เปิด "5 สัญญาณเตือน" เสี่ยงหลอดเลือดตีบ ที่หลายคนมองข้าม

เช็กด่วน! 5 สัญญาณ “หลอดเลือดหัวใจตีบ” ที่คนแข็งแรงก็เสี่ยงตายได้ — หมอเจดเตือน ออกกำลังกายไม่ได้แปลว่าหัวใจแข็งแรง!

เช็กด่วน! 5 สัญญาณ เสี่ยงหลอดเลือดตีบที่มองข้าม "หมอเจดนพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า 

ไม่นานมานี้มีข่าวชายวัย 40 ปีเสียชีวิตกลางสนามวิ่งมาราธอน

สาเหตุคือกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ทั้งที่ดูแข็งแรงดี

เหตุการณ์นี้เตือนให้รู้ว่าออกกำลังกายหนัก ไม่ได้แปลว่า “หัวใจแข็งแรง”

โดยเฉพาะในคนที่หลอดเลือดหัวใจตีบอยู่แล้ว

ครับว่า 5 สัญญาณเตือนที่มักถูกมองข้ามมีอะไรบ้าง

1️⃣ เจ็บแน่นกลางหน้าอก
มีอาการแน่น หรือเหมือนมีอะไรมาบีบรัดบริเวณกลางอก
มักจะเกิดตอนกำลังออกแรง แล้วค่อย ๆ หายเมื่อเราหยุดพัก
บางคนเข้าใจว่าอาการนี้เป็นแค่ล้าหรือกล้ามเนื้อเจ็บ
แต่จริง ๆ นี่คือสัญญาณว่าหัวใจขาดเลือดชั่วขณะครับ
ถ้ามีอาการซ้ำ หรือเจ็บนานกว่า 10 นาที ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที

2️⃣ เจ็บร้าวไปส่วนอื่นของร่างกาย
อาการนี้ไม่ได้อยู่แค่หน้าอกเท่านั้นนะ แต่อาจร้าวไปแขนซ้าย คอ กราม หลัง
หรือบริเวณลิ้นปี่ จนบางคนเข้าใจผิดว่าเป็นโรคกระเพาะ
เพราะเส้นประสาทของหัวใจและช่องท้องอยู่ใกล้กัน
หากอาการเจ็บแบบนี้เกิดซ้ำเวลาออกแรงหรือเครียด
ควรรีบตรวจคลื่นหัวใจ (ECG) เพื่อหาความผิดปกติแต่เนิ่น ๆ เลยครับ

3️⃣ เหนื่อยง่ายกว่าปกติ
จากคนที่เคยออกกำลังกายได้ปกติ กลับรู้สึกเหนื่อยเร็วขึ้น
หรือหมดแรงทั้งที่ออกแรงเท่าเดิม
เป็นเพราะหัวใจสูบฉีดเลือดได้ไม่เต็มที่จากหลอดเลือดตีบ
ยิ่งถ้ามีอาการนี้ร่วมกับแน่นหน้าอกหรือใจสั่น อย่าฝืนออกกำลังกาย
แนะนำให้หยุดพัก และไปตรวจหัวใจทันที

4️⃣ ใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ
ถ้ารู้สึกหัวใจเต้นเร็ว เต้นแรง หรือเหมือนสะดุดขณะออกกำลังกาย
นี่อาจเกิดจากหัวใจขาดเลือดบางส่วน ทำให้ระบบไฟฟ้าหัวใจแปรปรวน
ถ้าใจสั่นร่วมกับเวียนหัว เหงื่อออก หรือแน่นหน้าอก
ให้หยุดออกกำลังกายทันที และรีบพบแพทย์ด่วนเลยครับ

5️⃣ เหงื่อออกมาก หน้ามืด หรือวูบ
ถ้ามีเหงื่อแตกท่วมทั้งตัว ทั้งที่ออกกำลังกายไม่หนักมาก
หรือรู้สึกหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม นี่ไม่ใช่เรื่องปกติครับ
นี่อาจเกิดจากความดันโลหิตตกเฉียบพลันเพราะหัวใจสูบเลือดไม่พอ
ถ้ามีอาการร่วมกับเจ็บแน่นหน้าอกด้วยแล้ว
ให้ถือเป็นภาวะฉุกเฉินครับ ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที อย่าฝืนต่อ

หัวใจไม่ได้แข็งแรงแค่เพราะเราออกกำลังกายครับ
สิ่งสำคัญคือรู้เท่าทันสัญญาณเตือน และตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำ
เพราะถ้าเรารู้ก่อน ปรับพฤติกรรม กินดี นอนพอ และตรวจสม่ำเสมอ
หัวใจจะอยู่กับเราได้อีกนาน โดยไม่ต้องรอให้มันเตือนด้วยความเจ็บครับ