ทักษิณ ดูคอร์นเสิร์ตหน้าตาเฉย!!  ไร้ท่าทีกังวล ขณะที่ "ยิ่งลักษณ์" น้องสาวสุดที่รักยังต้องเผชิญวิบาก กรรมจำนำข้าว

ทักษิณ ดูคอร์นเสิร์ตหน้าตาเฉย!! ไร้ท่าทีกังวล ขณะที่ "ยิ่งลักษณ์" น้องสาวสุดที่รักยังต้องเผชิญวิบาก กรรมจำนำข้าว

      ผ่านพ้นกันไปเป็นที่เรียบร้อย แบบชนิดที่ว่าสดๆร้อนๆ กับการไต่สวนพยานนัดสุดท้าย ของน.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร เมื่อวันที่  21 ก.ค. ที่ผ่านมา ในคดีปล่อยปละละเลยในการกำกับดูแลโครงการ “จำนำข้าว”ซึ่งบรรยากาศหน้าศาลในวันนั้นก็เต็มไปด้วยมวลชนที่มารอให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ กันอย่างท้วมท้น

       และในขณะที่ทางด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์  กำลังเผชิญวิบากกรรม อันหนักหน่วงจากเหตุทุจริตจำนำข้าวตาม นโยบายและสโลแกน "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ"  กลับกัน ทางด้านพี่ชาย เจ้าของความคิดและสโลแกนอย่าง นาย ทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับดูผ่อนคลายไร้กังกังวล สีหน้าแช่มชื่น เที่ยวงานคอนเสิร์ตระดับโลก แบบไม่สะท้านสะทก กับผลกรรมที่น้องสาวอันเป็นที่รักกำลังเผชิญหน้าอยู่เลยเสียนี่กะไร  อันจะเห็นได้จากภาพในอินสตราแกรม ส่วนตัวของน.ส. แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง ลูกสาวนายทักษิณ เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา

ทักษิณ ดูคอร์นเสิร์ตหน้าตาเฉย!!  ไร้ท่าทีกังวล ขณะที่ "ยิ่งลักษณ์" น้องสาวสุดที่รักยังต้องเผชิญวิบาก กรรมจำนำข้าว

 

     วันนี้จึงต้องกลับมาทบทวนกันเสียหน่อยว่า นายทักษิณกำลังคิดอะไรอยู่ ถึงได้ให้น้องสาวอย่างน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ไม่รู้ประสีประสาไม่มีประสบการณ์ด้านการเมือง มาสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อผลักดัน หาวิธีเอาตัวเองกลับบ้าน และในวันนี้น้องสาวผู้เป็นที่รักและไว้ใจ กลับต้องโดนชะตากรรมแบบนี้ นายทักษิณกลับยังอยู่เฉยได้อีก มิหนำซ้ำยังจะไปดูคอนเสิร์ตไม่รู้ร้อนรู้หนาวบางรู้อย่างไร

    สำหรับโครงการรับจำนำข้าว  เป็นหนึ่งในนโยบายจากความคิดของนายทักษิณ ที่ใช้หาเสียงจนสามารถเอาชนะพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งปี54  ต่อมารัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์แถลงต่อรัฐสภาว่า จะดำเนินนโยบายจำนำข้าวทั้งนาปีและนาปรัง โดยข้าวนาปีในฤดูการผลิตปี 2554/2555 เริ่มตั้งแต่ 7 ตุลาคม 2554 ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2555 ของกระทรวงพาณิชย์ 2555

    เมื่อช่วง เม.ย. 55 นายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ถึงนโยบายจำนำข้าวว่า นโยบายจำนำข้าวตันละ 1.5 หมื่นบาทของพรรคเพื่อไทย คือ นโยบายที่ดีและเป็นประโยชนต่อชาวนามากที่สุด

"ต่อให้คิดใหม่กี่ครั้งนโยบายนี้ก็เลิกไม่ได้ เพราะเราต้องการให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวให้เรากินต้องอยู่ได้และควรมีรายได้ขั้นต่ำเพื่อจะได้มีคนปลูกข้าวเลี้ยงเราต่อไป" 

    นายทักษิณ กล่าวต่อว่า นโยบายจำนำของเพื่อไทย ดีกว่านโยบายประกันราคาของประชาธิปัตย์ในรัฐบาลที่แล้วที่ทำงานตามความรู้สึก ไม่รู้จริงว่าทำอย่างนั้นแล้วพ่อค้าคนกลางได้ประโยชน์ และยังทำให้รัฐบาลต้องจ่ายเงินชดเชยแม้กระทั่งกับชาวนาที่ปลูกข้าวไว้กินเองก็ยังได้รับประโยชน์จากการประกันราคา ในขณะที่การจำนำนั้นทำให้เกษตรกรได้เงินทันที
"พวกเขาแฮปปี้มาก มีเงินไปใช้หนี้ได้ แม้ว่าจะถูกหักค่าความชื้นบ้าง และได้ใบประทวนช้างบ้างสักเล็กน้อย" 

    อีกทั้งยั เปิดเผยอีกด้วยว่า นโยบายจำนำข้าว ซึ่งถูกโจมตีว่ามีปัญหาการทุจริตหลายขั้นตอนโดยเฉพาะในด้านการทำลายระบบการค้าข้าวที่ทำให้ราคาส่งออกข้าวไทยไม่สามารถแข่งขันได้กับเวียดนาม อินเดีย เพราะมีต้นทุนสูงขึ้นว่า

    ต่อมา เมื่อช่วงก.ย. 55 หลังจากที่มีการถกเถียงกันอย่างมากในโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล โดยนักวิชาการมองว่าเอื้อให้มีการคอร์รัปชันสูง นายทักษิณ ได้ออกมาย้ำถึงนโยบายจำนำข้าวว่าเดินมาถูกทางและรัฐบาลจะทำโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ราคาข้าวในตลาดโลกสูงขึ้นในที่สุด โดยระบุว่า โครงการรับจำนำข้าวควรจะขยายเวลาดำเนินการต่อไปอีกหลายปี ไม่สนใจเสียงวิจารณ์ ถึงกระแสดังกล่าวจะเพิ่มภาระหนี้หรือเอื้อให้เกิดการคอร์รัปชันมากขึ้นก็ตาม
 
    ระหว่างการให้สัมภาษณ์ที่สิงคโปร์ นายทักษิณ กล่าวว่าที่รัฐบาลรับจำนำข้าวจากชาวนาในราคาที่สูงกว่าตลาดนั้น จะทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงกว่าเงินที่ต้องจ่ายออกไปราว 3 เท่า
 
    "ถ้าหากเราดำเนินการปรับเปลี่ยนกลไกต่อไปอีกสัก 2 ปี สิ่งต่างๆ ก็จะเคลื่อนไหวไปอย่างเป็นธรรมชาติ ราคาข้าวในตลาดโลกก็จะปรับตัวสูงขึ้น"
ที่ผ่านมานายทักษิณเคยออกมาแสดงความเป็นห่วงน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ปรากฏในหน้าสื่อเพียงครั้งเดียว

    22 พ.ค. 58 เว็บไซต์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ของสหรัฐอเมริกา ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอการสัมภาษณ์พิเศษ นายทักษิณ ถึงความรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการตัดสินคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์  โดยกล่าวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เพราะดูเหมือนว่าการพิจารณาคดีในครั้งนี้จะสันนิษฐานไปก่อนแล้วว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์  มีความผิด จึงหวังว่าจะมีการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม

    ขณะเดียวกันหม่อมเต่านาผู้ที่อ้างตัวว่ามีความสนิทสนมกับตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก่อนหน้านี้ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความ จวกนายทักษิณ ถึงขั้นที่ที่ว่า “ถ้าอยากช่วยน้องสาวควรเดินทางกลับมาประเทศไทยได้แล้ว ถึงจะโดนยิงตายเหมือนหมูเหมือนหมาก็ยังได้ใจคนบ้าง”

          วันที่ 25 ต.ค. 59 หม่อมหลวงมิ่งมงคล โสณกุล หรือ หม่อมเต่านา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีระดมทุนช่วยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า "ด้วยความเข้าใจนะคะ แต่รบกวนนิด เราก็บอกชัดแล้วว่าเราจะไม่ร่วมออกเงิน บาทเดียวก็ไม่ออกช่วยนายกปูเรื่องชดเชยจํานําข้าว รบกวนคนอยากทำไปพูดอยู่ที่หน้าคนอื่นด้วย ใครเป็นต้นคิดและจะทำพวกท่านก็ไปคุยกันเองที่หน้าเขานะคะ ขอบอกเป็นครั้งสุดท้าย  ไปคุยกันเองที่หน้าเพจของคนอยากทำขอบคุณค่ะ"   

    นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 59  หม่อมเต่านายังได้กล่าวถึงพฤติกรรมและความเคลื่อนไหวของ นาย ทักษิณ อย่างดุเดือด 
 ระบุว่า ตนขออนุญาตถุยน้ำลายใส่หน้า ดร. นายกทักษิณ แรง ๆ เพราะเป็นคนไร้เกียรติ และกระจอกมาก เอะอะอะไร ก็มาขอร้องประชาชนให้ช่วยโน่นช่วยนี่ ตอนอยากล้มรัฐบาลมาร์คก็ขอร้องชาวบ้านคนที่เขารักและให้ใจท่าน... สไกป์มาขอร้องให้เขาอยู่ต่ออย่าเพิ่งทิ้งไป แต่พอเรื่องสำเร็จ ได้เป็นรัฐบาล อยากจะนิรโทษกรรมแล้ว... ขนาดช่องทีวีของคนเสื้อแดงก็ต้องสั่งปิดโชว์ว่าคุมคนได้

          "ถ้าท่านห่วงน้องท่านจริง ช่วยกลับมา ยืนบนแผ่นดินไทยให้ดูหน่อย โดยไม่มีเงื่อนไข แล้วเขาจะยิงท่านตายเหมือนหมูเหมือนหมาอย่างไร... ก็ยังจะได้ใจคนบ้าง ตัวท่านเองก็เที่ยวเดินสาย โชว์วิสัยทัศน์ด่าไอ้ท่านผู้นำ สอนโน่น สอนนี่เรื่องสิ่งที่ควรจะเป็นไปทั่ว ว่าเศรษฐกิจไทยแย่มาก ๆ ๆ ๆ อ้าว ท่านก็รู้ดีนี่ แล้วในความเหนื่อยล้าฉิบหายของประชาชนรากหญ้าไทยนี่ เขายังต้องมารับฝากดูแลน้องสาวท่านอีกด้วยหรือ ?? รบกวนท่านช่วยจำใส่หัวสมองที่แสนฉลาดของท่านไว้ด้วยว่า ประชาชนทุกคนที่รักเป็นห่วง และทำอะไรให้ ท่านนายกปู น่ะ เขาทำกันเองด้วยใจ ทำให้นายกปู... ไม่ได้ทำเพราะท่าน ท่านมันก็แค่คนหนีคดี ที่มาทำเป็นสอนคนที่ไม่ได้หนีไป ..ทำเป็นขอโน่นขอร้องนี่กับประชาชน สั่งโน่นสั่งนี่ กับลูกน้องท่านที่ท่านสั่งได้ ว่าอย่างงั้นอย่างงี้ก็แค่นั้นเอง นายกปูเข้มแข็ง และมีเกียรติกว่าท่านมาก.."

 

     อย่างไรก็ตามนี่ก็ใกล้จะถึงวันคล้ายวันเกิดของนายทักษิณแล้ว (26 ก.ค.) ก็คงจะต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวก้าวต่อไปของนายทักษิณ ว่าจะออกตัว ช่วยเหลือน้องสาว อย่างน.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือไม่  หรือจะปล่อยลอยแพร่ ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับชะตากรรมแต่เพียงผู้เดียว