ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

    จากกรณีเมื่อ วันที่ 18 เม.ย.61 ในเฟสบุ๊ก Art Tua Por โพสต์ข้อความ ระบุว่า...
#คนนี้พีคสุดตั้งแต่มาคัดเลือกทหาร
น้องคนนี้ร้องไห้หนักมาก หลายคนเห็นก็ขำบ้าง หัวเราะบ้าง แต่ใครจะรู้บ้างว่าที่เขาร้องไห้ มันเพราะอะไร มันมีอะไรมากกว่าความเสียใจที่จับได้ใบแดงหรือป่าว
ผมเห็นอาการของน้องคนนี้ตั้งแต่จับได้ใบแดง แล้วเดินมายื่นเอกสารก็ยังร้องไห้ไม่หยุด มีพี่ๆทหารคอยหิ้วปีกพยุงเดินมาตลอด ต่างจากคนอื่นที่ไม่ค่อยแสดงอาการเท่าไหร่ จากตอนแรกที่ผมจับโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายไว้เล่นๆ แต่พอผมได้ดูอาการน้องเขาแล้ว น้องเขาไม่ได้เล่นแน่ๆ

   ซึ่งเป็นที่น่าเห็นใจกับบางครอบครัวที่ต้องไร้เสาหลักของบ้านเพื่อไปทำเพื่อชาติ ซึ่งประโยคที่ทำให้ถึงกับจุกและเห็นใจของเขาคือ "แล้วยายผมจะอยู่ยังไง??"

 

 

 

   ในด้านของ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก  ได้กล่าวว่า “...จากกรณีมีการแชร์คลิปเรื่องเล่าจากเกณฑ์ทหาร หนุ่มน้ำตาตก หลังได้ใบแดง ไม่มีคนดูแลยาย 
   ขอเรียนว่า มีพบอยู่บ่อยครั้งกรณีน้องๆ ทหารใหม่ แสดงออกถึงความกังวลเนื่องจากตนเองจะต้องเข้ามารับราชการเป็นทหารกองประจำการนั้น ส่วนใหญ่มักเป็นเฉพาะในช่วงแรกๆ เท่านั้นเพราะยังไม่มีข้อมูล เรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ภายในหน่วยทหารสมัยปัจจุบัน 
ขอเรียนว่าในรั้วครอบครัวทหารยุคปัจจุบัน ทุกหน่วยจะมีการดูแลให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาในทุกมิติ โดยเฉพาะการให้ความใส่ใจต่อชีวิตความเป็นอยู่ภายนอกรั้วทหาร และให้ความสำคัญกับทหารทุกคนเสมือนเป็นญาติพี่น้องและคนในครอบครัว ในทำนอง “ญาติเขาก็เหมือนญาติเรา” 
ที่ผ่านมาความกังวลในลักษณะทำนองนี้ ทางหน่วยจะมีวิธีช่วยบริหารจัดการให้ได้อย่างเหมาะสมที่สุด หรือกรณีที่บางครั้งอาจจะเกิดผลกระทบบ้าง แต่ส่วนใหญ่ทุกหน่วยก็จะพยายามบริหารจัดการให้เกิดหรือมีขึ้นได้ให้น้อยที่สุด เชื่อว่าเมื่อทางหน่วยได้เข้าไปมีส่วนร่วมด้วยแล้ว สุดท้ายอาจไม่ถึงกับต้องเสียภารกิจในทางใดทางหนึ่งไป ไม่ว่าจะภาระทางราชการ หรือ ภาระทางครอบครัว ที่จะมีเพื่อนทหาร และผู้บังคับบัญชาไปร่วมกันดูแล หรือบางกรณี ทางหน่วย สามารถพิจารณาเสนอขอใช้ ระเบียบการขอลาดูแลบุพการี ได้ถ้าจำเป็นจริง ...”

    ในด้านของพลตรี ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการ มณฑลทหารบกที่11เปิดเผยว่า ผู้เข้ารับการตรวจเลือก ชื่อ "นาย ศักดิ์ฤทธิ์ ศรีสุนทร" อยู่บ้านเลขที่ 59/3 ซอยเทอดไทย15 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม......วุฒิการศึกษา ที่ลงไว้ คือ ปริญญาตรี แต่อยู่ระหว่างศึกษา โดยได้ขอผ่อนผัน เพื่อการศึกษามาแล้ว2ครั้ง ในครั้งนี้ได้ตัดสินใจขอยกเลิกการผ่อนผัน และเข้ารับการตรวจเลือก โดยสมัครใจเข้าจับฉลาก และจับได้ฉลากใบแดง (ทบ.ผลัดที่2)
ต้องรับราชการ 2ปี ในผลัดที่ 2 เนื่องจากวุฒิที่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้คือ ปวช.โดยจะต้องเข้ารับราชการในเดือน พ.ย.61นี้ ทั้งนี้ นาย ศักดิ์ฤทธิ์ ศรีสุนทร มีภาระต้องดูแลยาย 1คน อายุ75ปี และป้าอีกสองคน ป้าที่อายุ 55 ปี(ป่วย)และป้าที่อายุ 48 ปีกับหลานชายอายุ16 ปีอีก1คน ที่กำลังเรียนหนังสือ รายได้ของครอบครัวมาจาก การร้อยมาลัยของยายและป้า แล้วไปขายบริเวณหน้า 7-11 หน้าวัดนาคปรก ซ.เพชรเกษม 23 รายได้วันละประมาณ 200 บาท กับ นาย ศักดิ์ฤทธิ์ เป็นลูกจ้าง ที่ทำงานบริษัท ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า ถนนท่าดินแดง เขตคลองสาน รายได้วันละ300 บาท สภาพครอบครัวมีฐานะยากจน

  ในกรณีนี้ พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.และ พลโท กู้เกียรติ ศรีนาคา มทภ.1 ได้ให้ความสนใจและสั่งการให้สัสดีในพื้นที่รับผิดชอบ เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง และเตรียมการดูแลอย่างเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้การตรวจเลือกเป็นไปตามกระบวนการ อย่างเปิดเผยและยุติธรรม ไม่ได้กลั่นแกล้งเพื่อสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ใด และเมื่อทราบปัญหา ก็เร่งหาทางแก้ไขอย่างรวดเร็ว ในทุกราย
   นาย ศักดิ์ฤทธิ์ ศรีสุนทร จะเข้าประจำการ ที่หน่วย มทบ.11 ถ.พระราม 5 เขตดุสิต กทม. ใน1 พ.ย.61นี้ ซึ่งหน่วยจะดูแล ทั้งตัวน้องทหารใหม่และยาย ให้เป็นอย่างดี เพื่อสร้างความสบายใจ คลายกังวล สามารถเข้ารับการฝึก และทำหน้าที่ของตนสมกับเป็นชายชาติทหาร ที่ได้ทำหน้าที่ของตน ตามกฏหมายอย่างสมบูรณ์
 

   โดยล่าสุดเพจเฟซบุ๊ค กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ได้โพสต์ภาพเจ้าหน้าที่ทหาร สัสดี ลงพื้นที่พูดคุยกับครอบครัว นายศักดิ์ฤทธิ์ ศรีสุนทร หรือ บุคคลที่มีการถูกแชร์เรื่องราวในคลิปที่เป็นกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ว่า ‘จับได้ใบแดง ยายจะอยู่อย่างไร’

   ซึ่งได้ถามถึงเหตุผลว่าทำไมตอนนั้นถึงพูดประโยคนั้นออกมา “...เหตุการณ์ในตอนนั้น ร้องไห้เพราะตกใจ ไปคนเดียว ไม่มีคนให้ปรึกษา ตนเองจับได้ผลัด 2 ในเดือนพฤศจิกายน ก็จะเข้าไปทำหน้าที่...”
   หมายเหตุ: รายได้ของครอบครัวได้จาก นายศักดิ์ฤทธิ์ ประกอบอาชีพรับจ้าง เป็นพนักงานธุรการ บริษัทอุปกรณ์ไฟฟ้า ตั้งอยู่ถนนท่าดินแดง เขตคลองสาน รายได้วันละ ๓๐๐ บาท และป้ากับยายช่วยกันร้อยพวงมาลัยแล้วให้ยายไปขายบริเวณหน้า 7-11 หน้าวัดนาคปรก ซ.เพชรเกษม ๒๓ รายได้วันละประมาณ ๒๐๐ บาท เมื่อ ต.ค.-ธ.ค.๖๐ นายศักดิ์ฤทธิ์ เคยทำงานอยู่ที่สำนักพระราชวัง ฝ่ายสนมมีหน้าที่ในการรับเสด็จ แต่ถูกให้ออกเนื่องจากยังไม่ผ่านการตรวจเลือกทหารและบัตรเขียวถูกยกเลิก ส่วนชื่อ นพดล ที่ใช้ใน เฟสบุ๊คเป็นนามแฝงไม่มีเจตนาอย่างอื่น ปัจจุบันเลิกเรียนแล้ว เนื่องจากไม่มีเงิน

 

 

“ดูแลยายแทนพลทหาร” บิ๊กเจี๊ยบ สั่งกองทัพ เข้าดูแลยายของหนุ่มเสาหลักของบ้านโดนใบแดงหลังร้องไห้โฮ \"แล้วยายผมจะอยู่ยังไง??\"  (คลิป)

 

 

“ดูแลยายแทนพลทหาร” บิ๊กเจี๊ยบ สั่งกองทัพ เข้าดูแลยายของหนุ่มเสาหลักของบ้านโดนใบแดงหลังร้องไห้โฮ \"แล้วยายผมจะอยู่ยังไง??\"  (คลิป)

 

 

“ดูแลยายแทนพลทหาร” บิ๊กเจี๊ยบ สั่งกองทัพ เข้าดูแลยายของหนุ่มเสาหลักของบ้านโดนใบแดงหลังร้องไห้โฮ \"แล้วยายผมจะอยู่ยังไง??\"  (คลิป)

 

 

ขอบคุณภาพและข้อมูล เพจเฟซบุ๊ค กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย   Wassana Nanuam