ฟัง...!!!ครอบครัว "เสี่ยชูวงษ์" เดินหน้าเร่งรัดคดีกับอัยการ เหตุกลัวถูกแทรกแซง (มีคลิป)

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

วันที่ 25 ก.ค. ที่สำนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง 53 นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง และนางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ ซึ่งเป็นภรรยาและพี่สาวของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจใหญ่ด้านรับเหมาก่อสร้าง เดินทางเข้าพบนายสุทธิ กิตติศุภพร อธิบดีอัยการ อาญากรุงเทพใต้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการสั่งคดีที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล อดีตพริตตี้คนสนิทนายชูวงษ์ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์คนสนิท พ.ต.ท.บรรยิน และ น.ส.ศรีธรา พรหมา มารดาของ น.ส.อุรชา ผู้ต้องหาคดีร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ร่วมกันลักทรัพย์ และรับของโจร ซึ่งเป็นหุ้นบริษัทของนายชูวงษ์ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท โดยพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้รวบรวมพยานหลักฐานและสรุปความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 ส่งให้พนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 พิจารณาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 58

นางวันเพ็ญ กล่าวว่า สำนวนคดีโอนหุ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหาตั้งแต่เดือนส.ค.58 และส่งสำนวนให้อัยการแล้ว แต่ขณะนี้จะครบ 1 ปีแล้วทางอัยการยังไม่สั่งคดี ตนจึงมาขอพบอธิบดีอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ เพื่อขอให้เร่งรัดคดี เพราะผู้ต้องหาทั้งหมดก็พ้นกำหนดฝากขังครั้งสุดท้าย ตัวจึงไม่ได้อยู่ในอำนาจของศาล ผู้เสียหายก็มีความวิตกกังวลเป็นธรรมดาว่าอาจจะมีเหตุแทรกแซงการสั่งคดี อีกทั้งผู้ต้องหาก็มีความรู้ด้านกฎหมายเป็นอย่างดีได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมเพื่อยื้อคดี และมีเทคนิคในการข่มขู่ ทำให้ทางครอบครัวต้องระวังตัวมากขึ้น แต่ตนก็พร้อมที่จะขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมสู้คดีด้วย เชื่อว่ามีหลักฐานครบเอาผิดได้ ทั้งนี้ ในเวลา 13.30 น. วันเดียวกันจะไปขอเข้าพบ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริการ อัยการสูงสุด ที่สำนักงานอัยการสูงสุดที่ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ ด้วย เพื่อติดตามคดีทั้ง 2 สำนวน เพราะเกรงอิทธิพลแทรกแซงคดี

 

นางวันเพ็ญ กล่าวอีกว่า คดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน และกองปราบก็ให้เรารวบรวมเอกสารเพิ่มหลังจากที่พ.ต.ท.บรรยินให้ข่าวว่าหุ้นที่โอนมาเป็นเงินของเขา แต่ผลการตรวจสอบหลายรอบก็ไม่พบว่าเป็นเงินของผู้ต้องหา ซึ่งพ.ต.ท.บรรยินไม่เคยนำเงินมาฝากให้นายชูวงษ์ มีแต่เป็นหนี้ทางเรา โดยยืมเงิน 5 แสนบาทให้น.ส.อุรชา ยังไม่คืน และยืมเงินอีก 5 ล้านบาทเพื่อนำไปลงทุน ซึ่งโอนคืนมาให้เพียง 3 ล้านบาท และที่ผ่านมายังขอความช่วยเหลือด้านการลงทุนจากนายชูวงษ์หลายเรื่อง แต่ตนเคยเตือนไป นายชูวงษ์ยังไม่ให้การช่วยเหลือ ส่วนที่มีข่าวว่าตนวิ่งเต้นคดี เพราะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์นั้น ขอเรียนว่าตนไม่ได้เป็นผู้จัดการมรดกและไม่ได้เป็นผู้รับผลประโยชน์จากประกันชีวิตของนายชูวงษ์ มูลค่า 80 ล้านบาท

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พ.ต.ท.บรรยิน ยังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่านายชูวงษ์โดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่ง พ.ต.ท.บรรยิน ถูกจับกุมตัวตามหมายจับที่รีสอร์ท อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนที่จะได้รับอนุญาตจากศาลให้ประกันตัวในวงเงิน 2 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการฝากขังครั้งที่ 3 ที่จะครบกำหนดวันที่ 3 ส.ค.นี้..