หนาว ๆ ยังไงไม่รู้ เมื่อได้ยิน "พล.อ.ประยุทธ์" บอกว่า "อย่าลองของ"  ... ก็ออกมา โหดจริง อะไรจริง ??? (มีคลิป)

ติดตามข่าวสาร ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

หนาว ๆ ยังไงไม่รู้ เมื่อได้ยิน "พล.อ.ประยุทธ์" บอกว่า "อย่าลองของ"  ... ก็ออกมา โหดจริง อะไรจริง ??? (มีคลิป)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เสนอให้ปลดล็อคพรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมได้หลังจากมีการลงประชามติในวันที่ 7 ส.ค. 2559 ว่า "เดี๋ยวค่อยว่ากัน ทุกอย่างผมบอกแล้วว่าจะรับไว้ทั้งหมดทุกเรื่อง ส่วนจะทำเมื่อไรเดี๋ยวผมจะตัดสินใจอยู่ อย่างไรก็ตามฝ่ายที่เสนอขอผมมาเช่นนี้ก็ต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจให้ผมบ้าง" เมื่อถามย้ำว่า แต่ข้อเสนอดังกล่าวเป็นในส่วนของสปท. เอง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แล้วสปท. คือใคร จัดตั้งมาจากไหนผมจัดเองทุกพวกหรือ ไม่ว่าจะพวกใครก็อยู่ในนั้นทั้งหมด

        

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของนักการเมืองที่จะมีการหารือกันก็มีการยกเลิกแล้วทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในเมื่อเขายกเลิกไปแล้วสื่อจะมาถามอีกทำไม จะให้เขาทำใหม่หรืออย่างไร วันนี้คสช. ก็ยังไม่ให้หารือ ไม่ให้มีการประชุมพรรคอะไรทั้งสิ้น เมื่อถามย้ำว่า หลังวันที่ 7 ส.ค. เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีการผ่อนปรน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าความประพฤติดีก็ต้องดูก่อน วันนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างหรือยัง ที่ดีก็มีมาก ที่ไม่เปลี่ยนก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงเหมือนเดิม วันนี้อย่าให้ตนแก้ปัญหาเพียงคนเดียว ขอให้แก้ที่ตัวเองกันด้วย

        

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้แผนการสร้างความปรองดองของรัฐบาล และคสช. ยังคงมีอยู่หรือไม่ เพราะช่วงปีที่ผ่านมาดูเหมือนว่าจะถูกเบรคไว้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "เราเคยไปเปิดเวทีเรียกมาก็ยังไม่ฟังกันเลย ทุกคนก็ยังยืนยันอยู่ที่เดิมหมด มันก็ยาก ไม่ใช่ผมเป็นคนไม่ปรองดอง แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องทำกันต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้" เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่ายังไม่มีแผนชัดเจนใช้หรือไม่ จะปรองดองกันอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมขอถามพวกคุณว่า รักกฎหมาย รักกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ และขอถามว่า ทุกคนมีความเชื่อมั่นกับกฎหมายที่มีอยู่หรือไม่ ไม่เชื่อกันเพราะผมบังคับใช้กฎหมายไม่ยุติธรรมหรืออย่างไร พวกคุณไม่เชื่อผมก็เป็นเรื่องของคุณ"

        

เมื่อถามอีกว่าการเคลื่อนไหวของนักการเมืองที่ออกมาในขณะนี้เป็นการลองเชิง คสช. หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ก็ลองสิ ลองไปเรื่อยๆ กฎหมายไม่เข้าใครออกใครอยู่แล้ว ผมใช้กฎหมายที่มีอยู่ให้มากที่สุด ไม่ต่อต้านกฎหมาย และไม่ใช้นอกระบบ ส่วนมาตรา 44 หรือกฎหมายพิเศษ เพื่อให้เกิดความสงบรวดเร็วในการบูรณาการในการบริหารจัดการกับคนที่ดื้อดึงขัดขืน ผิดตรงไหน มีขนาดนี้ยังชักเข้าชักออกกันอยู่เลย แล้วจะต้องมีอะไรกันอีก อย่าเรียกร้องสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หากไม่ร่วมมือกัน ต่อให้ผมทำดีกว่านี้ก็ไม่ได้" 

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวชี้แจงถึงการตั้งศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยทั่วประเทศ เพื่อดูแลการลงประชามติว่า ไม่ได้เป็นการตั้งใหม่ แต่ทางคสช.มีศูนย์ในการรักษาความสงบอยู่แล้ว เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชนทุกจังหวัด กอ.รมน.จังหวัดก็มี โดยกองทัพแต่ละพื้นที่รับผิดชอบ หากมีการกระทำผิดกฎหมายก็นำสู่กระบวนการยุติธรรม ขณะเดียวกันกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้ง และการทำประชามติอยู่แล้ว โดยมีศูนย์ติดตามทำมาตลอด แต่ทั้งหมดนี้เป็นความร่วมมือระหว่างสามส่วนด้วยกันคือ คสช. มหาดไทย และกกต. โดยกกต.มีหน้าที่อำนวยการในคูหาเลือกตั้ง ส่วนมหาดไทยจะอยู่ใกล้คูหา เพราะใกล้ชิดประชาชน ก็จะจัดเจ้าหน้าที่ไปช่วยในการลงประชามติ ส่วนทหาร ตำรวจ พลเรือน จะอยู่รอบนอก ในคูหาไม่เกี่ยว ไม่ใช่เขตทหาร หรือเขตใครทั้งสิ้นกกต.จะเป็นผู้รับผิดชอบ และตนก็ไปเกี่ยวข้องไม่ได้ ถ้าใครไปทำให้เกิดความวุ่นวาย ก็มีกฎหมายอยู่แล้ว หากทำผิดกฎหมายประชามติ ก็นำแจ้งกกต. เพื่อพิสูจน์ว่าผิดหรือถูก ถ้าเกิดความวุ่นวายตีกันคสช.จะดู

        

“ศูนย์ฯนี้มีมาตั้งแต่ 22 พ.ค.2557 ตั้งโดยคำสั่งคสช. คำสั่งกฎอัยการศึกมีมานาแล้ว ดูแลทุกเรื่องที่เป็นเรื่องความสงบปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินของประชาชน และทำหน้าที่มาทุกอัน ไม่ได้แยกว่าส่วนนี้ทำเลือกตั้ง ส่วนนี้ทำประชามติ แต่ดูทุกเรื่องทุกวัน หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมก็นำส่งไป ก็จบแค่นั้น คสช.จะไปเกี่ยวอะไรได้ ขณะที่สว่นของกอ.รมน.ก็มีมาก่อนหน้านี้ ส่วนฝ่ายทหารมีกอ.รมน.จังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผอ.รมน.จังหวัด ดูแลความสงบเรียบร้อยในจังหวัดของเขา จากนั้นก็ขึ้นกับกอ.รมน.ภาค โดยมีแม่ทัพภาคดูแลอยู่ จากนั้นก็เข้าสู่กอ.รมน.ใหญ่ มีนายกฯ เป็นผอ.รมน.ใหญ่ ซึ่งมันมีอยู่แล้วจะไปตั้งอะไรเยอะแยะ ไม่ว่าจะโกง ทะเลาะกัน หรืออะไรต่างๆ หน่วยงานพวกนี้มีหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว ถ้าใครเห็นว่าจะมีการโกงก็หาพยานหลักฐานไปแจ้งศูนย์ที่มีอยู่เพื่อส่งไปสู่กระบวนการยุติธรรม” นายกฯ กล่าว

         

เมื่อถามว่าศูนย์ฯที่มีอยู่จะสร้างความกดดันต่อประชาชนในช่วงทำประชามติหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จะกดดันเรื่องอะไร ก็ไปสร้างความเข้าใจผิดๆ ตนบอกเหรอว่าต้องรับหรือไม่รับ คุณจะรับหรือไม่รับก็เรื่องของคุณ ไม่ใช่เรื่องของตน รัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ตนไม่ได้เป็นคนร่างเอง แต่มีหน้าที่ดูแลให้เกิดความปลอดภัยต่อทุกคน

เมื่อถามว่าเวลานี้มีทั้งคสช. มหาดไทย กกต. ร่วมดูแลสถานการณ์ มั่นใจหรือไม่จะไม่มีใครล้มการทำประชามติได้ นายกฯ กล่าวว่า ต้องไปถามคนล้ม อย่ามาถามตน เพราะไม่ต้องการให้ล้มอยู่แล้ว แต่ตนไม่มั่นใจคนเหล่านั้นที่จะล้ม ก็อย่าลองของ แค่นั้นเอง กฎหมายมีอยู่ ตนจะบังคับใช้กฎหมาย ทำไมจะต้องกังวลไม่กังวล แล้วถามว่าเขากลัวกันไหม ก็เห็นมีคนเดือดร้อนอยู่ไม่กี่คน ก็ไปเชื่อไปตามบิดเบือนเขาอยู่ได้

        

“ผมกดดันคุณหรือเปล่า ผมสั่งคุณว่าให้ไปผ่านหรือไม่ผ่านให้ผมหรือเปล่า คุณก็ไปเขียนวิเคราะห์ ถ้าไม่ผ่านแสดงว่าอยากอยู่ต่อ ปั๊ดโธ่ เขียนกันอยู่นั่นแหล่ะ ต้องมองประเทศชาติว่าจะทำยังไงกันต่อ ผมพร้อมทุกอย่างอยู่แล้ว โร้ดแม็ปก็มีของผมอยู่ แล้วใครหล่ะจะล้มโร้ดแม็ป ผมเองไม่รู้จะตอบยังไง” นายกฯ กล่าว

        

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ผลโพลล์ชี้ว่าประชาชนจำนวนมากยังไม่ทราบวันประชามติที่แน่นอน นายกฯกล่าวว่า พูดมาตลอด ผมพูดทุกวันว่าหน้าที่ของประชาชนคือการลงประชามติ แต่ประชาชนจำนวนมาก60-70% เขาสนใจแต่ปากท้องเขา เขาหาเงินอยู่ เศรษฐกิจก็ยังแย่อยู่ เขาก็ต้องหาเลี้ยงปากท้องเขาเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน ก็แล้วแต่เขา ความผิดของผมหรือ ที่เขาไม่สนใจ จะทำอย่างไรเมื่อเขาไม่สนใจ ผมก็พูด ครูก. ข. ค. ก็มีพูด แต่เขาไม่เข้าใจอีกจะให้อย่างไร เป็นหน้าที่สื่อมวลชนที่จะต้องทำความเข้าใจกับเขา ไม่ใช่อะไรก็โยมาผมหมดทุกเรื่อง

หนาว ๆ ยังไงไม่รู้ เมื่อได้ยิน "พล.อ.ประยุทธ์" บอกว่า "อย่าลองของ"  ... ก็ออกมา โหดจริง อะไรจริง ??? (มีคลิป)

เมื่อถามว่าตรงนี้เป็นเพราะว่าฝ่ายที่รับกับไม่รับ ไม่สามารถออกมารณรงค์ได้อย่างเต็มที่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ก็กฎหมายว่าอย่างไร ก็มีการอธิบายแล้วว่าตรงไหนดีไม่ดี ถ้าเห็นว่าไม่น่าเชื่อ ก็ไม่ต้องไปรับ ก็มีอยู่สิ่งเดียวที่นักการเมืองทุจริตเข้ามาไม่ได้ มีเรื่องเดียวเท่านั้นเอง นั่นคือประเด็น ถ้าอยากให้คนที่ทำความผิด ศาลตัดสินแล้วยังเข้ามาได้อีก ก็ตามใจ

 

เมื่อถามว่าที่ผ่านมีการดำเนินการบางกรณีที่ไม่ผิดกฎหมายประชามติแต่ไปผิดคำสั่งคสช. จะมีผ่อนปรนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ไปดูว่าวัตถุประสงค์การรณรงค์คืออะไร ล้มกับไม่ล้ม แล้วมันผิดกฎหมายประชามติหรือเปล่า ถ้ากกต.บอกไม่ผิด ก็ไปรับผิดชอบกันเอาเอง ถ้าเกิดวุ่นวายกกต.ก็ต้องรับไปแล้วกัน ผมจะค่อยดูอยู่ข้างนอก เป็นเรื่องของกกต. ที่จะบอกว่าไม่ผิดประกาศกกต. แต่ผิดคำสั่งคสช. ทำไมถึงทำเงียบกันไม่ได้หรือ กลัวอะไรนักหนา ไม่ลงประชามติก็จบแล้ว จะลงอะไรก็เรื่องของแต่ละคนไป

        

“มากลัวอะไรผม ผมกดดันอะไร กดดันนักการเมืองใช่หรือไม่ เขาต้องการการเลือกปีนี้ เดี๋ยวนี้ ผมถามว่าแล้วที่เขาทำความเสียหายมา เขารับผิดชอบหรือยัง”

        

เมื่อถามว่ามีโอกาสจะผ่อนคลายคำสั่งคสช.หรือไม่ นายกฯ ตอบสวนทันทีว่า “ไม่มี ยังไม่มี เขามีใครเปลี่ยนแปลงให้ผมหรือไม่ ชื่อเดิมๆมีใครเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือไม่ มีมั้ย ตอบมาสักคน

        

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มติพักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์พีซทีวีเป็นเวลา 30 วันมีผลวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ว่า “ใครปิด กสทช.เป็นคนปิด แล้วมาถามอะไรผม กสทช.เขาเป็นใคร”

        

เมื่อถามย้ำว่าจะทำให้เหตุการณ์ยิ่งดุดันเมื่อรวมกับเรื่องนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ก็เรื่องของเขา เขามีกฎหมายของเขาในการดำเนินการ ถ้าวุ่นวายก็ต้องเป็นหน้าที่ของคสช.

        

เมื่อถามว่าจะทำบานปลายเป็นเหตุการณ์น้ำผึ้งหยดเดียวหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า “ถ้ากล้าออกมาก็ออกมาสิ” เมื่อถามอีกว่าจะมีการผ่อนปรนเหตุการณ์โดยจะจัดให้มีการเซ็นข้อตกลงกันหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ผ่อนปรนในเรื่องอะไร ไม่มีการเซ็นอะไรทั้งสิ้น เซ็นมากี่รอบคุยกันมากี่ครั้ง สัญญากันมากี่ครั้งก็ไม่จบ ไม่เลิก ไม่สัญญาสักอย่าง แล้วไม่ยอมออกจากคุก ประกันก็ไม่ออก แล้วคุณจะผมทำยังไงกับเขา จะให้เชิญหรืออุ้มมาหรือย่างไร คุณก็เป็นปากเสียงให้คนเหล่านี้อยู่ได้”