สุดสลด! ถลกหนังช้างทั้งเป็น ทำยาเครื่องประดับ สินค้าใหม่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่

สุดสลด! ถลกหนังช้างทั้งเป็น ทำยาเครื่องประดับ สินค้าใหม่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่

สุดสลด! ถลกหนังช้างทั้งเป็น ทำยาเครื่องประดับ สินค้าใหม่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ เว็บไซต์ เมล์ออนไลน์ ของอังกฤษเสนอภาพถ่ายสะเทือนใจยิ่งของช้างป่าเชือกหนึ่งในป่าฝนของเมียนมา ซึ่งถูกฆ่าเพื่อนำผิวหนังช้างไปใช้ในการแพทย์และเครื่องประดับแบบใหม่ เนื่องจากเป็นที่ต้องการอย่างมากในจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่ Elephant Family องค์กรการกุศลของอังกฤษ เจอช้างเชือกนี้ขณะติดตามขบวนการลักลอบล่าสัตว์ขณะที่รัฐบาลเมียนมาเผยตัวเลขกรณีการล่าช้างเอาหนังเพียง 4 ครั้ง ในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่แหล่งข่าวไม่เผยชื่อระบุว่า ช้างถูกล่าเอาไปแล้วไม่น้อยกว่า 50 ตัวด้าน ดร. ขิน อู มา ผู้เชี่ยวชาญช้าง กล่าวว่า รู้สึกกังวลเกี่ยวกับการค้ารูปแบบใหม่ โดยเริ่มพบจำนวนผิวหนังช้างตากแห้งมากขึ้นเรื่อยๆการจดทะเบียนครอบครองงาช้างบ้านจึงถูกนำมาใช้ ทั้งเพื่อให้รู้จำนวนการครอบครองงาช้างที่มีอยู่แล้วเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบในอนาคต และเพื่อลดกระแสกดดันจากนานาชาติผ่านทางอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) และกระแสสังคมซึ่งในช่วงหลังๆ มีนักร้องดาราและบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกออกมาเรียกร้องให้ปกป้องช้างใกล้สูญพันธุ์อยู่เนืองๆ โดยหลักการคือภายหลังการจดทะเบียนงาช้างบ้านเสร็จสิ้น หากมีงาช้างเพิ่มขึ้นซึ่งส่วนใหญ่เป็น

สุดสลด! ถลกหนังช้างทั้งเป็น ทำยาเครื่องประดับ สินค้าใหม่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ สุดสลด! ถลกหนังช้างทั้งเป็น ทำยาเครื่องประดับ สินค้าใหม่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ สุดสลด! ถลกหนังช้างทั้งเป็น ทำยาเครื่องประดับ สินค้าใหม่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ สุดสลด! ถลกหนังช้างทั้งเป็น ทำยาเครื่องประดับ สินค้าใหม่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ สุดสลด! ถลกหนังช้างทั้งเป็น ทำยาเครื่องประดับ สินค้าใหม่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ สุดสลด! ถลกหนังช้างทั้งเป็น ทำยาเครื่องประดับ สินค้าใหม่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ สุดสลด! ถลกหนังช้างทั้งเป็น ทำยาเครื่องประดับ สินค้าใหม่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ สุดสลด! ถลกหนังช้างทั้งเป็น ทำยาเครื่องประดับ สินค้าใหม่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่

ช้างแอฟริกา ทางการก็จะสามารถตรวจสอบกับฐานข้อมูลและจับกุมดำเนินคดีได้ง่ายขึ้น

ยังไม่มีใครตอบได้การจดทะเบียนครอบครองงาช้างบ้านจะช่วยลดการลักลอบค้างาช้างในบ้านเราได้มากน้อยเพียงใด เพราะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าแม้การลงทะเบียนงาช้างและผลิตภัณฑ์งาช้างจะเสร็จสิ้นลงเมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา แต่ยังมีข่าวการจับกุมการลักลอบนำเข้างาช้างอยู่เนืองๆ ล่าสุดเมื่อ 27 เมษายนนี้มีกรมศุลกากรจับกุมงาช้างครั้งใหญ่ได้ถึง 511 กิ่ง มูลค่าสูง 200 ล้านบาท ขณะที่ 3 เดือนแรกของปี 2558 ไทยสามารถจับกุมงาช้างได้กว่า 1,302 ชิ้น น้ำหนักรวมกว่า 2,000 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 205 ล้านบาท ส่วนในปี 2557 กรมศุลกากรจับกุมงาช้างได้ 11 คดี รวมประมาณ 50 ชิ้น น้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

การค้างาช้างเป็นกระบวนการข้ามชาติที่ไม่สามารถแก้ปัญหาให้ลุล่วงได้โดยประเทศใดประเทศหนึ่ง ย้อนกลับไปดูในช่วงปีสองปีที่ผ่านมาจะเห็นความเคลื่อนไหวระดับสากลในการสะกัดกั้นการค้างาช้างผิดกฏหมายอย่างต่อเนื่อง แนวทางที่หลายประเทศนำมาใช้คือการทำลายงาช้างที่จับกุมได้ เพื่อไม่ให้งาช้างเหล่านี้หลุดเข้าสู่วงจรการค้าอีกครั้ง

พฤศจิกายน 2556 สหรัฐอเมริกาทำลายงาช้างของกลางจำนวน 6 ตันด้วยวิธีการบดจนละเอียด จากนั้นนำผงงาช้างที่บดละเอียดไปสร้างอนุสาวรีย์เพื่อรำลึกถึงช้างที่ถูกฆ่าตาย ซึ่งทางการผู้รับผิดชอบบอกว่าเป็นการกระทำเชิงสัญลักษณ์เพื่อบอกผู้ค้างาช้างว่า “ฉันจะเอาจริงแล้วนะ”

มกราคม 2557 เมืองกังซู กวางตุ้ง ประเทศจีนบดทำลายงาช้างแท่งและงาช้างแกะสลักจำนวน 6.1 ตัน

กุมภาพันธ์ 2557 ฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกของยุโรปที่ทำลายงาช้างจำนวน 3 ตัน โดยจัดพิธีขึ้นที่บริเวณหอไอเฟล ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ โดยเชิญบุคคลสำคัญของโลก เช่น เจ้าฟ้า

สุดสลด! ถลกหนังช้างทั้งเป็น ทำยาเครื่องประดับ สินค้าใหม่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ สุดสลด! ถลกหนังช้างทั้งเป็น ทำยาเครื่องประดับ สินค้าใหม่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่

ชายชาลส์แห่งอังกฤษ และผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังเดวิด แคเมรอนมาเป็นสักขีพยาน

พฤษภาคม 2557 ฮ่องกงเริ่มต้นทำลายงาช้าง 1 ตันจากจำนวนที่ต้องทำลายทั้งสิ้น 30 ตัน นับเป็นทำลายงาช้างครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ด้วยวิธีบดให้ละเอียดแล้วนำไปเข้าเตาเผาความร้อนสูงจนกลายเป็นเถ้าถ่าน งาช้างเหล่านี้ถูกจับกุมได้ตั้งแต่ปี 2546 ส่วนใหญ่มีต้นทางมาจากทวีปแอฟริกา

10 มีนาคม 2558 เคนยาประเทศต้นทางงาช้างเผางาช้างที่จับกุมได้ภายใน 1 ปี จำนวน 15 ตัน

ในบ้านเรายังไม่มีเคยมีการเผาทำลายงาช้างมาก่อน แม้มีความพยายามขอมติคณะรัฐมนตรีให้เผางาช้างของกลางที่ชำรุด จำนวน 5,000 กิโลกรัม แต่เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2557 คณะรัฐมนตรีมีมติไม่เห็นชอบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเตรียมเสนอเรื่องเข้าไปสู่คณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ปัจจุบันมีงาช้างของกลางในสังกัดกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชประมาณ 5,000 กิโลกรัม และกรมศุลกากรจำนวนกว่า 7,000 กิโลกรัม รวม 1.2 หมื่นกิโลกรัมหรือ 12ตัน มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท โดยปัจจุบันงาช้างขายกันในตลาดมืดกิโลกรัมละ 30,000-50,000 บาท

ขณะที่คนกลุ่มหนึ่งมองว่าการทำลายงาช้างของกลางจะช่วยลดปริมาณงาช้างที่จะเข้าสู่วงจรการค้างาช้าง แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งเห็นแย้งว่ายิ่งลดปริมาณลง งาช้างยิ่งเป็นของหายากราคาแพง ซึ่งจะกระตุ้นให้มีการลักลอบตัดงาและฆ่าช้างมากยิ่งขึ้น

ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่านโยบายใดดีที่สุดจนกว่าจะลองดู บางครั้งนโยบายดีแต่การปฏิบัติและบังคับใช้ไม่มีประสิทธิภาพ คงเป็นเช่นเดียวกับการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพรรณพืชหายากอื่นๆ ที่การปราบปรามอย่างเดียวไม่เพียงพอ เพราะจุดเริ่มต้นความต้องการสินค้ามาจากความเชื่อที่สั่งสมมาจากรุ่นสู่รุ่น เช่น การกินชิ้นส่วนเสือช่วยเสริมพลัง การกินหูฉลามบำรุงร่างกาย ดังนั้นการตัดวงจรการค้าพืชและสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่ได้ผลดีที่สุดก็คือการเปลี่ยนแปลงความเชื่อเดิมหรือสร้างชุดความคิดใหม่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ว่าการกินใช้ชิ้นส่วนของพืชและสัตว์หายากคืออาชญากรรมชนิดหนึ่ง ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องยากแต่ควรค่าแก่ความพยายามเพราะจะส่งผลในระยะยาวสู่คนรุ่นต่อไป

ขอบคุณที่มาเพือนพิทักป่าไทย