"บิ๊กตู่" ร่ายยาว !! เร่งสร้างประชาธิปไตยยั่งยืน เน้นย้ำร่างรธน. จัดเต็มรายการคืนความสุข (คลิป)

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

"พล.อ.ประยุทธ์" กับรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ประจำวันที่ 5 ก.พ. 2559 เน้นย้ำเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ สร้างประชาธิปไตยให้ยั่งยืน (คลิป)


 
วันนี้ (5 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ว่า ปัญหาของประเทศเราวันนี้วุ่นวายพอสมควร ในขั้นการเตรียมการเลือกตั้ง การทำประชามติ หรือร่างรัฐธรรมนูญ ที่ต้องแก้ไขวางพื้นฐานให้ได้โดยเร็วเป็นประชาธิปไตยยั่งยืน ต้องเร่งแก้ 1.ปัญหาการเมือง และประชาธิปไตยที่ไม่สมบูรณ์ ความเหลื่อมล้ำ การไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้นำ ผู้บริหาร ที่ไม่คำนึงถึงประชาชนส่วนใหญ่ คิดถึงแต่พวกพ้อง ไม่ยอมรับคำตัดสิน ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อ้างสิทธิมนุษยชน ไม่ดูว่าปัญหาล้วนแต่เกิดจากการกระทำตัวเอง ถ้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทุกอย่างถึงจะสงบ ซึ่งความร่วมมือต้องมากกว่าความขัดแย้ง เพราะว่าเราเห็นต่างกันมากในปัจจุบัน ทุกคนเคารพความเห็นต่าง แต่ต้องหาทางรวมกันให้ได้ หากยังเห็นต่างกัน แล้วสุดโต่งกันไปทั้งคู่นี่ มันไปไม่ได้ทั้งหมด
         


นายกฯ กล่าวต่อว่า ถ้าเราไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพกฎกติกากันเลย มันก็จะเกิดการทุจริต การสมยอมกัน เจ้าหน้าที่ก็เดือดร้อน ประชาชนก็เดือดร้อน ท้ายสุดก็ไปเดือดร้อนกับศาล กับกระบวนการยุติธรรมโน่น แล้วก็ทำอะไรกันไม่ได้ ท้ายสุดประชาชนที่ยากไร้ก็ต้องทำผิดกฎหมาย ถูกตัดสิน ดำเนินคดี อะไรก็แล้วแต่ เพราะงั้นวันนี้เราต้องมีการบูรณาการกัน หลายปีที่เราขัดแย้งกันมาก มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งประชาชน ใช้ความรุนแรงต่อกัน มีการบิดเบือน ปลุกปั่น สุดโต่ง จากผู้ที่ไม่หวังดี หวังผลประโยชน์ทางการเมือง มีนักวิชาการที่สุดโต่ง ที่มุ่งเน้นในเรื่องประชาธิปไตย โดยไม่ได้สอนให้คนอยู่ร่วมกันได้อย่างไร หรือแม้กระทั่งสื่อบางสื่อ ที่มีจรรยาบรรณไม่เพียงพอ ตลอดจนโซเชียลมีเดีย สร้างความเกลียดชังอยู่ทั่วไป ต้องขจัดออกไปให้ได้ ทำระบบประชาธิปไตยให้สอดคล้องกับวิถีไทย
         


นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษารัฐธรรมนูญ ร่างที่ 1 อยู่จะต้องระวัง ไม่เปิดทางให้ใคร หรือผู้ใด เข้าเป็นรัฐบาลที่ไม่มีธรรมาภิบาล เรื่องรัฐธรรมนูญ อยากจะเรียนอีกครั้งหนึ่งว่า ทุกคนอาจจะมองว่าเป็นสิ่งสำคัญ สำคัญ ตนไม่ได้ว่าไม่สำคัญ สำคัญที่สุดในการปกครองประเทศ เป็นหลักการของประเทศในระบอบประชาธิปไตย แต่สังเกตดูเหมือนกับทุกคนคาดหวังว่ารัฐธรรมนูญนี่คือยาวิเศษ หรือสูตรสำเร็จในการที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศไทย หรือแก้โรคได้ทุกโรค อยากจะให้ทบทวนดู ถ้าเราดูร่างรัฐธรรมนูญ แล้วก็ฟังโดยคนโน้นพูด คนนี้พูด โดยที่ไม่ใช่คนร่างพูดนี่จะทำให้สับสน ตนก็ต้องศึกษาเหมือนกัน ในฐานะเป็นประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในนามของรัฐบาล ตนใช้หลักการของตนเริ่มต้นตั้งแต่ ดูทีละหมวด ถ้าอ่านไปแล้วไม่ติดใจสงสัยก็ผ่านไป สงสัยตรงไหนก็ทำเครื่องหมายไว้ กาไว้ ต้องศึกษาเปรียบต่างจาก 40 หรือ 50 เอาปัญหาก่อนเดือน พ.ค.57 มาคลี่ออก การติดบล็อกต่างๆ จากปัญหาความขัดแย้ง การที่รัฐบาลต้องไปสู่การเป็นรัฐบาลที่ไม่มีอำนาจเต็ม เหล่านี้จะแก้ปัญหาได้อย่างไร เพราะงั้น รัฐธรรมนูญฉบับนี้ แก้ปัญหาทั้งหมด จะได้หรือไม่ ถ้าได้ ได้อย่างไร แล้วทำไมต้องมีการระบุอะไรที่มีความแตกต่างบ้าง แต่ถ้ายังไม่มีวินัย ไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพกติกาของสังคม ไม่ดูแลคนให้เกิดความเท่าเทียม ไม่วางแผนอนาคตประเทศให้ชัดเจน ไม่มียุทธศาสตร์ ประชาธิปไตยของไทยจะกลับไปที่เดิม มีความขัดแย้งกัน อาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป เพราะงั้นอย่าไปกังวลกับเรื่องรัฐธรรมนูญมากนัก มันอยู่ที่ใจของทุกคน รัฐธรรมนูญใจสำคัญที่สุด จำเป็นต้องปฏิรูป
         


"เรื่องรัฐธรรมนูญและกฎหมายทุกฉบับ ถ้าเรามองว่าคือยาวิเศษแล้วแก้ไขได้ทุกอย่าง ไปทบทวนดูจะแก้ไขได้ทั้งหมดไหมความขัดแย้ง ปัญหายิ่งแรง ความขัดแย้งก็สูงขึ้น ถ้าไม่เข้มแข็งพอก็มีปัญหาอีก คิดว่าคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ทำเต็มที่แล้ว ตนเห็นเหน็ดเหนื่อย เครียดเหมือนกัน เพราะว่าเราจะต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้น ให้เกิดขึ้นนี่ ทุกอย่างลำบากหมด ในเรื่องของการแก้ไขความขัดแย้ง แก้ไขการทุจริต ความรุนแรง ความไม่เข้มแข็ง ความไม่มีขีดความสามารถในการแข่งขัน เหล่านี้จะทำยังไงนะครับ แล้วถ้าเราสามารถผ่านประชามติไปได้ เราจะต้องเข้าไปสู่การเลือกตั้ง ถ้าเลือกตั้งได้ ก็ไปตั้งรัฐบาลได้ ถ้าเลือกตั้งไม่ได้ วุ่นวายกันอีก มีการทำร้ายกัน หรือใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ใส่กันอีก เหมือนเดิม ก็ไปไม่ได้อีกเหมือนเดิมนะ เพราะงั้นเราต้องช่วยกันคิดนะครับ เราจะหยุดเรื่องเหล่านี้อย่างไร อย่าพูดว่าไม่เป็นไร ไม่เป็นไร วันนี้ก็เห็นสงบเงียบเรียบร้อยดี" นายกฯ กล่าว
         


นายกฯ กล่าวต่อว่า แล้วหลังเลือกตั้งมาแล้ว ต่างฝ่ายต่างจะยอมรับในผลการเลือกตั้งหรือไม่ ไม่อย่างนั้นก็กลับมาเดือดร้อนเจ้าหน้าที่อีก ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายให้ทุกคนยอมรับกัน เราต้องยอมรับกติกาสังคม เลือกตั้งแล้วผลยังไงอีกฝ่ายก็ต้องรับ และถ้าเกิดปัญหาอีกเช่นที่ผ่านมาแก้ไม่ได้จริงๆ แล้วใครจะเป็นคนหยุดสถานการณ์ได้ วันนี้เขาก็มีวิธีการแก้ไขให้อยู่แล้ว ก็ไม่เห็นด้วยอีก เพิ่มอำนาจคนโน้นคนนี้มาก แล้วใครจะทำละ เรื่องของกฎหมายการปกครอง การบริหาร กฎหมายลูกต่าง ๆ บทเฉพาะกาล ต่างๆ เหล่านี้มีความแตกต่างกันทั้งสิ้น บางอย่างก็ไม่ได้เขียนในรัฐธรรมนูญ บางอย่างอยู่ในกฎหมายลูก บางอย่างอาจจะต้องอยู่ในบทเฉพาะกาล ไม่งั้นตีกันไปหมด
         


นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องต่อไปคือเรื่องการเมืองไทยที่ผ่านมานั้น เรามักจะเน้นในเรืองพลังอำนาจของประชาชน เลือกผู้แทน ลงประชามติ เลือก ส.ส. ถือว่าเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แล้ว แต่ได้รัฐบาลมาดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ขอให้เราย้อนมองกลับไปกลับมา
         


"ผมเองค่อนข้างเครียดเหมือนกันนะ ในช่วงนี้ก็ทั้งปัญหา ทั้งเตรียมการปฏิรูป ทั้งเตรียมการประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญ อะไรก็แล้วแต่ มันหลายเรืองด้วยกัน แม่น้ำ 5 สาย แล้วก็ปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดิน ก็เยอะแยะ มากมาย" นายกฯ กล่าว
         


นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้เราควรจะต้องพิจารณากันแล้วว่าเราจะต้องมีกลไกอะไรหรือไม่ ที่จะทำให้ประเทศเราผ่านช่วงนี้ไปได้ นั่นแหละคือเหตุผลที่มีความแตกต่าง สำหรับปัญหาของพี่น้องชาวนา รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในความยากลำบาก วันนี้ตนให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อจัดทำ แผนข้าวครบวงจรที่ต้องการให้มีการปลูกข้าว ให้สมดุลกับความต้องการ ได้รับรายงานว่าคณะกรรมการว่า ได้ประมาณการความต้องการข้าวของประเทศอยู่ที่ประมาณ 25 ล้านตันข้าวเปลือก ข้อเสนอสมาคมชาวนา มาตรการช่วยเหลือแบบยั่งยืน ให้คณะกรรมการพิจารณาแล้ว ซึ่งจะเร่งสรุปโดยเร็ว ขออย่าใจร้อน ซึ่งรู้ว่าร้อนเพราะไม่มีสตางค์ แต่ถ้าแก้ไขอะไรด่วนเกินไป ปัญหาก็กลับมาที่เดิม รัฐบาลเป็นห่วงรายได้ ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร รวมความไปถึงผู้ประกอบอาชีพอิสระด้วย พอเศรษฐกิจแย่ รายได้จากธุรกิจเชื่อมโยงก็ลดลงหมด แต่ถ้าทุกคนสู้ ช่วยกันสู้ ช่วยกันทำขึ้นมาหลายๆ ทางก็จะดีขึ้น ถ้ารอการช่วยเหลืออย่างเดียวก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ รัฐบาลก็เต็มกลืนเหมือนกัน ปัญหามันเยอะนะ ...