- 28 ต.ค. 2568
บอร์ดโรคจากการประกอบอาชีพฯ เคาะ 12 แหล่งก่อ PM2.5 ต้องดูแลสุขภาพประชาชนรัศมี 5 กิโลเมตร พร้อมชงบอร์ดสปสช.เพิ่มสิทธิประโยชน์ตรวจสุขภาพกลุ่มแรงงานไม่มีนายจ้าง 5 โรค
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568) นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม ว่าที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ 2 ประเด็น คือ 1.ร่างประกาศคณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม เรื่อง ประเภท ขนาด และลักษณะของแหล่งกำเนิดมลพิษ และประเภทหรือกลุ่มของประชาชนที่ได้รับหรืออาจได้รับมลพิษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....(กรณีฝุ่น PM2.5)
กำหนดประเภทและขนาดของแหล่งกำเนิดมลพิษ เป็น 12 ประเภท และแบ่งกลุ่มประชาชนที่ได้รับหรืออาจได้รับมลพิษออกเป็น บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า15 ปีบริบูรณ์ หญิงตั้งครรภ์ หรือบุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป บุคคลซึ่งมีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหืด และกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด
“ เจ้าของแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5ทั้ง 12 ประเภท ต้องจัดให้มีการดูแลสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เป็นการป้องกัน โดยจะต้องนำประชาชนที่อยู่ในพื้นที่รัศมีประมาณ 5 กิโลเมตร มารับการตรวจโรคก่อนที่จะป่วย โรคที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ, โรคเกี่ยวกับการระคายเคืองทางตา,ผิวหนัง และโรคหัวใจขาดเลือด”นายพัฒนากล่าว
และ 2. แนวปฏิบัติการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพในกลุ่มแรงงานที่ไม่มีนายจ้าง ภายใต้กฎกระทรวงการตรวจสุขภาพของแรงงานนอกระบบ พ.ศ. 2567 ซึ่งปัจจุบัน มีแรงงานนอกระบบกลุ่มเสี่ยง 5 โรคที่ควรได้รับการดูแลตามมาตรา 27 จำนวน 5,376,542 คน ประกอบด้วย
โรคหรืออาการสำคัญของพิษจากสารกำจัดศัตรูพืช 5,281,220 คน
โรคจากแอสเบสตอสหรือโรคมะเร็งจากเอสเบสตอส 60,029 คน
โรคจากฝุ่นซิลิกา 2,072 คน
โรคพิษตะกั่วหรือสารประกอบของตะกั่ว 12,642 คน
และโรคจากภาวะอับอากาศ 17,579 คน
โดยได้มอบฝ่ายเลขาฯประสานกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)เสนอคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ดสปสช.) เพื่อสนับสนุนให้เกิดสิทธิประโยชน์ในการตรวจสุขภาพให้กับกลุ่มแรงงานที่ไม่มีนายจ้างต่อไป
นายพัฒนา กล่าวด้วยว่า สำหรับสถานการณ์โรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อมที่สำคัญต่อสุขภาพของประชาชน ในปี 2569 ได้กำหนด 4 มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค กรณีฝุ่น PM2.5 ได้แก่ 1. การเฝ้าระวังโรคจากการรับสัมผัสฝุ่น PM2.5
2. การจัดบริการเวชกรรมสิ่งแวดล้อม ของหน่วยบริการสุขภาพ
3. สร้างความรอบรู้และสื่อสารความเสี่ยง
และ 4. ขับเคลื่อนกฎหมาย นโยบาย และมาตรการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรการภายใต้การประกาศเขตพื้นที่ฯ ทั้งการลดการสัมผัส การสื่อสารความเสี่ยง การเฝ้าระวังเชิงรุก/เชิงรับ และการแจ้งระบบรายงานและการสอบสวนโรค






