ถอดรหัส"กูมีทีม" เปิดตัว "หมอโด่ง" ทีมงาน"บุญทรง"?? คนสนิทเสี่ยเปี๋ยง พบหนีคดี G to G!!??

เมื่อวันศุกร์ ที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่าน โดยวันตัดสินคดีประวัติศาสตร์ทางการเมือง 2 คดีสำคัญ ซึ่งไม่เพียงแต่ คดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ ไม่ได้เดินทางมาศาลี้ โดยแจ้งว่า ป่วยน้ำในหูไม่เท่ากัน ซึ่งนำพามาสู่การออกหมายจับ เลื่อนอ่านคำพิพากษาเป็นวันที่ 27 กันยายน 2560 เวลา 09.00 น. อีกครั้ง 
และสำหรับคดีการทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) มีจำเลยในคดีนี้รวมทั้งสินถึง รวม 28 ราย โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษา ‘จำคุกหนัก’ จำเลยในคดีนี้ 15 ราย สั่งปรับ 2 บริษัทเอกชน ยกฟ้อง 8 ราย และออกหมายจับ 3 ราย ศาลฎีกาฯพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยมีความผิด พิพากษาลงโทษจำคุก
เช่น นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ 36 ปี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ 42 ปี  นายมนัส สร้อยพลอย 40 ปี นายฑิฆัมพร นาทวรทัต 32 ปี นายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง หรือทีปวัชระ 24 ปี มีความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 151 และผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยว

กับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 12 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) มาตรา 123/1ส่วนกลุ่มบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และเครือข่าย เช่น นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร 48 ปี นายสมคิด เอื้อนสุภา 16 ปี นายรัฐนิธ โสจิระกุล 19 ปี  
มีความผิดฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 151 ผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 12 และ พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1 เป็นต้น นอกจากนี้ ในส่วนของบริษัท สยามอินดิก้าฯ นายอภิชาติ และ นายนิมล รักดี (โจ) ให้รวมกันชดใช้เงินจำนวน 1.69 หมื่นล้านบาท 
 

ด้านนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เป็นอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล ของน.ส.ยิ่งลักษณ์  เป็นอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของ นายทักษิณ ชินวัตร และยังเป้นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนายบุญทรง ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึง “เพื่อน” นายสุรนันทน์ระบุว่า...คนส่วนใหญ่วันนี้คงโพสต์ถึงอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
แต่ผมขอโพสต์ถึง "เพื่อน" ผม "บุญทรง เตริยาภิรมย์"
ผมรู้จัก "บุญทรง" ตั้งแต่เราเข้ามาร่วมอุดมการณ์ตั้งพรรคไทยรักไทย ปี 2542-2543 อายุเท่าๆกัน "ฮุก" เกิด 2503 ส่วนผม 2504 คุยกันถูกคอ เราเป็นคนรุ่นเดียวกัน และเป็นรุ่นแรกๆที่เข้ามาทำการเมืองในพรรค ตั้งแต่พรรคไทยรักไทยยังเป็น "วุ้น" ผมรู้สึกว่า "บุญทรง" เป็นคนหนุ่มตั้งใจดี เป็นนักธุรกิจที่อยากเห็นประเทศ เจริญก้าวหน้า เราคุยกันตลอด จัดสัมมนาร่วมกันเพื่อระดมความคิดในการทำ การเมืองในหมู่คนรุ่นใหม่ด้วยกันเราอยากเห็นการเมืองใหม่ อยากเห็นการเมือง ก้าวหน้า และเชื่อว่า "ทักษิณ ชินวัตร"จะเป็นผู้นำที่จะทำให้ความฝันของเรา เป็นความจริง

ริมบ่อริมบึงหลังระดมความคิด ผมนั่งจิบเบียร์กับ "บุญทรง" หลายครั้งหลายหน ผมเชื่อว่าเราเข้าใจตรงกัน ใน ฐานะนักการเมือง "รุ่นใหม่" ในขณะนั้น
ชะตาชีวิตพลิกผัน ปี 2544 ผมเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อ "เพื่อน" เป็น ส.ส. เขต เราคุยกันเสมอ ผมก้าวกระโดดจาก ส.ส. และโฆษกพรรค ปี 2544-2548 เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในปี 2548 แต่ก็ติดต่อกันคุยและประสานงานกับ "เพื่อน" จนรัฐประหาร ปี 2549
จากนั้นก็แตกกระสานซ่านเซ็นกันไป  ได้ข่าว "เพื่อน" อีกทีเป็นเลขานุการส่วนตัวนายกฯ "สมชาย วงศ์สงวัสดิ์" ใจห่วงว่าเพื่อนจะปลอดภัยหรือไม่ ยกหูโทร.คุยกันครั้งหนึ่งเท่าที่จำได้ เพื่อนบอก "ไม่ต้องห่วง"

ส่วนผมนั้นโดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ด้วยเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ได้แต่ช่วยให้กำลังใจอยู่ห่างๆเวียนมาเจอและร่วมงานอีกครั้ง เมื่อ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เป็นนายกรัฐมนตรี ผมเข้ามาเป็น "เลขาธิการนายกรัฐมนตรี" หลังพ้นการตัดสิทธิ์ ปี 2555 "เพื่อน" เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ไปเยี่ยมห้องครัวเพื่อนไฟไหม้ ที่กระทรวง ยังหัวเราะกันอยู่

จน "เพื่อน" เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผมเป็นเลขาธิการนายกฯ ได้เจอกันบ้าง แวะไปคุย เห็นเพื่อนแฟ้มเต็มโต๊ะ ยังเป็นห่วง
"ใครดูให้มึง แต่ละเรื่องน่ากลัว" ผมแอบพลิกแฟ้มดู
"กูมีทีม" แล้วชวนทานข้าวจากโรงอาหาร หน้าห้องสั่งมาให้ ยังคงความเป็นคนง่ายๆ ที่ผมรู้จัก ถึงแม้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่
เวลานายกฯยิ่งลักษณ์ไปต่างประเทศ บางทีได้คุยกัน ได้ปรับทุกข์ผูกมิตรกันมากกว่า อยู่กรุงเทพฯ แต่ในแววตา "เพื่อน" มีความกังวล

ช่วงวิกฤต ผมงานหลายด้าน แต่ก็ไม่วายห่วงเพื่อน ส่งเรื่องจากทำเนียบก็คอย เตือนว่าเรื่องไปแล้่วรีบจัดการ เราเป็นเพียง "เสมียน" ไม่รู้ตื่นลึกหนาบางทั้งหมด แต่รู้สึกเสมอว่าเพื่อน "ไม่สบายใจ"หลังพายุพัดผ่าน รัฐประหารไปแล้ว เคยนั่งจิบไวน์คุยกันสองคน 

ผมถาม "มึงเล่าให้กูฟังหน่อยว่าเรื่องเป็นยังไง" ผมนับถือน้ำใจมันที่ตอบ "กูพูดไม่ได้"
เราร่ำสุราจนดึก แล้วไม่แตะเรื่องนั้นอีกเลย

ทางการเมือง บางเรื่อง "ต้องตายไปกับเรา" พูดไม่ได้ ผมเข้าใจดี และผม "เห็นใจ" เพื่อน ที่ต้องเข้าไปติดกับ "เงื่อนไข" นั้น ผมอาจจะ "โชคดี" กว่า ที่ยังรักษาความเป็นตัวของตัวเองได้ และ "เพื่อน" ไม่ "โชคดี" เท่า
ผมโลดแล่นทางการเมืองมาหลายสิบปี เห็นคนตั้งใจดีโดนกลั่นแกล้งจนถอยไป และเห็นคนที่เริ่มต้นด้วยอุดมการณ์ดี แต่เวลาผ่านไป "เสียคน" ก็เยอะ เอาเป็นว่า หาก "ใจ" ไม่ "นิ่ง" จริง อำนาจทำลายล้างทางการเมือง ทำลายคนได้
ครั้งสุดท้ายที่เจอ "เพื่อน" เมื่อเร็วๆนี้ ก็ได้แต่ "โบกมือ" ทักทายกัน เพราะต่างมี "ภารกิจ" ไม่นึกว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายก่อนคำตัดสินของศาลวันนี้
สาธารณชนอาจจะตัดสิน "บุญทรง" อย่างไรก็ตาม และต่างๆนานา ย่อมทำได้ แต่ผมรู้จัก "บุญทรง" และไม่ว่าจะในสถานะใด จะผิดจะถูกอย่างไร เขาเป็น "เพื่อน" ผมเสมอ ขอให้ "เพื่อน" โชคดีและพ้นวิบากกรรม ผมขอให้กำลังใจ
 

เมื่อถอดรหัสจากคำพูดของนายสุรนันทน์กลับพบประโยค ข้อความต้องสงสัยอยู่หลายเรื่องจากข้อความที่ว่า .."ใครดูให้มึง แต่ละเรื่องน่ากลัว" ผมแอบพลิกแฟ้มดู"กูมีทีม"..คำถามก็คือว่า ทำไมนายสุรนันทน์ถึงพูดว่า  ใครดูให้มึง แต่ละเรื่องน่ากลัว?? ซึ่งมันจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างไร เพราะอะไรทำไมถึงต้องให้คนอื่นมาคอยดูให้ อะไรคือเรื่องน่ากลัว??

ล่าสุดทางแฟนเพจชื่อดังอย่าง Siriwanna Jill - New ก็ได้ออกมาเปิดเผย ผู้ที่คาดว่าเป็นทีมงาน ตามที่นายบุญทรงได้กล่าวกับนายสุรนันทน์ว่า ... " กูมีทีม" คำพูดของบุญทรง ที่ตอบข้อกังวลของ เสี่ยปุ้ม สุรนันท์ "ใครดูให้มึง แต่ละเรื่องน่ากลัว"
ทีมของบุญส่ง คือ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตผู้ช่วยเลขานุการ และอดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็น jigsaw สำคัญ ได้หนีคดีศาลออกหมายจับ จำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว ทันทีที่ที่ศาลฎีกาฯประทับรับฟ้องคดีระบายข้าว G2G อสส ยืนยันว่าหมอโด่ง'หลบหนีไปเขมร ทั้งนี้เพื่อตัดตอนคดี G2G ปลอม เพราะได้รับมอบหมาย ให้เป็นหัวเรือใหญ่ ดูแลรับผิดชอบงานที่เกี่ยวกับเรื่องจำนำข้าวทั้งหมด เป็นตั้งแต่กรรมการ กขช. และเป็นอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องข้าวหลายชุด โดยเฉพาะ กรรมการคณะอนุกรรมการพิจารณาการระบายข้าว การขายข้าว G2G มีมูลค่าถึง 7.05 หมื่นล้านบาท ไม่มีการเปิดเผยราคา ขณะที่ข้าวสารเกือบทั้งหมดนั้นเบิกจากโกดัง และไม่มีการส่งออกจริง
หมอโด่งเป็นคนของเสี่ยเปี่ยง ที่ส่งมาจัดการ คำสั่งหมอโด่งหมายถึง คำสั่งเสี่ยเปี๋ยงซึ่งใกล้ชิด ทักษิณและเจ๊ ด.ที่น่าสนใจ เสี่ยเปี่ยงใกล้ชิดกับ เจ้าสัวหย่าย

ขอบพระคุณคลิปสปริงนิวส์