- 02 พ.ย. 2568
ทัพภาค1 ชื่นชมพลทหารพีรพล มีความกตัญญูต่อบุพการี พร้อมช่วยเหลือปรับย้าย ประจำการหน่วยทหารใกล้บ้าน ควบคู่กับการทำหน้าที่ทหารรับใช้ชาติอย่างสมเกียรติ
กรณีชายไทยได้รับคัดเลือกเป็นทหารเกณฑ์ ร้องทุกข์ผ่านเพจสายไหมต้องรอด ช่วยพ่อผมด้วยครับ บ้านผมอยู่ ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ. วันนี้ผมต้องไปเป็นทหารแล้วครับ คนดูแลพ่อก็ไม่มี ผมมีกันกับพ่อแค่ 2 คน พ่อผมอายุ 59 ปี ป่วยทำงานไม่ได้ ผมทำงานหาเลี้ยงพ่อมาตั้งแต่อายุ 15 ครับ รายจ่ายเดือนนึงเกือบ 8,000 ค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ารถพาพ่อไปหาหมอ นี้ยังไม่รวมค่ากิน
พ่อผมป่วยเป็นโรคไต ต้องไปฟอกเลือดอาทิตย์ละ 3 วันครับ ผมเครียดเหลือเกินไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อ แต่ผมต้องไปเป็นทหาร 2 ปี แล้วพ่อผมจะอยู่ยังไง ตอนผมก่อนจะไป ผมคุยกับสัสดี ขอให้ช่วยติดต่อหน่วยงานเข้ามาดูพ่อผมให้ที ก็ไม่ได้คำตอบว่าจะมีหน่วยงานไหนมาช่วยเหลือได้บ้าง ผมทุกข์ใจมากๆ ไม่รู้ว่าพ่อผมจะมีชีวิตอยู่ยังไงจะรอผมกลับไปไหวไหม ที่สำคัญไม่รู้จะมีบ้านให้อยู่ไหม เพราะพ่อไม่มีรายได้เลยจะเอาตังค์ไหนไปจ่ายค่าบ้าน ส่วนผมก็ยังไม่รู้ว่าเงินเดือนทหารเกณฑ์หลังจากหักอะไรแล้ว มันจะเหลือพอที่จะส่งให้พ่อได้กินไหม ผมขอความเมตตาฝาก สายไหมต้องรอด เป็นกระบอกเสียงช่วยพ่อผมด้วยนะครับ
ล่าสุดทางกองทัพภาคที่1 ออกมาช่วยเหลือแล้ว กรณีที่มีชายไทยได้รับคัดเลือกเป็นทหารกองประจำการ ผลัดที่ 2 ประจำปี 2568 ซึ่งอาศัยอยู่กับบิดาเพียงลำพัง และมีโรคประจำตัวต้องเข้ารับการฟอกไต มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิสายไหมต้องรอด นั้น ทางกองทัพภาคที่ 1 ได้รับทราบข้อมูลและตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ชื่อ พลทหาร พีรพล แซ่แต้ ภูมิลำเนาทหาร ต.คลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ อยู่กับบิดาเพียงลำพัง ซึ่งป่วยเป็นโรคไต และต้องเข้ารับการรักษาโดยการฟอกไตอย่างต่อเนื่อง
โดย พลฯ พีรพล ได้เข้าสู่กระบวนการคัดเลือกเป็นทหารกองประจำการ ผลัดที่ 2 ประจำปี 2568 ซึ่งต้องเข้าสู่กระบวนการรับรายงานตัวของทหารใหม่ ก่อนเข้าประจำการ ณ มณฑลทหารบกที่ 15 จ.เพชรบุรี ในวันที่ 1 พ.ย.68 ตามระเบียบของการเข้ารับการรายงานตัวของทหารกองประจำการ ผลัดที่ 2 พร้อมกันทั่วประเทศ
โดย พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้รับทราบข้อมูลและได้สั่งการให้ดำเนินการปรับย้าย พลฯ พีรพล มาประจำการในหน่วยทหารใกล้บ้าน คือ กองพันทหารสื่อสารที่ 1 ซึ่งมีที่ตั้ง บริเวณ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. ซึ่งมีระยะทางห่างจากบ้าน พลฯ พีรพล ประมาณ 30 กิโลเมตร เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับไปเยี่ยมดูแลบุพการีในห้วงเวลาพักหลังปฏิบัติภารกิจได้ นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้สั่งการให้ สัสดี อ.พระสมุทรเจดีย์ ประสานกับส่วนราชการในพื้นที่ เพื่อร่วมกันดูแลบิดาของพลฯ พีรพล แบบสหวิชาชีพต่อไป
และในวันที่ 2พ.ย.68 ทางคณะสัสดี อ. พระสมุทรเจดีย์ ได้ช่วยเหลืออำนวยความสะดวก พาบิดาของพลฯ พีรพล เข้ารับการรักษาฟอกไตตามแพทย์นัด และประสาน อสม. ที่รับผิดชอบในพื้นที่ร่วมกันดูแล เพื่อลดความกังวลให้กับบุตรซึ่งไปทำหน้าที่ในการเป็นทหารกองประจำการ ทั้งนี้ กองพันทหารสื่อสารที่ 1 จะดำเนินการช่วยเหลืออำนวยความสะดวกกับครอบครัวทหาร ในห้วงประจำการในภาพรวมตามความเหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 1 ได้ดำเนินการดูแลกำลังพลในทุกระดับ ตามแนวทางของกองทัพบก โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ความสำคัญกับการดูแลทหารกองประจำการ ซึ่งถือเป็นน้องเล็กของกองทัพ ทั้งในเรื่องสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ ตลอดจนการช่วยเหลือครอบครัวที่ประสบปัญหาต่างๆ ตามความเหมาะสม เพื่อให้กำลังพลมีขวัญและกำลังใจ มีความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ด้านความมั่นคงได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป






