น้อมรำลึก ๒๖ พฤศจิกายน ในโอกาสครบ ๗๓ ปี วันมรณภาพสมเด็จสังฆราช แพ ติสสเทโวสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑๒ของกรุงรัตนโกสินทร์

รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์ http://www.tnews.co.th

น้อมรำลึก ๒๖ พฤศจิกายน ในโอกาสครบ ๗๓ ปี วันมรณภาพสมเด็จสังฆราช แพ ติสสเทโวสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑๒ของกรุงรัตนโกสินทร์

วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๐น้อมรำลึกในโอกาสครบ ๗๓ ปี วันมรณภาพสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก (แพ ติสฺสเทโว ป.ธ.๕)สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร มีพระนามเดิมว่าแพ ประสูติในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๓๙๙ เป็นชาวสวนบางลำภูล่าง อำเภอคลองสาน จังหวัดธนบุรี พระชนกชื่อนุตร พระชนนีชื่ออ้น สกุล พงษ์ปาละ
 

น้อมรำลึก ๒๖ พฤศจิกายน ในโอกาสครบ ๗๓ ปี วันมรณภาพสมเด็จสังฆราช แพ ติสสเทโวสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑๒ของกรุงรัตนโกสินทร์
เมื่อพระชันษาได้ ๗ ปี ได้ไปศึกษาอักษรสมัยกับสมเด็จพระวันรัตน์ (สมบุรณ์) ขณะยังเป็นเจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ กรุงเทพมหานคร เมื่อสมเด็จพระวันรัตน์ (สมบุรณ์) ย้ายไปครองวัดราชบุรณราชวรวิหาร พระองค์ได้ย้ายตามไปด้วย ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อปี พ.ศ.๒๔๑๑ โดยมีสมเด็จพระวันรัตน์ (สมบุรณ์) เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อสมเด็จพระวันรัตน์ (สมบุรณ์) ย้ายไปครองวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ก็ให้รับพระองค์ไปอยู่ด้วย ขณะอยู่วัดพระเชุตพนฯ พระองค์ได้ศึกษากับสมเด็จพระวันรัตเป็นหลัก นอกจากนี้ก็ศึกษากับเสมียนตราสุขบ้ง พระโหราธิบดี (ชุ่ม) บ้าง อาจารย์โพบ้าง ได้เข้าสอบครั้งแรกที่พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาทในปี พ.ศ.๒๔๑๙ แต่สอบไม่ผ่าน เมื่อท่านอายุครบอุปสมบท แต่สมเด็จพระวันรัต (สมบุรณ์) อาพาธ พระองค์อยู่พยาบาลจนกระทั่งท่านมรณภาพ จึงไปฝากตัวเป็นศิษย์สมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวฑฺฒโน) วัดสุทัศนฯ ตามที่สมเด็จพระวันรัต (สมบุรณ์) ฝากฝังไว้ ในปีเถาะ พ.ศ.๒๔๒๒ จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดเศวตรฉัตร โดยมีสมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวฑฺฒโน) เป็นพระอุปัชฌาย์ แล้วย้ายมาอยู่วัดสุทัศนฯ ศึกษากับสมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวฑฺฒโน) เป็นหลัก และไปศึกษากับสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว) บ้าง เข้าสอบอีกครั้งที่พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาทในปีมะเมีย พ.ศ.๒๔๒๕ ได้เปรียญธรรม ๔ ประโยค ต่อมาปีระกา พ.ศ.๒๔๒๘ เข้าสอบที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม แปลเพิ่มได้อีก ๑ ประโยค เป็นเปรียญธรรม ๕ประโยค
พระอิสริยยศ
๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๑ ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช
พ.ศ. ๒๔๘๒ ได้รับเฉลิมพระนาม ตามสุพรรณบัฏว่า #สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สุขุมวิธานธำรง สกลสงฆปรินายก ตรีปิฎกกลากุศโลภาส อานันทมหาราชพุทธมามกาจารย์ ติสสเทวภิธานสังฆวิสสุต ปาวจนุตตมโศภน วิมลศีลสมาจารวัตร พุทธศาสนิกบริษัทคารวสถาน วิจิตรปฏิภาณพัฒนคุณ อดุลคัมภีรญาณสุนทร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญญวาสี
 

น้อมรำลึก ๒๖ พฤศจิกายน ในโอกาสครบ ๗๓ ปี วันมรณภาพสมเด็จสังฆราช แพ ติสสเทโวสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑๒ของกรุงรัตนโกสินทร์
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (แพ ติสฺสเทโว ป.ธ.๕) สิ้นพระชนม์ด้วยพระโรคชรา เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๗ เวลา ๓ นาฬิกา ที่ตำหนักวัดสุทัศน์ฯ สิริพระชันษาได้ ๘๙ ปี ทรงดำรงอยู่ในสมณเพศ ๖๖ พรรษา ทรงดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายกได้ ๗ ปี
ได้รับพระราชทานน้ำสรงพระศพ และพระโกศกุดั่นน้อย ฉัตรเครื่องสูง เต็มตามพระอิสริยยศ ประดิษฐานพระศพ ณ ตำหนักที่สิ้นพระชนม์ ครั้นถึงการพระราชกุศลสตมวาร จึงทรงพระกรุณาโปรดให้เลื่อนชั้นพระโกศ เป็นพระโกศกุดั่นใหญ่ พระราชทานเพลิงพรศพเป็นการหลวง ณ พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาสฯ เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๘
ที่มา : http://www.dharma-gateway.com และ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี