ประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 9/2560 เพื่อพิจารณาวาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจในตำแหน่งระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

วันนี้ (30 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.25 น. ที่ห้องศรียานนท์ อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 9/2560 เพื่อพิจารณาวาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจในตำแหน่งระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)วาระประจำปี 2560

       โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน พล.ต.อ.วินัย ทองสอง พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ นางเมธินี เทพมณี เลขาธิการ ก.พ. ในฐานะคณะกรรมการ ก.ตร.ร่วมประชุม โดยขาดเพียง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.เท่านั้น
 

ก่อนการประชุม ก.ตร.เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 08.30 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ เชิญรอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ หารือนอกรอบ ที่ห้องศรียานนท์ กระทั่งเวลา 08.50 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เดินทางมาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าพักที่ห้องรับรองพรหมนอก ก่อน ผบ.ตร.นำเอกสารเข้าหารือนานกว่า 20 นาที พล.อ.ประวิตรจึงเริ่มการประชุม ก.ตร. ใช้เวลาประชุมกว่า 1 ชั่วโมง
       
       โดยผลการประชุมในตำแหน่งสำคัญนั้น ระดับรองผบ.ตร.ว่าง 2 ตำแหน่ง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ 10) นรต.36 รุ่นเดียวกับ ผบ.ตร.โยกเข้าไลน์ตำแหน่งหลัก เป็น จตช. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ที่ปรึกษา(สบ10) นรต.37 เป็นรอง ผบ.ตร
       
       ระดับผู้ช่วยผบ.ตร. ว่าง 3 ตำแหน่ง พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผบช.สกพ. พล.ต.ท.ชนสิษ วัฒนวรางกูร ผบช.ภ.3 พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม.เลื่อนเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.
       
       ระดับผบช. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 นรต.36 โยกเป็น ผบช.น. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ส. นรต.36 โยกเป็น ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สราวุธ การพานิช รองผบช.ส. นรต.40 เลื่อนเป็น ผบช.ส. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่น ผบช.ภ.7 นรต.36 โยกมา ผบช.สตม. พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบช.สทส. นรต.38 โยกเป็นผบช.ภ.3 พล.ต.ต.สัญชัย สุนทรบุระ รองผบช.สกบ. เลื่อนเป็นผบช.สทส.พล.ต.ต.สุรชัย ควรเตชะคุปต์ รองผบช.น. นรต.36 เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.ภ 4 ส่วนพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.พูนทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบช.ภ.6 อยู่ที่เดิม

พล.ต.ต.ประพันธ์ จันทร์เอม รองผบช.ตชด. นรต.33 ขึ้น ผบช.ตชด. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี รองผบช.น.นรต.34 ที่ ก.ตร.เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 60 ที่ผ่านมา แต่งตั้งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ พิเศษ ตร. แต่ก.ตร.คราวนี้แก้ไข ให้โยก เป็น ผบช.สงป.เช่นเดียว พล.ต.ต.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี รองผบช.ภ.3 นรต.36 ก.ตร.เมื่อวันที่ 27 ก.ค.60 ให้ ขึ้นเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิ พิเศษ ตร. คราวนี้แก้ไขเป็น ผบช.สกบ.

พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี ผบก.ปคบ. พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ ผบก.ทล.ขยับขึ้นรอง ผบช.ก. พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบก.รน. ขึ้นรองผบช.น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. หรือ 191 ขยับขึ้น รองผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบก.น.2 สายตรงพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร. โยก นั่ง ผบก.191 พ.ต.อ.ชัช สุกแก้วณรงค์ นรต.42 ขยับขึ้นเป็น ผบก.ทล. พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส นรต.37 เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ข้ามห้วยมาเป็น ผบก.ป. และพ.ต.อ.ธนพล ศรีโสภา รองผบก.รน.เลื่อนขึ้นเป็น ผบก.รน.

ภายหลังการประชุม พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า วันนี้แต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับผู้บังคับการ ถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้งเลื่อนขึ้นและโยกสลับจำนวน 183 ตำแหน่ง ยืนยันไม่มีการปรับแก้ตำแหน่งข้าราชการตำรวจตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ และผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 55 ตำแหน่งที่แต่งตั้งไปก่อนหน้านี้ โดยตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิใน 55 ตำแหน่งจะมีผลก่อนเพราะจะต้องเกษียณอายุราชการ ส่วนที่เหลือจะมีผลพร้อมกับที่แต่งตั้งวันนี้

ส่วนการแต่งตั้งตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) คนใหม่ที่จะมาแทน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือน ก.ย.นี้นั้นจะต้องพิจารณาว่า ผบ.ตร.จะต้องใช้งานได้เป็นอย่างดี ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไม่ได้แนะนำคนไหนเข้ามาทำงานในแต่ละตำแหน่ง เป็นเรื่องที่ ผบ.ตร.จะต้องจัดทำบัญชีโดยหารือกับรอง ผบ.ตร.

ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เกณฑ์การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะเลือกบุคคลที่ตนเคยทำงานในกองบัญชาการตำรวจนครบาลมาก่อน ซึ่งการตัดสินใจแต่งตั้งในตำแหน่งดังกล่าวไม่ยาก ส่วนตำแหน่งที่ดูแลงานด้านการข่าวก็จะต้องดูตามความเหมาะสม ส่วนภาคอื่นๆ และกองบังคับการปราบปราม กองบังคับการตำรวจสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ (191) มีการพิจารณา หารือร่วมกันหลายคน รวมทั้งรอง ผบ.ตร.สำหรับตำแหน่งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังไม่มีการปรับ เพราะเพิ่งแต่งตั้งไปเมื่อปีที่แล้ว ยังสามารถทำงานได้อยู่ ไม่อยากปรับเปลี่ยนในช่วงนี้ และยอมรับว่ามีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) หลายตำแหน่ง รวมทั้ง ผบช.สตม.เนื่องจากที่ผ่านมาพบปัญหาหลายอย่าง โดยมีการพิจารณาตำแหน่งตามความเหมาะสมกับงานและประสบการณ์ ส่วนการยุบศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ (ศชต.) และการตั้งกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจะต้องรอพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการ หากมีพระราชกฤษฎีกาออกมาแล้วก็จะต้องปรับเปลี่ยนไปตามนั้น