เลวยิ่งกว่าสัตว์ คนใจบาปยิงลูกดอกใส่สุนัขตั้งท้อง 8 ชีวิตดับอนาถ พลเมืองดีรุดช่วยสุดกลั้นน้ำตาไหลน้ำตาความเป็นแม่ไหลนอง (มีคลิป)

เมื่อวันที่ 8 ก.ค.60 เพจ แหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์เรื่องราวที่เป็นกระแสในโลกออนไลน์ว่า มีสุนัขถูกลูกดอกยิงอาการสาหัสนอนเจ็บปวดทรมานอยู่ตามลำพังอยู่ในสวนผลไม้ที่สำคัญนั้นสุนัขที่ถูกทำร้ายด้วยลูกดอกได้ตั้งท้องอยู่ด้วย ซึ่งเรื่องนี้จึงถูกถูกตีแผ่ออกมา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2560 วันนั้นมีโพสต์ของคนรู้จักคนนึง บอกว่ามีหมาถูกลูกดอกยิง นอนอยู่ในสวนทุเรียนรอยต่อเขต ต. บ้านนา และ ต. ถ้ำสิงห์ อ. เมือง จ. ชุมพร เราเลยไปขับรถหา ไปเจอมันพยายามยกหัวขึ้นมามอง ร้องแทบไม่มีเสียง น้ำตามันไหลเป็นทาง หายใจรวยริน ปากอ้า ลูกดอกปักติดแน่นแผลมีแมลงวันตอม มีร่องรอยการดิ้นรนวงกว้าง เราและเพื่อนๆ มาช่วยยกมันไปหาหมอ ไม่สนใจละว่ามันจะมีเจ้าของหรือไม่ คิดว่าแค่ผ่าลูกดอกออกคงไม่กี่บาทหรอกมั้ง เราจะช่วยกันแชร์ค่ารักษา และกลับมาประกาศหาเจ้าของ เพื่อส่งมันคืนบ้านต่อไป แต่หมอบอกว่าลูกดอกยิงทะลุกระดูกไปถึงช่องอก มีไข้สูง ติดเชื้อ ข่าวร้ายคือ...ทุเรียนท้องแถมผลเลือดไม่ดี ร่างกายท่อนล่างขยับไม่ได้เลย ต้องนอนรักษานานและหมอจำเป็นต้องส่งไปรักษาต่อที่ โรงพยาบาลสัตว์ 

และเราไม่สามารถหาเจ้าของทุเรียนได้ คนแถวนั้นบอกว่า เจ้าของทุเรียนอาจจะเป็นแรงงานต่างด้าวที่ย้ายไปแล้ว ทุเรียนคือหมาจร!! พวกเราต้องช่วยกันระดมทุนในหน้าเฟส และแอดมินเพจแจ้งเหตุชุมพรอนุญาตให้เราลงเรื่องนี้ในเพจได้เพราะเป็นการกระทำทารุณสัตว์จากฝีมือคน ได้เงินช่วยเหลือมาส่วนหนึ่ง ระหว่างนี้มีนักข่าวท้องถิ่นลงข่าวให้ ฉันแอบดีใจว่ามีคนสนใจเรื่องการทารุณกรรมสัตว์ คิดว่าน่าจะมีหน่วยงานใดได้รับข่าวและลงมาหาข้อมูลในพื้นที่บ้าง แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ คืนวันที่ 10 จึงเป็นคืนที่ เรา หมอโน้ต และคุณจันทร์นิภา ไม่ได้นอนกันเลย หมอต้องเฝ้าทุเรียน เรากับคุณจันทร์ ติดต่อ คุยกัน เกือบทั้งคืน  11 มิ.ย 2560 ทุเรียนถูกนำตัวส่ง โรงพยาบาลสัตว์หัวหิน เราเบาใจที่เขาได้ไปอยู่ในสถานที่ที่มีเครื่องมือพร้อมแต่ในใจทุกคนกังวลว่า ทุเรียนจะพิการหรือไม่ ค่ารักษาจะเพียงพอหรือเปล่า หมอให้ยาเพื่อรักษาชีวิตของทุเรียน และไม่สามารถบอกได้ว่าลูกในท้องของทุเรียนซึ่งมีอยู่ 8 ชีวิตนั้นจะรอดหรือไม่ เป็นสิ่งที่บีบคั้นจิตใจพวกเราอยู่ทุกวัน

ผลการตรวจหมอไม่พบรอยโรคที่ทำให้ทุเรียนอัมพาตท่อนล่างได้ พออาการคงที่ ทุเรียนก็กลับมารักษาที่คลินิกปฐมพรรักษาสัตว์ ที่ชุมพรต่อ โดยมีคุณหมอ และพี่สาวดูแลอย่างใกล้ชิด พวกเราผลัดกันไปเยี่ยม หมอบอกว่าลูกของทุเรียนยังอยู่ และทุเรียนเองก็คงรักลูกเท่าชีวิต ดังนั้นเราจึงรอวันครบกำหนดแล้วค่อยผ่าออก แต่โชคร้ายที่ลูกหมาน้อยไม่สามารถทนต่อความทรมานได้จึงเสียชีวิตในท้องแม่หมดก่อนกำหนดผ่า 4 มิ.ย.2560 เมื่อวานเป็นวันที่หมอตัดสินใจผ่าท้องทุเรียน และเป็นวันที่ควีนลงโพสต์เกี่ยวกับคุณทศพลที่ได้รับรถวีลแชร์จากควีน เราจึงคอมเม้นต์ไปในโพสต์ของควีนว่า ถ้าทุเรียนมีรถอย่างนี้บ้างก็น่าจะดี (อันที่จริงเราเคยติดต่อเรื่องรถไว้บ้างแล้วแต่ราคามันก็สูงนะ สำหรับทุเรียนผู้ไม่มีเจ้าของ) แล้วควีนก็ตอบฉัน....ฉันดีใจมากๆ ควีนมองเห็นเราด้วย!!!
 

แต่ ควีนถามเราว่า ถ้าควีนจะให้รถและค่ารักษาสมทบ เราจะรับดูแลทุเรียนมั้ย  ควีนจ๋า! ใจเราน่ะ เกินล้านนับแต่วินาทีที่ก้าวลงไปหามันในวันแรกแล้วล่ะ พวกเราร่วมสู้กันมากับทุเรียนขนาดนี้ ฉันจะทำยังไง แต่ถ้ามีใครสักคน ที่มีความพร้อมกว่าเรา เราก็ไม่อยากตัดโอกาสของทุเรียน แต่ถ้าไม่มีใครจริงๆ ก็จะทิ้งมันได้อย่างไรกัน คุณจันทร์และแม่ยกคนอื่นๆ ก็รักทุเรียน แต่การดูแลหมาพิการท่อนล่างนั้นมันไม่ใช่เรื่องสนุก เพราะทุเรียนต้องการการดูแลเรื่องการกิน อาบน้ำเช็ดตัว การขับถ่ายบนแผ่นรองซับ รักษาแผลกดทับ ต้องนวดต้องใส่ยา ต้องทำกายภาพอย่างถูกต้อง ต้องมีบริเวณให้เค้าได้ฝึกออกกำลัง ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนเขาถึงจะมีแรงเดินสามารถใช้วีลแชร์ได้ นั่นคือความรับผิดชอบและค่าใช้จ่ายทั้งนั้น

แต่ควีนบอกว่า ต้องไหวสิ เราจะสู้ไปด้วยกัน ตอนที่พิมพ์อยู่นี่ ฉันก็น้ำตาไหลนะควีน ขอบคุณควีนที่เป็นกระบอกเสียงให้แก่สัตวยากไร้ ให้คนที่อยากช่วยเหลือสัตว์ได้รู้ว่า ไม่ได้สู้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ชีวิตทุเรียนควรจะได้รับการตอบแทนที่ดีบ้าง และทุเรียนจะได้รับรู้ว่า แม้จะถูกทำร้ายด้วยน้ำมือของมนุษย์แต่ก็มีมนุษย์ที่มีใจเมตตาและรักทุเรียน ขอบคุณควีนที่สร้างสังคมดีๆให้เกิดขึ้นนะคะ ตอนนี้ควีนได้โอนเงินค่ารักษาทุเรียนก้อนสุดท้ายให้พวกเราแล้ว ติดต่อพี่หลีให้ช่วยจัดทำรถให้ทุเรียน แถมสัญญาเป็นมั่นเหมาะ ว่าควีนและลูกเพจอีกหลายคน จะช่วยกันดูแลทุเรียนไปกับเรา ขอบคุณทุกคนจริงๆค่ะ พวกเราจะดูแลทุเรียนเป็นอย่างดี  #ทีมทุเรียน

ขอบคุณ : แหม่มโพธิ์ดำ