- 25 ส.ค. 2568
ปลูกผม FUE เป็นเทคนิคหนึ่งในการแก้ปัญหาผมบาง ผมร่วงด้วยการย้ายรากผมแยกทีละกอโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ เจ็บน้อย แผลเล็ก และให้การฟื้นฟูเส้นผมอย่างแนบเนียน
ผมร่วง ผมบาง ส่งผลต่อความมั่นใจในชีวิตประจำวันอย่างมาก หนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน คือการปลูกผม FUE หรือ FUE hair transplant คือเทคนิคที่ช่วยให้เส้นผมกลับมาดูหนาอย่างแนบเนียน การปลูกผม fue ดีไหม บทความนี้มีคำตอบ
- ปลูกผม FUE คืออะไร
การปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) คือเทคนิคการย้ายรากผมแบบแยกทีละกอผมจากบริเวณที่มีเส้นผมหนา เช่น ด้านหลังศีรษะ หรือข้างศีรษะ มาปลูกยังบริเวณที่มีผมบางหรือศีรษะล้าน โดยไม่ต้องใช้มีดผ่าตัดและไม่ทิ้งรอยแผลยาวเหมือนวิธีแบบดั้งเดิม รากผมที่ย้ายมาจะยังคงมีชีวิตและสามารถงอกขึ้นใหม่ตามวงจรปกติ ทำให้ผลลัพธ์ดูคล้ายผมเดิม ทั้งยังช่วยลดระยะเวลาการพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผมถาวร
- ปลูกผม FUE เหมาะกับใครบ้าง
การแก้ปัญหาผมบางด้วยการศัลยกรรมปลูกผม FUE จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับผมบาง ผมร่วง หรือศีรษะล้าน โดยเฉพาะในกรณีที่วิธีอื่นไม่เห็นผล การปลูกผม FUE เหมาะสำหรับผู้ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้านจนเห็นหนังศีรษะ และไม่สามารถรักษาด้วยยา หรือการกระตุ้นรากผมได้ผล
- ผู้ที่มีปัญหาผมบางเฉพาะจุด เช่น กลางศีรษะ ไรผมด้านหน้า หรือแนวผมร่นสูงขึ้น
- ผู้ที่มีหน้าผากกว้าง และต้องการปรับแนวไรผมให้ได้รูปหน้าเข้ารูปมากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการปกปิดแผลเป็นบริเวณศีรษะ เช่น จากอุบัติเหตุหรือการผ่าตัด
- ผู้ที่ต้องการเสริมความมั่นใจและบุคลิกภาพ ด้วยการทำให้เส้นผมดูหนาขึ้นอย่างถาวร
- ผู้ที่มีเส้นผมบริเวณท้ายทอยหรือด้านข้างศีรษะแข็งแรงพอสำหรับนำมาปลูกใหม่
- ปลูกผม FUE มีข้อดีอย่างไรบ้าง
วิธีปลูกผม FUE ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในกลุ่มผู้ที่ต้องการฟื้นฟูเส้นผมอย่างถาวรโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ จนการปลูกผม fue กลายเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับคนที่มีปัญหาผมร่วง โดยข้อดีของ FUE ปลูกผม ก็จะมีดังนี้
- เจ็บน้อย แผลเล็ก ฟื้นตัวไว การปลูกผม FUE ไม่ใช้มีดผ่าตัดและไม่ต้องเย็บแผล ทำให้เกิดบาดแผลเล็ก และลดอาการบวมช้ำหลังทำ
- ผลลัพธ์ดูแนบเนียน เทคนิค FUE ช่วยให้แพทย์สามารถวางแนวเส้นผมได้อย่างแม่นยำ ทำให้แนวผมที่ปลูกใหม่ดูกลมกลืนกับเส้นผมเดิม
- ไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ เนื่องจาก FUE ใช้การเจาะรากผมทีละกอ จึงไม่ทิ้งแผลเป็นยาวเหมือนเทคนิค FUT เหมาะกับผู้ที่ต้องการไว้ผมสั้น หรือไม่อยากให้เห็นร่องรอยการปลูกผม
- เลือกทรงผมได้อิสระมากขึ้น เมื่อไม่มีแผลเป็นขนาดใหญ่ ผู้เข้ารับการปลูกผมสามารถจัดแต่งทรงผม หรือเปลี่ยนลุคได้ตามต้องการ
- ทำร่วมกับการรักษาอื่นได้ เทคนิค FUE สามารถนำไปร่วมกับการรักษาอื่น เช่น โปรแกรมฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นกระตุ้นผม หรือการใช้ยา เพื่อช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม
- ทำซ้ำได้ในอนาคต (หากยังมีผมที่ท้ายทอยเพียงพอ) เทคนิค FUE สามารถทำซ้ำได้โดยไม่เกิดปัญหาเรื่องแผลเป็นหรือแนวรอยตัดซ้ำซ้อน
- ก่อนปลูกผม FUE ต้องเตรียมตัวอย่างไร
ก่อนการปลูกผมแบบ FUE ผู้ป่วยควรเตรียมตัวล่วงหน้า เพื่อให้ขั้นตอนการรักษาได้ผลลัพธ์ที่ดี ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ โดยแนวทางการเตรียมตัวก่อนปลูกผม FUE ก็จะมีดังนี้
- แจ้งข้อมูลสุขภาพให้แพทย์ทราบ หากมีโรคประจำตัว หรือใช้ยารักษาใด ๆ เป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับการปลูกผม FUE
- งดใช้ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน น้ำมันปลา โสม หรืออาหารเสริมอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด อย่างน้อย 7 วันก่อนเข้ารับการปลูกผม FUE
- หยุดใช้ยาปลูกผมที่มีส่วนผสมของ Minoxidil อย่างน้อย 7 วันก่อนปลูกผม เพื่อไม่ให้รากผมอ่อนแอขณะทำหัตถการ
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ก่อนและหลังการปลูกผม FUE อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพราะอาจส่งผลต่อการสมานแผล และการไหลเวียนของเลือด
- พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงในคืนก่อนการปลูกผม เพื่อให้ร่างกายพร้อมต่อกระบวนการฟื้นฟู
- วางแผนย้อมผมล่วงหน้า ควรดำเนินการล่วงหน้า 2-3 วันก่อนปลูกผม FUE เพราะหลังทำจะต้องเว้นการทำสีไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน
- เตรียมหมวกหรือผ้าคลุมศีรษะหลวม ๆ เพื่อป้องกันแสงแดด และสิ่งสกปรกในช่วงที่รากผมยังไม่ยึดติดดี
- หลังปลูกผม FUE ควรดูแลอย่างไร
หลังปลูกผม FUE การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีถือเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้กราฟผมเติบโตได้ดี ในช่วง 7 วันแรกไม่ควรจับหรือเกาศีรษะ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้แผลกระทบกระเทือน ควรนอนหงายโดยใช้หมอนรองคอเพื่อไม่ให้รากผมหลุด และหลีกเลี่ยงการทำสีผมเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน
- ปลูกผม FUE ทางเลือกแก้ปัญหาผมอย่างแนบเนียน
การปลูกผม FUE คือเทคนิคการย้ายรากผมที่ให้ผลลัพธ์อย่างแนบเนียน เจ็บน้อย และเหลือไว้เพียงรอยแผลขนาดเล็ก ด้วยการเจาะรากผมทีละกอจากบริเวณที่ผมหนามาปลูกในจุดที่ผมบางหรือศีรษะล้าน เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูแนวผมให้กลับมาดูเต็มและมั่นใจยิ่งขึ้น
Dr.Tarinee Hair Clinic เป็นคลินิกเฉพาะทางด้านการปลูกผมที่ถูกดูแลโดยแพทย์ในทุกเคส ให้บริการด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เน้นผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน ตั้งแต่ประเมินจำนวนกราฟ ไปจนถึงการดูแลหลังการปลูกผม FUE เพื่อให้ทุกคนกลับมามั่นใจในตัวเอง






