รถหรูเสียหลักพุ่งชนสะพานลอยอย่างจัง!! ก่อนไฟจะลุกทั้งคัน ชาวบ้านเร่งช่วยเหลือคนขับ กู้ภัยเล่าวินาทีเกิดเหตุอย่างระทึก (มีคลิป)

เมื่อคืนที่ผ่านมาช่วงเวลาประมาณ 01.15 น. พ.ต.ท.มานิต จันทร์ประสิทธิ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.วิภาวดี รับแจ้งอุบัติเหตุไฟไหม้รถเบนซ์เสียหลักพุ่งชนสะพานลอยคนข้าม บริเวณปากซอยวิภาวดีรังสิต 9 (ซอยเฉยพ่วง) ถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาออก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมประสานรถน้ำดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยกรุงเทพมหานคร
ซึ่งที่เกิดเหตุนั้นอยู่บนฟุตบาทบริเวณตีนสะพานลอยคนข้ามพบไฟกำลังโหมลุกไหม้รถสปอร์ตหรูยี่ห้อเมอซีเดสเบนซ์ รุ่นซี 200 สีขาว ทะเบียน ทะเบียน 5 กข 134 กรุงเทพมหานคร ที่ประสบอุบัติเหตุเสียหลักพุ่งชนแท่งแบริเออร์ริมฟุตบาทเหินพุ่งชนสะพานลอยคนข้าม จนทำให้ราวสะพานหักลงมาทั้งแถบ นักดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงสามารถดับเพลิงได้สำเร็จ 

           

          

ส่วนคนขับรถเจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.เปาโลพหลโยธิน ไปก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อต่อมา นายภวัต ชัยชนะวิชชกิจ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 185 ซอยอินทามระ 12 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายหักและศรีษะแตก จากการสอบถามนายถนอม ใจนวล อายุ 49 ปี  อาสากู้ภัยวิทยุคลื่นสั้นอาคอม ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังยืนดูทีวีอยู่ที่วินจยย.ปากซอยเฉยพ่วงที่อยู่ใต้สะพานลอยที่เกิดเหตุ ขณะนั้นเองตนได้ยินเสียงรถเบรคอย่างแรง ก่อนเห็นรถเก๋งคันดังกล่าวพุ่งมาทางตน จึงรีบวิ่งหนีหลบอย่างเร็ว ก่อนเห็นรถเก๋งคันดังกล่าวปีนแท่งแบริเออร์ลอยพุ่งชนสะพานลอยคนข้ามอย่างแรงและตกลงมาบนฟุตบาท จากนั้นตนได้เดินไปดูที่รถเห็นคนเจ็บร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด ตนและพลเมืองดีจึงได้นำคนขับออกจากรถ แต่จู่ๆก็มีเปลวไฟลุกไหม้ที่กระโปรงหน้ารถก่อนลุกลามอย่างรวดเร็ว โชคดีที่ช่วยคนเจ็บไว้ได้ทัน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

           

          
 

ด้าน พ.ต.ท.มานิต เผยว่า ขณะนี้นายภวัต คนขับ อาการปลอดภัยแล้วแต่ยังไม่สามารถให้การได้เนื่องจากยังคงตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นจากการสอบถามญาติทราบว่านายภวัตประกอบอาชีพในต่างประเทศซึ่งอยู่ระหว่างรอต่อวีซ่ากลับไปทำงาน จากนี้จะได้ประสานสำนักงานเขตจตุจักรให้เข้าตรวจสอบสะพานลอยคนข้ามที่เสียหายซึ่งมีทั้งเสาหลังคาและราวเหล็กกั้นของสะพานลอย และตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อดูเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุอีกครั้งนึง