แอร์ เรซ วัน เวิลด์คัพ ไทยแลนด์ 2017 สังเวียนน่านฟ้าเตรียมกระหึ่มที่อู่ตะเภา

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tnew.co.th

แอร์ เรซ วัน เวิลด์คัพ ไทยแลนด์ 2017 สังเวียนน่านฟ้าเตรียมกระหึ่มที่อู่ตะเภา แอร์ เรซ วัน เวิลด์คัพ ไทยแลนด์ 2017 สังเวียนน่านฟ้าเตรียมกระหึ่มที่อู่ตะเภา แอร์ เรซ วัน เวิลด์คัพ ไทยแลนด์ 2017 สังเวียนน่านฟ้าเตรียมกระหึ่มที่อู่ตะเภา

ประเทศไทยได้สิทธิจัดการแข่งขันเครื่องบินในรูปแบบความเร็ว “แอร์ เรซ วัน เวิลด์คัพ ไทยแลนด์ 2017” หลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว ได้ชิมลางจัดการแข่งขันแบบปรีอีเว้นต์ไปแล้ว ระหว่างวันที่ 19-20 พฤศจิกายน 2559 ที่สนามบินอู่ตะเภา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และประสบความสำเร็จอย่างมาก

แอร์ เรซ วัน ถือเป็นกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่ใช้ความเร็วมากสุดในโลก โดยจัดแข่งกันมายาวนานกว่า 70 ปี ทั้งนี้ เครื่องบินที่เข้าแข่งขันจะถูกสร้างและพัฒนาเครื่องยนต์ตลอดจนวัสดุที่ใช้ทำส่วนของลําตัว และปีกเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ เพื่อให้การแข่งขันทั้งด้านทักษะการบินของนักแข่ง และด้านความสามารถทางเทคโนโลยีอากาศยานผสานรวมเป็นหนึ่งเดียว ปัจจุบันแอร์ เรซ วันเป็นกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่ได้รับความนิยมในระดับโลก มีนักกีฬา ทีมสนับสนุนนักกีฬา และผู้ติดตามชมการแข่งขันจากต่างประเทศเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

แอร์ เรซ วัน ในประเทศไทยครั้งนี้จะแข่งขันระหว่างวันที่ 17-19 พฤศจิกายน ใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นสังเวียนแข่งขันเหมือนเดิม ภายใต้งบประมาณ 132,792,500 บาท เพิ่มจากการจัดปรีอีเวนต์เมื่อปีที่แล้วที่ใช้ไป 100 ล้านบาท

การแข่งขันเมื่อปีที่แล้ว เต็มไปด้วยผู้ที่ชื่นชอบความเร็ว และนักท่องเที่ยวที่แน่นขนัดกว่า 50,000 คน ถึงแม้ว่าจะยังจัดไม่เต็มรูปแบบของการแข่งขันเครื่องบินเวิลด์คัพ มีเครื่องบินมาร่วมแข่งขันกันเพียง 6 ลำ แต่ก็สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่เข้าชมอย่างมาก เนื่องจากเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่ได้จัดศึกใหญ่ระดับนี้

“มาดามน้อง” กอบกาญจน์  วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บอกว่า การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน แอร์ เรซ วัน เวิลด์คัพ ไทยแลนด์ 2017 ถือเป็นการเปิดศักราชของการท่องเที่ยวเชิงกีฬา เปิดศักราชของประชาคมอาเซียน และเป็นการเปิดสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา เป็นการยกระดับสร้างภาพลักษณ์ให้การท่องเที่ยวของประเทศไทย เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมางานไทยแลนด์ ทราเวล มาร์ท จัดขึ้นที่ จ.เชียงใหม่ และในปีหน้าจะจัดที่ จ.ชลบุรี ซึ่งจะมีอีเว้นท์ต่างๆไปลงในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกมากขึ้น เป็นการช่วยยกระดับการท่องเที่ยวในฝั่งตะวันออกขึ้นไปอีกระดับ ที่นี่จะเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญลำดับต่อไปของประเทศ และการแข่งขันรายการนี้ก็จะมีบทบาทมากขึ้นในหลายมิติ ซึ่งการเตรียมการตอนนี้คืบหน้าไปแล้วประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ และตั้งเป้าว่าจะมีผู้มาร่วมงานในครั้งนี้ถึง 500,000 คนเลยทีเดียว

สำหรับในปีนี้จะเป็นการแข่งขันเต็มรูปแบบ มีนักวิ่งทางอากาศ 16 คน มาพร้อมกับเครื่องบิน 16 ลำ แข่งบิน 8 รอบสนาม รอบละ 5 กิโลเมตร รวม 40 กิโลเมตรความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 450 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาในแต่ละรอบไม่เกิน 1 นาที เครื่องบินลำไหนเข้าสู่เส้นชัยได้เป็นลำแรกจะคว้าแชมป์เวิลด์คัพไปครอง

  ผลการแข่งขันเมื่อปีที่แล้ว ขับเคี่ยวกันอย่างตื่นเต้น ก่อนที่จัสติน ฟิลลิปสันทำเวลา 4.9438 นาที ความเร็ว 372.170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คว้าแชมป์ไปได้ ส่วนอันดับ 2 ฟิลลิป โกฟอร์ท จากสหรัฐฯ หมายเลข 69 ทำเวลารวม 4.9498 นาที ความเร็ว 371.719 กม./ชม. อันดับ 3 สตานิสลาส ดาเมรอน จากฝรั่งเศส หมายเลข 3 เวลารวม 5.2043 นาที ความเร็ว 353.541 กม./ชม. อันดับ4 สตีฟ เทมเพิล จากสหรัฐฯ หมายเลข 87 เวลารวม 5.2232 นาที ความเร็ว 352.276 กม./ชม. อันดับ 5 จัสติน แมร์เดอร์ จากสหรัฐฯ หมายเลข 45 เวลารวม 4.4252 นาที. ความเร็ว 339.150 กม./ชม. ส่วนอันดับ 6 ธอมป์ ริชาร์ดแชมป์เก่าจากสหรัฐฯหมายเลข 1 ไม่ได้ทำการแข่งขันเนื่องจากเครื่องบินขัดข้องตั้งแต่รอบคัดเลือกวันแรก ซึ่งต้องคอยลุ้นกันว่าปีนี้แชมป์เก่าจะป้องกันแชมป์ในสนามบินอู่ตะเภาไว้ได้หรือไม่

นอกจากการแข่งขันรายการนี้แล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจมากมาย เช่น มหกรรมสวนสนามทางทะเลนานาชาติ ซึ่งมีกองทัพเรือเข้าร่วมแสดงแสนยานุภาพมากว่า 30 ประเทศ และการสวนสนามทางบกบริเวณแหลมบาลีฮายมาถึงหาดพัทยา ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ร่วมชื่นชมความยิ่งใหญ่ ความสวยงาม ความเข้มแข็งและแสนยานุภาพของกองทัพไทย เป็นกิจกรรมที่เข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

แอร์ เรซ วัน ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ประเทศไทยมีศักยภาพมากพอที่จะจัดการแข่งขันกีฬาหรือกิจกรรมนันทนาการระดับโลกได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน ที่จะได้เข้ามาทำงานทั้งการเตรียมความพร้อม ช่วงก่อนแข่ง ระหว่างแข่งและหลังแข่งขัน สำหรับการแข่งขันปรีอีเว้นต์ได้มีการประเมินแล้วว่ามีเงินสะพัดมากถึง 3,450 ล้านบาท ทำให้ช่วงแข่งขันแอร์ เรซ วัน เวิลด์คัพ ไทยแลนด์ 2017 ซึ่งเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่กว่า จะสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศไทยมากกว่านั้นเป็นเท่าตัว

คอยติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของศึกความเร็วทางอากาศระดับโลกนี้ให้ดี และอย่าพลาดไปร่วมตื่นเต้นกับเครื่องบิน 16 ลำ ในสนามบินอู่ตะเภา อีกไม่นานเกินรอ