รูดกันมันง่าย...ปัญหาก็เช่นกัน มาดูประโยชน์และปัญหาของการมีบัตรเครดิตกันเถอะ!!

“บัตรเครดิต” กลายเป็นสื่อกลางของผู้ที่ไม่นิยมในการพกเงินสดจำนวนมากๆ เป็นตัวแทนในการชำระเงินที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบัน ซึ่งมาจากแนวความคิดของความต้องการใช้เครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งหรือสื่อกลางอย่างอื่นในการชำระหนี้แทนการชำระด้วยเงินสด ซึ่งในยุคปัจจุบันคงไม่มีใครไม่รู้จัก “ บัตรเครดิต “ นั่นเอง เป็นสิ่งที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมาใช้ในการชำระค่าสินค้าและบริการมีมาแต่โบราณกาลอย่างยาวนานแล้ว โดยสมัยก่อนนั้นเราเริ่มจากการใช้วิธีการแลกเปลี่ยนสิ่งของกันกันและกัน ใช้ของมีค่า เช่น เงินและทองคำ และต่อมาได้มีการพัฒนากลายจนเป็นเหรียญกษาปณ์และธนบัตรในที่สุด ซึ่งอันนี้เป็นสื่อกลางในการชำระหนี้ และยังมีการพัฒนาต่อไปอีกขั้นกลายเป็นบัตรเครดิต และตอนนี้ยังก้าวหน้าเข้าสู่ระบบ อี-คอมเมิร์ช ซึ่งเพียงแค่ใช้นิ้วกดปุ่มบนแป้นพิมพ์เครื่องคอมพิวเตอร์เราก็สามารถเข้าถึงการซื้อสินค้าหรือบริการแล้วนั่นเอง พร้อมทั้งชำระเงินกับผู้ขายที่อยู่ห่างไกลกันได้

มาดูประโยชน์และปัญหาของการมีบัตรเครดิตกันเถอะ

1. ปัจจุบันการขอใช้บัตรเครดิตเดี๋ยวนี้สามารถทำได้ง่ายมาก เพียงแต่ส่งใบสมัครทางไปรษณีย์พร้อมเอกสารประจำตัวนั่นก็คือสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัญชีเงินฝาก เมื่อบริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิตอนุมัติก็จะส่งบัตรเครดิตมาให้ผู้ขอทางไปรษณีย์เช่นเดียวกัน โดยที่ทั้งสองฝ่ายนั้นแทบไม่ต้องพบหน้ากัน อันนี้กลายเป็นช่องทางให้ผู้ทุจริตลักลอบนำเอกสารประกอบคำขอดังกล่าวของคนอื่นนั้นไปใช้ขอบัตรเครดิตอื่นๆได้ จึงต้องระวังการเก็บรักษาเอกสารสำคัญนั้นไว้ให้ดี

2. กรณีการกรอกใบสมัครบัตรเครดิตนั้น หากมีบริการเสริมส่วนอื่นใดที่คุณนั้นไม่ต้องการใช้บริการเพิ่มเติมนอกเหนือจากบัตรนั้น คุณจำเป็นต้องขีดคร่อมข้อความหรือช่องว่างที่ให้กรอกข้อความทิ้ง เช่น การขอให้คนอื่นมีสิทธิใช้บัตรเสริมที่สามารถใช้คู่กับบัตรหลักของเราได้,การขอเบิกหรือถอนเงินสดอัตโนมัติ เพื่อเป็นการปิดช่องทางที่อาจจะทำให้เกิดการทุจริตได้

3. เมื่อบัตรเครดิตนั้นมีการสูญหายหรือถูกขโมยไป ผู้ใช้ยังต้องรับผิดชอบต่อรายการใช้บัตรเครดิตที่เกิดขึ้น จนกว่าจะได้แจ้งอายัดบัตรกับผู้ให้บริการบัตร ดังนั้นเมื่อเกิดกรณีบัตรสูญหายจะต้องโทรศัพท์แจ้งระงับการใช้บัตรโดยทันที เพื่อป้องกันมิจฉาชีพนั้นนำบัตรไปรูดชำระสินค้าอื่นใด โดยที่เจ้าของบัตรไม่ยินยอมนั่นเอง

4. ผู้ใช้บัตรเครดิตนั้น ต้องระมัดระวังอย่างยิ่งในการค้างชำระหนี้อย่าให้กลายเป็นหนี้เสีย เพราะข้อมูลการชำระหนี้เสียจะถูกส่งไปเก็บไว้ที่ศูนย์ประมวลข้อมูลเครดิต หากในโอกาสหน้าที่ต้องทำกิจการเกี่ยวข้องกับการเงินแล้วมีการตรวจสอบพบข้อมูลหนี้เสียหรือการติดเครดิตบูโรได้ ซึ่งจะทำให้เรานั้นไม่สามารถทำสินเชื่ออื่นๆได้นั่นเอง

แม้บัตรเครดิตจะมีประโยชน์มาก แต่เราก็เห็นแล้วว่ามันก็มีข้อที่ทำให้เรานั้นต้องระมัดระวังในการใช้บัตรเครดิตเช่นเดียวกัน เพราะยิ่งสะดวกสบายเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เรานั้นไม่ได้คำนึงถึงการใช้จ่ายมากเท่านั้น การใช้จ่ายที่มากเกินไปนั้น อาจจะทำให้เรานั้นต้องรับภาระหนี้มากโดยไม่มีความจำเป็นได้ เพราะการใช้บัตรเครดิตคือการใช้เงินโดยไม่ได้มีการถือตัวเงิน เหมือนการใช้เงินในอนาคตนั่นทำให้เราอาจจะพลั้งเผลอใช้เงินเกินวงเงินที่เราจะสามารถจ่ายต่อเดือนได้ และนั่นเป็นที่มาของการต้องเสียดอกเบี้ยนั่นเอง ทางที่ดีควรชำระแบบตัดยอดเดือนต่อเดือนจะทำให้เราได้ประโยชน์สูงสุดจากการใช้บัตรเครดิตนั่นเอง