- 14 ก.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๐) เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่ห้องประชุมสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา นายมุรธาธีร์ รักช่าติเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานประชุมขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่างๆ ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๙/๒๕๕๙ รัฐพึงอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนา และประชาขนมีเสรีภาพในการนับถือ การปฏิบัติพิธีกรรม ตลอดจนการศึกษาและการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของทุกศาสนา
นายมุรธาธีร์ รักชาติเจริญ รอง ผวจ.โคราช กล่าวว่า รัฐธรรมนูญได้กําหนดแนวนโยบายแห่งรัฐว่า รัฐต้องอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น เพราะประวัติการปกครองของประเทศไทย พระมหากษัตริย์และทางราชการได้อุปถัมภ์บํารุง ศาสนาต่างๆไม่ว่าจะเป็นศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลามศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู และศาสนาซิกข์ในขณะเดียวกันประชาชนก็มีสิทธิและเสรีภาพในการนับถือการปฏิบัติพิธีกรรม ตลอดจนการศึกษาและเผยแผ่หลักธรรมคําสอนของทุกศาสนา การละเมิดศาสนวัตถุศาสนสถานอันเป็นการเหยียดหยามศาสนาของหมู่ชนใด หรือการก่อความวุ่นวายในเวลามีพิธีกรรม และการแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายของศาสนบุคคลโดยมิชอบ ย่อมเป็นความผิดตามกฎหมาย แม้แต่การละเมิดจารีตประเพณีทางศาสนาใดๆ ก็ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่สังคมตําหนิติเตียน ยิ่งผู้กระทําเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐย่อมมีความผิดทางวินัย นอกจากนั้นยังเป็นที่ยอมรับว่า ศาสนาทั้งหลายต่างก็มีอิทธิพลเกื้อกูลวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของประชาชนชาวไทยอีกด้วย
ทั้งนี้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาได้ขอให้ทุกหน่วยงานรายงานผลทุกไตรมาศไปยังหน่วยงานต้นสังกัด พร้อมกับได้ชี้แจงแนวทางลดหย่อนภาษีให้กับประชาชนทั่วไปที่บริจาคเงินให้ศาสนสถานในทุกศาสนา ในขณะเดียวกันสมาคมหรือมูลนิธิที่ดำเนินงานด้านศาสนา และแนวทางกระบวนการ และหลักเกณฑ์การขอรับการสนับสนุนงบประมาณดำเนินงานด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและพร้อมนี้ที่ประชุมยังให้ทุกส่วนราชการดำเนินงานตามแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑ (พศ.๒๕๕๙-๒๕๖๔) ประกอบด้วย "พอเพียง มีวินัย สุจริต จิตอาสา"นำไปประชาสัมพันธ์ในทุกหน่วยงานของรัฐและเอกชนอีกด้วย
ภาพ/ข่าว นายมานะ แย้มจะบก ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดนครราชสีมา