บันทึกไว้ตราบนิจนิรันดร์ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" พระราชินีผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก

บันทึกไว้ตราบนิจนิรันดร์ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" พระราชินีผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก

 

บันทึกไว้ตราบนิจนิรันดร์ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" พระราชินีผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก

 

บันทึกไว้ตราบนิจนิรันดร์ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" พระราชินีผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก

 

หากจะหาคำกล่าวใดในโลกหล้าเพื่อมายกย่องเปรียบเทียบพระเกียรติคุณและพระมหากรุณาธิคุณในองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยอย่างครบถ้วนบริบูรณ์นั้น กล่าวได้ว่า "ไม่มี" แล้ว เนื่องด้วยพระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติมาตลอดพระชนมายุ ตั้งแต่ 17 พระชันษา ในฐานะ "สมเด็จพระราชินี" เคียงคู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนนับได้ 67 พระชันษานั้น

บันทึกไว้ตราบนิจนิรันดร์ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" พระราชินีผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก

ได้เป็นที่ประจักษ์ทั้งในหมู่ชาวไทยและชาวต่างประเทศตลอดมา อีกทั้งยังสร้างคุณูปการมากมายมหาศาลแก่ปวงชนชาวไทยในทุก ๆ ด้าน ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจโดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ด้วยพระปรีชาสามารถ พระวิริยะอุตสาหะ ด้วยขันติธรรม และด้วยพระราชปณิธาน ที่มุ่งมั่นต่อประชาราษฎรและแผ่นดินใต้ร่มโพธิสมภารของพระองค์อย่างแท้จริง

บันทึกไว้ตราบนิจนิรันดร์ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" พระราชินีผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก

บันทึกไว้ตราบนิจนิรันดร์ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" พระราชินีผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก

ในการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรแต่ละครั้งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนับแต่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2498 เป็นต้นมา จะต้องมีสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ โดยเสด็จฯแทบทุกครั้งไม่ขาด เคียงข้างพระวรกายอยู่ไม่ห่าง แม้ว่าสถานที่แห่งนั้นจะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ ไม่ว่าจะเป็นป่าทึบหรือเขาสูง ก็ไม่ทรงละเว้น

บันทึกไว้ตราบนิจนิรันดร์ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" พระราชินีผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก

ตลอดเวลาที่ทรงงานมาอย่างยาวนาน ภาพที่เห็นกันชินตาก็คือทรงประทับอยู่ท่ามกลางประชาชนและทรงงานโดยไม่ถือพระองค์ มีราษฎรนั่งอยู่รายรอบ สมเด็จพระนางเจ้าฯทรงแย้มพระสรวล ทรงสนทนาไต่ถามทุกข์สุขของราษฎรอย่างตั้งพระทัย และด้วยพระพักตร์ที่แสดงออกถึงความห่วงใย พระราชปณิธานเกี่ยวกับทางการทรงงานนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เคยมีกระแสพระราชดำรัสไว้ ถึงสาเหตุที่ต้องทรงงานหนัก ความตอนหนึ่งว่า

บันทึกไว้ตราบนิจนิรันดร์ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" พระราชินีผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก

บันทึกไว้ตราบนิจนิรันดร์ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" พระราชินีผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก

"...ความจริงที่ข้าพเจ้ามีกำลังใจและกำลังกายที่จะปฏิบัติหน้าที่รับใช้บ้านเมือง ก็เนื่องด้วยเหตุนึกถึงคำของพ่อที่สอนมาตั้งแต่เล็ก ๆ และก็เมื่อแต่งงาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงสอนตลอดมาว่า แผ่นดินนี้มีคุณ มีบุญคุณแก่ชีวิตของพวกเรามากมายนัก เพราะฉะนั้นชีวิตที่เกิดมานี้อย่าได้ว่างเปล่า จงตอบแทนให้รู้สึกตัวเสมอว่าเป็นหนี้บุญคุณ..."

"...เรามีความสุขแต่ลำพัง โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของคนอีกหลายคนที่แวดล้อมเราอยู่นั้นไม่ได้ ผู้มีเมตตาจิตหวังประโยชน์ส่วนรวมย่อมรู้จักแบ่งปันความสุขเพื่อผู้อื่น และพร้อมที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ของผู้อื่นตามกำลังและโอกาสเสมอ..."

บันทึกไว้ตราบนิจนิรันดร์ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" พระราชินีผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก


พระราชกรณียกิจที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถทรงปฏิบัติมาตลอดพระชนมพรรษาคือ ทรงสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้แก่พสกนิกรที่ยากไร้และขาดโอกาส ดั่งเป็นที่ประจักษ์จากโครงการพระราชดำริต่าง ๆ ที่ทรงริเริ่มและทำมาอย่างต่อเนื่องถึงวันนี้มีมากถึง 3,000 กว่าโครงการ
อาทิ โครงการป่ารักน้ำ, โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่, โครงการหมู่บ้านศิลปาชีพ, โครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง และฟาร์มตัวอย่าง โครงการจัดตั้งธนาคารอาหารชุมชน เป็นต้น จนถึงตอนนี้โครงการต่าง ๆ เหล่านั้นได้เกิดดอกออกผลให้ราษฎรอยู่ดีกินดี และมีชีวิตที่มีคุณภาพมากขึ้น

 

ขอขอบพระคุณแหล่งที่มาของข้อมูล : นิทรรศการพลังแผ่นดิน อัศจรรย์งานศิลป์แผ่นดินสยาม และ เนื้อหาบางตอนจากประชาชาติธุรกิจ