"สนธิญาณ" ถอดหรัส!!จดหมายจาก"สุรนันทน์" ถึง "บุญทรง" อาจมี ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง !!?? (เจอดี - มีคลิป)

            เมื่อวันที่ 28 ส.ค.60 คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้ออกมาพูดถึงกรณีที่ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะได้โพสต์เฟสต์บุ๊ค ถึงเพื่นรัก อย่างนายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพานิชย์ ภายหลังจากที่ได้มีคำตัดสินพิพากษาคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ให้จำคุก 42 ปี  เมื่อวันที่ 25 ส.ค.60 ในรายการ คลุกวงในอินไซด์ข่าว  โดยคุณสนธิญาณ ได้มีการวิเคราะห์เอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ ทั้งยังปรากฎปมที่น่าสนใจ อย่างการที่มีใครกันแน่ ที่เป็นคนบงการเรื่องการทุจจริตจำนำข้าว  โดยระบุว่า....

         จดหมายคุณสุรนันทน์ไม่ได้เเค่บอกว่าจะตายไปกับตัวนะ เดี๋ยยวจะมาถอดรหัสให้ฟัง  1 ผมให้ไปติดตามดูเลยนะว่าครอบครัวคุณบุญทรงอยู่ไหน  ครอบครัวเขาไมได้อยู่ไทยนะ   คุณบุญทรงเหมือนกับคนที่ถูกหลอกให้มาฟังคำพิพากษา   เหมือนถูกสร้างกระบวนการทางความเชื่อให้เชื่อว่าคุณยิ่งลักษณ์  จะมาฟัง   เพราะคุถณยิ่งลักษณ์ไม่มีหน้าที่ที่จะหนีเลย แปลความหมายได้่าคุณยิ่งลักษณ์ ตั้งใจที่จะหักหลังคุณบุญทรง  เพราะจำเลยที่ 3  ก็หนีไปนานแล้ว  พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ หมอโด่ง หนีเปิดไปแล้ว  ก็ต้องมาดูว่าหมอโด่งเป็นกลไกลสำคัญ  สนิทกับเสี่ยงเปี๋ยงด้วย   ถามว่าทำไมยิ่งลักษณ์ไม่บอกบุญทรงว่าจะหนี  เพราะมันมากเรื่องมากความ  ถ้ารู้มันก็ไม่มีสิทธิ์ได้หนี  

     

    เดี๋ยวผมจะถอดระหัสจดหมายสุรนันทน์  เอาฉะเพาะบางตอนนะ 1. สุรนันทน์ไปหาบุญทรงแล้วเห็นแฟ้มกองบนโต๊ะเต็มไปหมด  นี่เป็นฉากเเรกนะ  เพราะฉะนั้นจึงถามว่า "ใครดูให้ แต่ละเรื่องน่ากลัว"  คำถามคือความหมายของคำว่า "น่ากลัว"  และสุรนันท์ต้องถามบุญทรงว่า  ใครดูให้เนี่ย  อะไรคือ.. สิ่งที่น่ากลัว  อาจจะคิดไปได้ว่า เพราะบุญทรงมีเรื่องจะต้องติดคุก มันทุจริต  มันคอรัปชั่น ก็ถามว่าใครดูให้  บุญทรงตอบว่า มีทีม   ผมต่อไปอีกนะ  สุรนันท์บอกว่าในช่วงวิกฤต ผมมีงานหลายด้านแต่ไม่วายห่วงเพื่อน  ส่งเรื่องจากจากทำเนียบก็คอยเตือนว่าเรื่องไปเเล้วต้องรีบจัดาร   เราเป็นเพียง "เสมียน"  ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางทั้งหมดแต่รู้สึกเสมอว่า  เพื่อน "ไม่สบายใจ"  

     ความหมายที่สุรนันทน์พูดถึงบุญทรงว่าเราเป็นเเค่เสมียน ทั้งๆ ที่ บุญทรงเป็รรัฐมนตรี มีอำนาจเต็มในการที่จะในบริหารราชการเเผ่นดินในกระทรวงพานิชย์  แต่นายสุรนันทน์เวชชาชีวะ ที่ขณะนั้นเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี บอกว่าบุญทรงเป็ฯเพียงแค่เสมียน  ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง   ก็แสดงว่าต้องมีคนอื่นทำ ในการตื้นลึกหนาบาง  จะเป็นหมอโด่งที่ไนีไปหรือไม่  แต่สาระสำคัญถ้าบุญทรงเป็นเสมียน ก็เเสดงว่า  มีคนบงการอยู่เหนือและ สุรนันทน์ก็รู้สึกได้ว่าการที่บุญทรง ถูกบงการเเบบนี้  ตั้งแต่กูมีทีมดู และแฟ้มกองพะเนิน  และน่ากลัว  มันอย่างไรต่อ  มันไม่ได้ทำเอง เป็นแค่เสมียนเป็นแค่ทางผ่าน  เป็นของใครไม่รู้  ก็ของนายก ยิ่งลักษณ์สิ?  หรือยังมีใครบงการนอกเหนอกว่านี้ และเรื่องอะไรที่ทำให้บุญทรงไม่สบายใจ  เพราะมีการสั่งการ   

ดูต่อ..  หลังจากการรัฐประหาร ก็บอกว่า "มึง เล่าให้กูฟังหน่อยว่าเรื่องเป็ฯอย่างไร  ผมนับถือน้ำใจมันที่บอกว่า กูพูดไม่ได้  การเมืองบางเรื่องต้องตายกันไป ผมเข้าใจดี"   ยังไม่จบนะ  นี้คือประเด็นที่มาพูดกันใหญ่โต  แต่ยังมีต่ออีก  สุรนันทน์กล่าวว่า "เห็นใจเพื่อนที่ต้องเข้าไป ติดกับเงื่อนไข ผมอาจจะโชคดีกว่า ทียังรักษาความเป็นตัวเองไว้ และเพื่อนไม่โชคดีเท่า " สุรนันทน์รักษาความเป็นตัวได้ ใครสั่งให้ทำไรไม่ทำ  แต่บุญทรงโชคไม่ดี  เพราะติดอยู่กับเงื่อนไข ไม่เป็นตัวของตัวเอง   ก็แสดงว่ามีผู้บงการนี่คือสิ่งที่สังคมไทยต้องตามหา  และสาระสำคัญที่สุด คือ คนบงการปล่อยให้บุญทรงติดคุก

    ก็ถามว่านักการเมืองในพรรคเพื่อไทยาคนอื่นๆรู้สึกอย่าวไรกัน เรื่องแบบนี้่เจ็บปวดเเทนบุญทรงเหมือนที่สุรนันทน์ เจ็บปวดไหม  หรือไม่รู้สึก ใครให้เงินมาเลือกตั้งใครเป็นนาย ก็จะดูเเลจะรับใช้ ยืนหยัดต่อสู้เพื่อพรรคเพื่อไทยต่อไป หัวขบวนได้ประโยชน์ต่อไปใครไห้มาเป็นหมื่นๆล้านมันรู้กันทั้งวงการ รู้ถึงการไปจัดการ เงียบฉี่นะคนที่เขาบอกเขารู้เรื่องคนที่อยู่เบื้องหลัง    เพราะฉะนั้นจดหมายของสุรนันทน์ ที่ถึงบุญทรงไม่ใช่เพียงแค่ตายไปกับตัวเอง จดหมายฉบับนี้เปลือยอย่างล่อนจ้อนถึงระบบในพรรคเพื่อไทยว่ามีผู้บงการอยู่และวันนี้ผู้บงการลอยแพบุญทรงเสียแล้ว

    ผมเชื่อว่าวันนี้นักการเมืองในพรรคเพื่อไทยจะคิดและ ท้ายที่สุดนั้นมันทิ้งกันแบบนี้ไม่นับรวมข้าราชการประจำที่มาติดคุก  30 ปี  อยากได้ตำแหน่งมาเป็นเครื่องมือนักการเมือง   แต่นักการเมืองต่อนักการเมืองกันเอง  ก็ต้องย้อนกลับไป บุญทรงที่บอกว่าเป็นนักการเมืองเขาเป็นใคร  เขาเป็น สส. เชียงใหม่ ใครพาเขามาสู่จุดนี้  อันนี้นันทน์บอก  สมัยที่นายสมชาย วงสวัสดิ   เป็นนายกรัฐมนตรี นายบุญทรงเป็นเลขานุการส่วนตัวนะ ต้องถือว่าเป็นคนที่ตระกูล วงสวัสดิ์ ไว้วางใจนะ เพราะไม่อย่างนั้น จะให้มาเป็นเลขาไม่ได้ ง"   คุณสนธิญานกล่าว

     งานนี้เรียกได้ว่าเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจกับทางชั้นผู้น้อยภายในพรรคเพื่อไทยไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งจากนี้ก็ไม่รู้ว่าบรรดาลิ่วล้อจะยังคงไว้ใจเเละจงรักภักดี กับนายหัวใหญ่ ผู้ขับเคลื่อนพรรค ต่อไปหรือว่าจะวางศรัทธา และโบกมือลา ต้องคอยติดตาม