ยุติธรรม ซัด "อัจฉริยะ" ให้การเลื่อนลอยไม่มีหลักฐาน อาจเข้าข่ายหมิ่นประมาท

ยุติธรรม ซัด "อัจฉริยะ" ให้การเลื่อนลอยไม่มีหลักฐาน ทำให้กระบวนการยุติธรรมมีปัญหาและอาจเข้าข่ายหมิ่นประมาทได้หากผู้เสียหายจากคำให้การจะแจ้งความดำเนินคดี

วันที่ 11 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน กระทรวงยุติธรรมแถลงผลตรวจผ้าขาวที่อ้างว่า "แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์" ใส่ในวันเกิดเหตุ ซึ่งถูกส่งมาจากต่างประเทศ ระบุเป็นของปลอม เนื่องจากผลการตรวจเลือดและผ้าที่พบไม่ตรงกับข้อเท็จจริง พบ DNA ของมนุษย์เพศชายชาวยูโรเปียนอินเดียน เตรียมดำเนินคดีเอาผิด นอกจากนี้ ยุติธรรม ซัด "อัจฉริยะ" ให้การเลื่อนลอยไม่มีหลักฐาน อาจเข้าข่ายหมิ่นประมาท
 

ยุติธรรม ซัด "อัจฉริยะ" ให้การเลื่อนลอยไม่มีหลักฐาน อาจเข้าข่ายหมิ่นประมาท

 

ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พันตำรวจโท พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้ช่วยศาสตราจารย์  วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์  และคณะพนักงานสืบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะมีการแถลงข่าวถึงผลการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ได้รับจากนายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค และคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา 

 

ยุติธรรม ซัด "อัจฉริยะ" ให้การเลื่อนลอยไม่มีหลักฐาน อาจเข้าข่ายหมิ่นประมาท

 

ทั้งนี้ภายหลังจากได้รับวัตถุพยานซึ่งอ้างว่าเป็นผ้าของ "แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์" ที่สวมใส่ในขณะเสียชีวิตและเป็นวัตถุพยานสำคัญซึ่งส่งมาจากต่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบโดยมีการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง 19 คนประสานข้อมูลกับ 12 หน่วยงานและตรวจสอบวัตถุพยานทั้ง 13 รายการ และมีการลงพื้นที่เกิดเหตุร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ ผลการตรวจพิสูจน์ที่สำคัญปรากฏว่าคราบเลือดที่อยู่บนผ้าเป็นของมนุษย์เพศชาย และจากการตรวจสอบแบบละเอียดสารพันธุกรรมบ่งชี้ว่าเป็นคนเชื้อชาติยูโรเปียนอินเดียน ส่วนหยดเลือดที่พบตรวจสอบการกระจายตัวพบว่าไม่ได้เป็นการกระทำที่เกิดจากการฆาตกรรมแต่เป็นการตั้งใจให้เกิดรอยเปื้อน 
 

ส่วนพยานวัตถุที่พบเป็นเส้นผมบนผ้ามีเส้นผมสีดำเป็นเส้นผมมนุษย์เพศชายสารพันธุกรรมตรงกับที่พบบนผ้าคือเป็นของมนุษย์เพศชายเชื้อชาติยูเรเปียนอินเดียน ซึ่งจากการตรวจสอบแบบลงลึกพบว่าเป็น DNA ของบุคคลคนเดียวกัน ส่วนเส้นผมยาวสีบรอนซ์ทองเป็นเส้นผมของมนุษย์แต่มีสารพันธุกรรมในปริมาณน้อยไม่สามารถตรวจพิสูจน์ได้ว่าเป็นเชื้อชาติใด 

 

ยุติธรรม ซัด "อัจฉริยะ" ให้การเลื่อนลอยไม่มีหลักฐาน อาจเข้าข่ายหมิ่นประมาท

 

พยานวัตถุต่อมาที่พบคือ เศษผงที่ปนเปื้อนในผ้าวัตถุพยานพบเป็นวัตถุอื่นซึ่งไม่ใช่ดินหรือโคลนที่อยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงจุดเกิดเหตุ แต่พบว่าเป็นแร่ควอตซ์ ควอนิค และ แอนโนไทต์ 

 

ยุติธรรม ซัด "อัจฉริยะ" ให้การเลื่อนลอยไม่มีหลักฐาน อาจเข้าข่ายหมิ่นประมาท

 

อีกทั้งจากการตรวจสอบภาพจากพยานหลักฐานต่างๆ ที่พบเห็นแตงโมสวมใส่เสื้อผ้า พบว่า ผ้าผืนที่แตงโมสวมในวันเกิดเหตุมีลักษณะทางกายภาพของผ้าไม่เหมือนกันคือ ผ้าที่แตงโมใส่ในวันเกิดเหตุจะมีรอยขาดอยู่ 2 รู แต่ผ้าที่ถูกส่งมาตรวจไม่มีรอยขาดซึ่งเป็นตำหนิคนละจุดกับภาพพยานหลักฐานที่มีการสืบสวนไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้มีโอกาสเห็นผ้าผืนดังกล่าวก่อนที่จะทำการส่งมาที่ประเทศไทย แต่เมื่อทางคณะกรรมาธิการนำกล่องพยานหลักฐานที่ถูกส่งมาจากต่างประเทศมาเปิดดูที่ประเทศไทยกับพบว่า ถ้ามีลักษณะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรืออาจเป็นผ้าคนละผืนกัน อีกทั้งจากการตรวจสอบชื่อที่จ่าหน้าซองพัสดุที่ใส่วัตถุพยานมาที่ประเทศไทยในทะเบียนราษฎร์ของกระทรวงมหาดไทยกลับไม่พบรายชื่อดังกล่าว

จากข้อเท็จจริงที่ DSI รวบรวมพยานหลักฐานมาได้ระยะหนึ่งแล้วเป็นเพียงพยานแวดล้อมและพยานความเห็นเกี่ยวกับพยานหลักฐานที่ตำรวจได้มีการแถลงข่าวประกอบกับผู้ร้องขอไม่ได้นำวัตถุประยานเช่นคลิปวีดีโอหรือพยานหลักฐานอื่นๆที่นำเสนอผ่านสื่อต่างๆมามอบให้ DSI สอบสวนจึงยังรับฟังไม่ได้ว่าเป็นการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตามที่มีการร้องขอให้ดำเนินการ

ทั้งนี้ DSI จัดยังสืบสวนเรื่องดังกล่าวต่อไปอีกระยะหนึ่งแต่หากสืบสวนแล้วไม่พบความผิดก็จะยุติการสืบสวนในคดีนี้ โดยจะให้เวลาจนถึงเดือนกันยายน 2565 ซึ่งจะครบกำหนดการเปิดรับข้อมูลในคดีดังกล่าว ไปหากมีพยานหลักฐานใดเพิ่มเติมยังสามารถส่งในกรอบเวลาดังกล่าวได้โดยแจ้งมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือกระทรวงยุติธรรม

 

ยุติธรรม ซัด "อัจฉริยะ" ให้การเลื่อนลอยไม่มีหลักฐาน อาจเข้าข่ายหมิ่นประมาท

 

ส่วนการตรวจสอบทำให้การของ "นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์" ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมพบว่าทำให้การต่างๆเลื่อนลอยไม่มีพยานหลักฐานมายืนยัน ซึ่งส่วนใหญ่ทำให้การเป็นการยึดเครดิตการสืบสวนสอบสวนของตำรวจในคดีดังกล่าวแต่ไม่มีพยานหลักฐานมาประกอบทำให้กระบวนการยุติธรรมมีปัญหาและอาจเข้าข่ายหมิ่นประมาทได้หากผู้เสียหายจากคำให้การจะแจ้งความดำเนินคดี

ถ้าไม่มีพยานหลักฐานต่างๆออกมากระทรวงยุติธรรมจะแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ที่สร้างพยานหลักฐานเท็จจนทำให้เกิดการเสียงบประมาณของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมและกรมทรัพยากรธรณีวิทยา มูลค่าเกือบ 100,000 บาทและเสียเวลาในการทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน ในข้อหาแจ้งความเท็จ และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสร้างพยานหลักฐานปลอมทุกคนซึ่งอาจรวมถึงบังแจ็คด้วย

ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต ยังเปิดใจที่ว่าหลังจากที่พยานหลักฐานดังกล่าวออกมามองว่า ประชาชนไม่ควรให้ความเชื่อถือกับบุคคลดังกล่าวเพราะจะทำให้กระบวนการยุติธรรมเสียหายซึ่งหากบุคคลใดที่ยังไม่เชื่อผลการตรวจดังกล่าวสามารถมาขอดูผ้าหรือขอนำผ้าดังกล่าวไปตรวจพิสูจน์เองในสถาบันที่ตนเองเชื่อมั่นได้

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline