ดวงตกแบบสุดๆ!!  หรือพลพรรคเสื้อแดงถึงคราวขาลง?  ตบเท้าเข้า-ออกคุกกันเป็นว่าเล่น

สงสัยจะโดนราหูอม!?!? พลพรรคเสื้อแดงถึงคราวขาลง ดวงตกแบบสุดๆ ตบเท้าเข้า-ออกคุกกันเป็นว่าเล่น

ช่วงนี้จะเห็นได้ว่าสถานการณ์ของกลุ่มเสื้อแดงตอนนี้จะอยู่ในช่วงขาลงสุดๆ โดยเฉพาะกับบรรดาแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ  หรือ นปช. ซึ่งนับแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ไหนจะข่าวคราวแพลมๆมาว่าแก๊งสหพันธรัฐไท ก็เหมือนๆจะแตกคอ ไหนจะเหล่าบรรดาแกนนำก็ต่างพากันเข้า-ออกคุกกันเป็นว่าเล่น

    ล่าสุดก็ถึงคิวแกนนำการเคลื่อนไหว ขวัญใจกลุ่มนปช.อย่างนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือที่รู้จักกันดีในนามหรือ บก.ลายจุด แกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดงที่ทำตัวเป็นนักวิชาการ
ที่เมื่อวานนี้ ( 9 ส.ค.60) ศาลแขวงดุสิตมีนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีของนายสมบัติ เป็นจำเลยในคดีฝ่าฝืนคำสั่งไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาแล้วตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ปรับ 3,000 บาท จำคุก2เดือน โทษจำคุกรอลงอาญาไว้1ปี

ดวงตกแบบสุดๆ!!  หรือพลพรรคเสื้อแดงถึงคราวขาลง?  ตบเท้าเข้า-ออกคุกกันเป็นว่าเล่น

 

แต่เป็นที่ทราบกันดีว่านายสมบัติ ไม่ใช่แกนนำนปช.เพียงคนเดียวที่ต้องเข้าไปใช้ชีวิตในคุกแต่ก่อนหน้านี้

      7 มีนาคม 2560 ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา พนักงานอัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายยศวริศ หรือประมวล ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก แกนนำนปช.ในความผิดฐานดูหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยศาลฎีกาพิพากษายืนให้จำคุกนายยศวริศ 2 ปี ไม่รออาญา

    ต่อมาเมือวันที่21 มีนาคม 2560 ศาลจังหวัดพัทยา อ่านคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ ในคดีที่ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช.กับพวก รวม 18 คน ตกเป็นจำเลยในความผิดฐาน ร่วมกันกระทำการใดๆ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน / มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และความผิดอื่นรวม 4 ข้อหา กรณีรวมตัวประท้วงปิดโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งใช้เป็นสถานที่การประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2552

ดวงตกแบบสุดๆ!!  หรือพลพรรคเสื้อแดงถึงคราวขาลง?  ตบเท้าเข้า-ออกคุกกันเป็นว่าเล่น
 
โดยศาลอุทธรณ์ ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 จำคุกนายอริสมันต์ กับพวกละ 4 ปีเท่าที่โทษศาลชั้นต้นตัดสิน

    นอกจากนี้ ศาลได้สั่งพักคดีในส่วนของจำเลยที่หลบหนี 3 คน คือ พันตำรวจโท เสงี่ยม สำราญรัตน์ / นาย สุรชัย แซ่ด่าน และนางสาว อรวรรณ (ไม่ทราบนามสกุล)
แกนนำนปช.ในคดีนี้ที่ตกเป็นจำเลยทั้ง 13 คน ประกอบด้วย
นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง                  นายนิสิต สินธุไพร
นายพายัพ ปั้นเกตุ                              นายวรชัย เหมะ
นายวันชนะ เกิดดี                               นายพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง
นายศักดา นพสิทธิ์                              พันตำรวจโทไวพจน์ อาภารัตน์
นายนพพร นามเชียงใต้                        นายสำเริง ประจำเรือ
นายสมยศ พรหมมา                             นายแพทย์วัลลภ ยังตรง
และนายสิงห์ทอง บัวชุม

    โดยนายอริสมันต์ยังมีโทษจำคุกอีก 12 เดือน จากการที่ศาลฎีกาพิพากษา เมื่อวันที่21 เม.ย. 2560 ยืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ที่มีคำพิพากษายืนให้จำคุกนายอริสมันต์ รวม 2 กระทงๆ ละ 6 เดือน เป็นจำคุก 12 เดือน จากการหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีปราศรัยปี 52 กล่าวหา สั่งทหารฆ่าประชาชน ปล้นอำนาจจากประชาชน และไม่ดำเนินการตรวจสอบการทุจริตในโครงการต่างๆ อีกด้วย
ต่อมาเป็นคิวของประธานนปช.อย่างนายจตุพร พรมหพันธ์ เมื่อวันที่ 20ก.ค. ที่ผ่านมา ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 1 ปี นายจตุพร ในข้อหาหมิ่นประมาท นายอภิสิทธิ์ เวชช่ชีวะ จากกรณี ปราศรัยที่วัดไผ่เขียวเมื่อปี 2552  กล่าวหามือเปื้อนเลือด สั่งฆ่าประชาชน โดยไม่รอลงอาญา แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานายจตุพรก็เข้าออกคุกอยู่เป็นประจำ อย่างครั้งล่าเมื่อวันที่10 ม.ค. เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ได้ปล่อยตัว นายจตุพร ออกจากเรือนจำทันที หลังศาลอาญาอนุมัติให้ปล่อยตัวชั่วคราว  ในความผิดฐานร่วมกับแกนนำ นปช.รวม 24 คน ก่อการร้าย จากกรณีที่นายจตุพร มีพฤติการณ์กระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราว  

    ขณะที่แกนนำคนอื่นๆ อย่าง นายนพรุจหรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และนพ.เหวง โตจิราการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ต่างล้วนมีชนักติดหลังต่างก็มีโอกาสเข้าคุกกันทั้งนั้น
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายนพรุจ, นายวีระกานต์, นายณัฐ, นายวิภูแถลง, นพ.เหวง กรณีนำผู้ชุมนุมหลายพันคนไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 โดยศาลอุทรณ์พิพากษาให้จำคุกคนละ 2 ปี 8 เดือน

    ทั้งหมดได้ยื่นขอประกันตัว ด้วยหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 500,000 บาท ซึ่งเป็นหลักทรัพย์เดิม และศาลได้อนุญาตให้ประกันตัว และขณะนี้คดียังอยู่ในขั้นตอนของชั้นฎีกา
อย่างไรก็ตามก็ต้องติดตามดูกันต่อไปว่าแกนนำนปช.ที่เหลือจะสามารถสร้างแรงขับเคลื่อนพลันดัน ระดมมวลให้มาชุมนุมตามที่ต้องการได้หรือไม่ แต่อย่างลืมว่า
ชะตากรรมของแกนนำนปช.ในขณะนี้ ได้เดินมาถึงช่วงที่เรียกได้อย่างเต็มปากว่าเป็น “ช่วงขาลง” แกนนำปากกล้าทั้งหลายก็ต่างมีคดีติดตัวคนละหลายๆคดี เตรียมจ่อเรียงคิวกันมา แกนนำบางรายไม่หลบหนี้ไปอยู่ต่างประเทศ ก็ล้มหายตายจากกันไป อย่างพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย แกนนำนปช. ที่ต้องจบชีวิตในต่างประเทศ ความคาดหวังที่จะปลุกระดมมวลชน  “แดงทั้งแผ่นดิน” ในอนาคตคงจะริบหรี่เต็มที่แล้วใช่หรือไม่

 

ดวงตกแบบสุดๆ!!  หรือพลพรรคเสื้อแดงถึงคราวขาลง?  ตบเท้าเข้า-ออกคุกกันเป็นว่าเล่น