอก! ไม่ชัดแหล่งหลบซ่อน ย้ำสื่อเรียกแค่ผู้ถูกกล่าวหา "ปลอมบัตรปชช." มีสิทธิ์ไม่แสดงตัว??)
ข้อมูลของการปลอมแปลงสวมสิทธิ์
ล่าสุด เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว นายกิตติศักดิ์ แสนทวีสุข กลุ่มชาวพุทธผู้รักพระพุทธศาสนา จ.เชียงใหม่ เผยว่า ทางกลุ่มชาวพุทธผู้รักพระพุทธศาสนามีความเป็นห่วง หากเจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถนำตัวพระราชรัชมุนีมาดำเนินคดี และสอบสวนถึงผู้ที่เกี่ยวข้องที่ให้ความช่วยเหลือพระราชรัชมุนีมาสวมบัตรประชาชนคนตายได้ จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และเป็นภัยต่อศาสนา เพราะนำคนต่างด้าวมาดำรงแหน่งระดับสูงในวงการสงฆ์ใน จ.เชียงใหม่ โดยเฉพาะที่ยอมรับไม่ได้คือการครองตำแหน่ง “พระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนาม พระราชรัชมุนี”
จึงรวบรวมเงินเพื่อเป็นรางวัลแก่ผู้ที่ชี้เบาะแส จนนำไปสู่การจับกุมตัวพระราชรัชมุนี หรือเจ้าหน้าที่คนใดที่ดำเนินการจนจับกุมตัวพระราชรัชมุนีมาดำเนินคดีได้ จะมอบสินน้ำใจให้ 150,000 บาท เพราะถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้สถาบันพระพุทธศาสนามีความใสสะอาดยิ่งขึ้น
นายกิตติศักดิ์ ยังกล่าวถึงประเด็นนายวัลลพ นามวงศ์พรหม ประธานฝ่ายส่งเสริมประเพณี พิธีกรรม สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับองค์กรชาวพุทธทั้ง 6 องค์กร ฟ้องหมิ่นประมาทว่า เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ขอให้พิจารณาว่าสิ่งตนทำลงไปเป็นการปกป้องพระพุทธศาสนาจากอลัชชี หรือภิกษุนอกรีตที่เข้ามาแอบแฝงหากินในบวรพระพุทธศาสนา ซึ่งขณะนี้พระราชรัชมุนียังหลบหนีไปไหนก็ไม่รู้ แม้โดน สภ.แม่อายแจ้งความดำเนินการถึง 3 ข้อหา นายวัลลพก็น่าจะเอาเวลาไปช่วยตามตัวท่านพระราชรัชมุนีให้มาต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อพิสูจน์ความจริง.