รื้อคดีคราวนี้ก็ดีเหมือนกัน!! จะได้รู้ถึงเเผนชั่ว"สนธิญาณ" เปิดปมชุมนุมแดง หลอกพาคนมาตาย เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว

         สืบเนื่องจากความชุลมุน ของสองคดีสลายม็อบ ที่ตราตรึงใจชาวไทยทั้งสองม็อบ  เริ่มแรกกันที่ทางฟากฝั่งของ รัฐบาลของคุณสมชาย  วงสวัสดิ์  อดีตนายกรัฐมนตรี  และชาวคณะอันได้แก่  พล.อ.เชาวลิต  ยงใจยุทธ์อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถูกฟ้องในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จากการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดทางให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เข้าประชุมสภาได้ในเช้าวันที่ 7 ต.ค. 2551 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บอีก 471 คน  ซึ่งก็ได้มีการฟ้องร้องและสู้คดีกัน กระทั่งศาลนั้นอนุญาติให้มีการอุทธรณ์ได้เพียง สามคนเท่านั้น แต่คงเหลือไว้ เพียงแค่ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  

                ทีนี้มาดูทางด้านของการสลายชุมนุมแดง ของนายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ กันบ้าง ซึ่งก็โดนฟ้องในฐานความผิด เดียวกันแต่ที่ต่างกันก็คือผลการตัดสิน เมื่อศาลมีการสั่งยกฟ้อง ทั้งคุณอภิสิทธิ์ และ คุณสุเทพ  เมื่อศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีดังกล่าวต้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการไต่สวน รวบรวมพยานหลักฐานและยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มิใช่ดีเอสไอ สรุปสำนวนส่งอัยการคดีพิเศษ ยื่นฟ้องต่อศาลอาญา เนื่องจากคดีนี้เป็นการปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องปฏิบัติตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ว่าด้วย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พศ. 2542 ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำพิพากษามานั้น ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนยกฟ้อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อศาลฎีกา มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ยกฟ้อง เนื่องจากคดีไม่อยู่ในเขตอำนาจศาลอาญาแล้ว คดีถือเป็นที่สุด

             และผลการตัดนี่แหละ ที่นำมาซึ่งความปั่นป่วนเมื่อเหล่าพลพรรคเสื้อแดงต่างก็เห็นว่า แหม่มันช่างไร้ซึ่งความยุทติธรรมเสียเหลือเกิน  ในเมื่อก็เป็นการสลายการชุมนุมเหมือนกัน แถมยังมีคนตายเหมือนกันอีก มันจะมาสั่งยกฟ้อง จะเป็นไปได้อย่างไรกันเล่า    แต่จะว่าไปมันมีบางสิ่งบางอย่างที่แตกต่างกันกันอยู่

                วันนี้ก็เลยจะขอไล่เรียงลำดับเหตุเหตุการณ์เมื่อคราวที่ชุมนุมเสื้อแดงครองเมืองให้ฟังกันสักเล็กน้อย  จะได้พอเข้าใจว่ามีจุดตรงไปไหนที่ต่างกัน  กับคุณ  สนธิญาณ   ชื่นฤทัยในธรรม  ประธานและบรรณาธิการอำนวยการ สำนักข่าวทีนิวส์   ดังที่ได้ฟังกันไปแล้วในคลิปด้านบน

จากคลิปด้านบนที่คุณ สนธิญาณได้เท้าความไปถึงตอนการชุมนุมเมื่อปี 2552 กันไปแล้วว่าเหตุการณ์มันไล่เรียงกันมาอย่างไร ในส่วนของจุดเริ่มต้น  ทีนี้เราจะมาต่อกันที่ การยกระดับความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นไปอีก ถ้าจะเรียกว่า ยกระดับความรุนแรงไหม  อันนี้ไม่แน่ใจ  แต่อยากรู้รายละเอียด คลิกปุ่มเพลย์เลย

 

             มาถึงจุดมูลเหตุอันจะพูดภาษาชาวบ้านได้ว่าเข้าเรื่อง  ชักเริ่มกลมกล่อม เข้าเรื่อยๆแล้ว สำหรับสถานการณ์ชุมนุม ซึ่งคุณสนธิญาณ ได้ชำแหละออกมาเป็นฉากๆ   อย่ามัวรั้งรอ ฟังต่อคลิปถัดไป รับรองถึงความเข้มข้นของสถานการณ์ แน่นอน

        เหตุกาณ์ดูเริ่มมันขึ้นเรื่อยๆ  ความนัย แอบแฝงที่กล่าวเอาไว้ข้างต้นเริ่มจะปรากฏให้เห็นชัดเจน ขึ้น ทุกทีๆ  ถึงความจริงบางอย่าง  แต่ยังไม่หยุดเท่านั้น  เรื่องราวจากนี้ เรียกว่าพลาดไม่ได้  เพราะฉะนั้นคลิกเพลย์คลิปต่ออย่ารอช้า

 

        เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับความเข้มข้นของเรื่องการณ์ชุมนุม  ถึงตรงนี้ไม่แน่ใจว่าแฟนข่าวทีนิวส์ที่กำลัง ติดตามอยู่ขณะจะพอเดาได้หรือไม่ว่า  เมนหลักของเรื่องที่คุณสนธิญาณ กำลังจะสื่อสารให้ได้ทราบกันนั้น  อยู่ที่ตรงไหน  ถ้าพอจะเดาๆได้แล้ว เดี๋ยวไปต่อกันที่คลิปสรุปปิดท้ายสักหน่อย เอาให้แน่ชัดเคลียร์ๆกันไปเลยที่คลิปสุดท้าย

 

     หากไล่เรียงฟังทั้งหมด  ตั้งแต่คลิปเสียงแรกกระทั่งจบคลิปสุดท้าย  คิดว่าแฟนข่าวทีนิวส์ ที่ติดตามคงจะทราบกันแล้วว่า สิ่งใดที่มันแอบแฝงอยู่ ในการชุมนุมเรียกร้อง สิทธิ์? เสรีภาพ? หรืออธิปไตย ใดใดกตามแต่ที่เขาเหล่านั้นอ้างกันขึ้นมา  แท้จริงแล้วเป็นการหลอกมวลชนมาเพื่อสิ่งใดกันแน่   และใครกันแน่ที่ทำให้มวลชนผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ใดใด  ต้องมาสังเวยชีวิตในการชุมนุมครั้งนี้