โกงธรณีสงฆ์ตายแล้วตายไปไหน??? ทีนิวส์ลงพื้นที่เจาะลึกตีแผ่กลโกงสนามกอล์ฟอัลไพน์

โกงธรณีสงฆ์ตายแล้วตายไปไหน??? ทีนิวส์ลงพื้นที่เจาะลึกตีแผ่กลโกงสนามกอล์ฟอัลไพน์

สำหรับขั้นตอนการโกงเริ่มต้นจากการทำพินัยกรรมที่ "คุณยาย เนื่อม ชำนาญชาติศักดา" ยกที่ดินที่ที่ภายหลังได้สร้างเป็นสนามกอล์ฟอัลไพน์ ให้กับวัดธรรมิการรามวรวิหารทำเอาไว้เมื่อ 20 พ.ย.2512 มี 3 แปลง อยู่ที่เขตดุสิต 1 แปลง เนื้อที่ราว 2 งาน พร้อมบ้านไม้ 2 หลัง

(ง) ที่ดินโฉนดเลขที่ 20 ตำบลคลองซอยที่ 5 ฝั่งตะวันออก (บึงตะเคียน) อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เนื้อที่ 730 ไร่ 1 งาน 51 วา ข้าพเจ้าขอยกกรรมสิทธิ์ให้แก่วัดธรรมิการามวรวิหาร เป็นแปลงที่ใช้สร้างสนามกอล์ฟอัลไพน์

(จ) ที่ดินโฉนด 1446 อยู่ที่ทุ่งบึงอ้ายเสียบ ตำบลบึงอ้ายเสียบ อำเภอคลองหลวง จังหวัดธัญบุรี (ปทุมธานี) เนื้อที่ 194 ไร่ 1 งาน 24 วา ข้าพเจ้าขอยกกรรมสิทธิ์ให้แก่วัดธรรมิการามวรวิหาร รวม 2 โฉนด 924 ไร่ 2 งาน 75 ตารางวา

โกงธรณีสงฆ์ตายแล้วตายไปไหน??? ทีนิวส์ลงพื้นที่เจาะลึกตีแผ่กลโกงสนามกอล์ฟอัลไพน์

ต่อมาภายหลังคุณยายเนื่อมเสียชีวิตลง จึงเกิดผู้จัดการมรดกขึ้นมา 3 ราย จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ที่ดิน จากชื่อคุณยายเนื่อมไปเป็นที่ของวัดหรือที่ธรณีสงฆ์

ซึ่งขณะเดียวกัน ช่วงนั้นปี 2531 “นายเสนาะ เทียนทอง" มีตำแหน่งเป็น รมช.มหาดไทย รักษาการรมว.มหาดไทย กำกับดูแลกรมที่ดิน โดยเสนาะได้ลงนามในคำสั่ง สั่งการไม่อนุญาตให้วัดธรรมิการามวรวิหารได้มาซึ่งที่ดินทั้ง 2 แปลง เพราะตามประมวลกฎหมายที่ดิน ผู้ใดจะถือครอง ที่ดินของวัดเกิน 50 ไร่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะต้องอนุมัติก่อน

เหตุการณ์ดำเนินมาอย่างพอดิบพอดี มีคนมาขอซื้อที่ดินแปลงนี้กับวัด โดยตัวเจ้าอาวาสวัดธรรมิการามฯ ขณะนั้นอยากขายที่ดินแปลงดังกล่าว แต่ผู้จัดการมรดก3ราย ไม่ยินยอม เจ้าอาวาสในฐานะผู้ที่ถือนิติกรรมของวัด ทำเรื่องขอเปลี่ยนผู้จักดารมรดก จาก 3 ราย มาเป็นมูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัยในวันที่21 สิงหาคม 2533

ในวันเดียวกัน มูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัย ในฐานะ ผู้จัดการมรดก ได้ขายที่ดินทั้ง 924 ไร่ให้บริษัทอัลไพน์ 2บริษัท ในราคา 142 ล้านบาท คือ บริษัท อัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัด และบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต คลับ จำกัด บริษัททั้งสองแห่งมี นางอุไรวรรณ เทียนทอง ถือหุ้นอยู่ 3 แสนหุ้น มูลค่า 30 ล้านบาท, นายวิทยา เทียนทอง ถือหุ้นอยู่ 1.5 แสนหุ้น มูลค่า 15 ล้านบาท, นายชูชีพ หาญสวัสดิ์ ถือหุ้น 1.5 แสนหุ้น

ซึ่งเป็นวันมันเดียวกันอีก ที่ทั้ง2บริษัท นั้นได้นำที่ดินแปลงนี้ไปจำนองในวงเงิน 220 ล้านบาท จากนั้น เมื่อซื้อเสร็จก็นำที่ดินผืนดังกล่าว มาทำสนามกอฟ์ล และบ้านจัดสรร ขบวนการดังกล่าว ถือเป็นการปล้นที่ดินวัดใช่หรือไม่

แต่ฟ้ายังมีตาเมื่อกรมการศาสนา รับทราบถึงขบวนการดังถือว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง ทางกรมการศาสนาจึงได้ทำเรื่องดังกล่าวไปยังกรมที่ดิน จากนั้นกรมการศาสนาและกรมที่ดิน จึงทำเรื่องไปยัง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ตีความกรณีดังกล่าวว่าถูกต้องหรือไม่
ต่อมาสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตีความเรื่องดังกล่าว ไม่ถูกต้อง ด้านอธิบดีกรมที่ดินในขณะนั้น นายประวิทย์ สีห์โสภณ อธิบดีกรมที่ดิน เป็นอธิบดีกรมที่ดิน ต่อจากนายยงยุทธ ได้มีการขอยกเลิกนิติกรรมสัญญา ซื้อขายต่างๆ ทั้งหมด

ประจบเหมาะกับสถานการณ์การเมืองในขณะนั้น นายทักษิณ ชินวัตร อยากจะชวนนายเสนาะ เทียนทอง มาเข้าร่วมพรรคด้วย จะด้วยเหตุผลนี้หรือไม่ก็ตามแต่ นายเสนาะหรือตระกูลของนายเสนาะ จึงได้ขายที่ดินผืนดังกล่าวให้นายทักษิณ จากนายเสนาะก็ได้เข้าร่วมพรรคกับนายทักษิณ จัดตั้งรัฐบาล นายทักษิณได้เป็นนายกรัฐมนตรี

โกงธรณีสงฆ์ตายแล้วตายไปไหน??? ทีนิวส์ลงพื้นที่เจาะลึกตีแผ่กลโกงสนามกอล์ฟอัลไพน์

ขณะเดียวกันที่กระทรวงมหาดไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ขณะดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทยซึ่งรักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย กลับยกเลิกคำสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยอ้างเหตุผลความชอบธรรมของผู้ที่อาศัยในหมูบ้านจัดสรรอัลไพน์
ในเวลาต่อมารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายงยุทธ ก็ได้นั่งเก้าอี้เป็”ฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย” แต่ด้วยจะใช่เหตุผลนี้หรือไม่ ก็การได้มาซึ่งแต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าว ต้องไปถามนายยงยุทธและบุคคลที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนั้นนายธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า หลายปีที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้เสนอความเห็นให้มีการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เพื่อโอนที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามที่นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ทำพินัยกรรมยกให้แก่วัด

เพื่อเป็นการเยียวยาความเสียหายให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบ จึงเป็นที่มาของการออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการยกร่างกฎหมายโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการาม เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2558 ซึ่งต่อมาคณะกรรมการยกร่างกฎหมาย ได้มีคำสั่งลงวันที่ 4 มี.ค.2559
แต่งตั้งคณะทำงานดำเนินการจัดทำร่างกฎหมายโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการาม โดยหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในการจัดทำร่างกฎหมายคือ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และมีผู้แทนของส่วนราชการอื่นเข้าร่วมในการพิจารณาและจัดทำร่างกฎหมายด้วย

โดยขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามได้จัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว และ พศ. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการเสนอร่างกฎหมายได้นำร่างกฎหมายเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ http://www.lawamendment.go.th/…/laws-depa…/item/1116-7-23-60
เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง และวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายก่อนที่จะมีการตรากฎหมาย ในช่วงระหว่างวันที่ 7-23 ส.ค.2560 เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 77 ก่อนที่จะส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

สำหรับร่าง พ.ร.บ.โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์นี้มีจำนวน 5 มาตรา มีเนื้อหาสำคัญที่บัญญัติให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามที่ตั้งอยู่ในโฉนดที่ดิน 2 ฉบับ โฉนดที่ดินฉบับแรกมีเนื้อที่ราว 730 ไร่ โฉนดฉบับที่สองมีเนื้อที่ราว 194 ไร่ รวมเนื้อที่ราว 924 ไร่ ให้แก่มูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัย

ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเนื่อม โดยให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2533 โดยให้ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมและภาษีอากร และให้การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดินและการดำเนินการใดตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดินเกี่ยวกับโฉนดที่ดินทั้ง 2 ฉบับ

ซึ่งได้กระทำลงภายหลังจากที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ดังกล่าวจนถึงวันที่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ให้เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นของตนเองได้ เพราะนางเนื่อมไม่ได้ยกที่ดินให้มูลนิธิ แต่ยกให้แก่วัด มูลนิธิ มีชื่ออยู่ในโฉนดที่ดินได้เพียงในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเนื่อมเท่านั้น แต่ไม่มีสิทธิจดทะเบียนโอนที่ดินให้มาเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง เนื่องจากตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 มาตรา 34
การโอนที่ธรณีสงฆ์จะต้องกระทำโดย พ.ร.บ. จะจดทะเบียนทำนิติกรรมการโอนให้แก่กันเหมือนที่ดินทั่วไปไม่ได้ นอกจากนี้ร่างกฎหมายบัญญัติด้วยว่า ให้การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในที่ดินและการจัดสรรที่ดินใดๆ ที่เกี่ยวกับโฉนดที่ดินทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว
ที่ได้ทำภายหลังจากที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ให้แก่มูลนิธิ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2533 เป็นต้นมา ตามที่ให้มีผลย้อนหลังดังที่กล่าวไป ให้เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายจนถึงวันที่กฎหมายฉบับนี้มีผลใช้บังคับ

ซึ่งจะส่งผลรับรองให้การจดทะเบียนโอนขายที่ดินมรดกจำนวนประมาณ 924 ไร่ ของมูลนิธิให้แก่บริษัททั้ง 2 รวมทั้งการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในที่ดินและการจัดสรรที่ดินใดๆ ที่ทำลงเกี่ยวกับโฉนดที่ดินทั้ง 2 ฉบับ ต่อๆ มาเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายด้วย
นายธนกฤตกล่าวด้วยว่า ถึงแม้จะมีความประสงค์ต้องการเยียวยาความเสียหายให้แก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบและหลีกเลี่ยงความเสียหายที่รัฐและเจ้าหน้าที่รัฐอาจต้องเข้าไปรับผิดชอบ แต่เป็นเรื่องเกี่ยวโยงกับที่ธรณีสงฆ์ ซึ่งเป็นสมบัติของพระศาสนา จึงเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง

โกงธรณีสงฆ์ตายแล้วตายไปไหน??? ทีนิวส์ลงพื้นที่เจาะลึกตีแผ่กลโกงสนามกอล์ฟอัลไพน์

นอกจากจะพิจารณาถึงความเดือดร้อนแล้วจึงควรต้องพิจารณาถึงความสุจริตของผู้รับโอนที่ดินมรดกืด้วย เพื่อให้การเยียวยาให้ความช่วยเหลือมีความเหมาะสมและเป็นธรรมอย่างแท้จริง โดยหากพิจารณาถึงที่ดินที่มูลนิธิจดทะเบียนโอนขายให้แก่บริษัททั้ง 2 แห่งไป มีทั้งส่วนที่นำไปทำเป็นสนามกอล์ฟ และส่วนที่นำไปจัดสรรที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน และมีการปลูกบ้านบนที่ดินให้ประชาชนเข้าอยู่อาศัยแล้ว

"ควรพิจารณาด้วยว่า ผู้รับโอนส่วนใดสุจริต ส่วนใดไม่สุจริตในการรับโอนที่ดินของวัดมาเป็นของตน เมื่อเปรียบเทียบกับการเยียวยาความเสียหายผู้รับโอนทุกรายแบบเหมาเข่ง จึงเป็นข้อที่น่านำมาชั่งน้ำหนักพิจารณาประกอบด้วยว่าแนวทางใดจะเหมาะสมและเป็นธรรมมากกว่ากัน นอกจากนี้ หน่วยงานรัฐและเจ้าหน้าที่รัฐจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีและมีความรับผิดตามกฎหมายด้วยหรือไม่เพียงใด"

นายธนกฤตระบุด้วยว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ควรมีการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะที่กว้างขวางให้ทั่วถึง อย่างรอบคอบและรัดกุมเพียงพอ จากบรรดาผู้เกี่ยวข้องทั้งส่วนราชการและประชาชน การรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์เป็นระยะเวลา 15 วัน
แม้จะถือว่าได้ปฏิบัติตามแนวทางที่มติคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบไว้แล้ว แต่ก็ยังไม่น่าจะเพียงพอ ดังนั้นคงต้องดูกันต่อไปว่ากระทรวงมหาดไทยและ พศ.จะหาแนวทางดำเนินการที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อกรณีนี้อย่างไร

อย่างไรก็ตามสำหรับการทำกฏหมายย้อนหลังแบบนี้ นั้นหมายความว่า สิ่งทำปล้นธรณีสงฆ์ ทำการซื้อค้าด้วยความทุจริตไม่ถูกไม่ต้อง ซึ่งพฤติกรรมบกบ่องอย่างจัดเชน เบ็ดเสร็จภายในวันเดียว "ไตรภูมิกถา" บอกว่า นรกแบ่งออกเป็น 8 ขุมใหญ่ ขุมที่ 1 สัญชีวนรก ("นรกแห่งการเกิดอีกหน") : นรกขุมนี้มีผนังทำจากเหล็กร้อนกั้นรอบด้าน มองไปไม่เห็นขอบ มีอาณาเขตไพศาลยิ่งนัก และทั่วบริเวณมีไฟลุกโชนหาที่ว่างเว้นมิได้เลย ในไฟนรกนี้ปรากฏอาวุธต่างๆ

เช่น หอก ดาบ มีด สัตว์ในขุมนี้จะวิ่งพล่านอยู่บนไฟนรกดังกล่าว เมื่อวิ่งแล้วก็กระทบกับอาวุธเหล่านั้นได้รับบาดเจ็บเป็นนักหนา เมื่อถึงแก่ชีวิตก็ดี หรืออวัยวะขาดไปก็ดี ร่างกายจะกลับมามีพลานามัยสมบูรณ์อีกครั้ง เพื่อให้รับโทษในขุมนี้จนกว่าจะสิ้นโทษ
สัตว์นรกนี้ต้องรับโทษเป็นเวลาสี่พันห้าร้อยล้าน (4,500,000,000) ปีมนุษย์ หรือห้าร้อยปีนรก เหตุที่ทำให้ไปตกในนรกใหญ่ขุมนี้ คือ บาป หรือ อกุศลกรรมที่สัตว์นรกเหล่านั้นกระทำไว้

เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ คือ ได้ฆ่าสัตว์ ทรมานสัตว์ ให้ได้รับทุกขเวทนา ด้วยตนเองบ้าง มอบอาวุธให้คนอื่นทำแทนตนบ้าง เป็นโจรปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์บ้าง บางคนเป็นข้าราชการมีตำแหน่งใหญ่โต แต่ขาดความยุติธรรม กดขี่ข่มเหงชาวบ้าน ใช้หน้าที่โดยมิชอบ

โกงธรณีสงฆ์ตายแล้วตายไปไหน??? ทีนิวส์ลงพื้นที่เจาะลึกตีแผ่กลโกงสนามกอล์ฟอัลไพน์

โกงธรณีสงฆ์ตายแล้วตายไปไหน??? ทีนิวส์ลงพื้นที่เจาะลึกตีแผ่กลโกงสนามกอล์ฟอัลไพน์

ขอบพระคุณแหล่งที่มาของข้อมูลจาก : ป้าติ๋ม (นามสมมุติ) สำนักข่าวทีนิวส์