สวมชุดข้าราชการแอบอ้างยศใหญ่โตไม่ใช่เรื่องตลก!! การสวมชุดแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจะถูกระวางโทษ ทั้งจำทั้งปรับ (รายละเอียด)

      จากกรณี น.ส.พร (นามสมมุติ) เจ้าสาววัย 32 ปี หลอกเจ้าบ่าวให้แต่งงานแล้วหอบสินสอดหนีไป ก่อนถูกออกหมายจับฐานฉ้อโกง โดยต่อมาพบว่าเจ้าสาวรายนี้เคยถูกออกหมายจับในคดีลักษณะเดียวมาแล้วหลายพื้นที่ มีเหยื่อถูกหลอกเดือนเดียว 4 ราย โดยการแอบอ้างชวนทำธุรกิจค้าผลไม้ ก่อนนำไปสู่การจัดงานแต่ง แล้วถูกเชิดเงินหนี ที่ได้นพเสนอไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น   ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้นำตัว น.ส.จริยาภรณ์ หรือน้ำมนต์ หรือพร บัวใหญ่ อายุ 32 ปี สาวที่หลอกผู้ชายแต่งงานและได้เชิดค่าสินสอดไปจนมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากและหลายจังหวัด โดยมีผู้เสียหายที่อยู่ในจังหวัดปทุมธานี ที่น.ส.จริยาภรณ์ หรือน้ำมนต์หรือพร บัวใหญ่ อายุ 32 ปี ไปเช่าบ้านเพื่อแต่งงาน หมู่บ้านไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด รังสิต ถนนรังสิต-นครนายก (คลองสาม) ที่บ้านเลขที่ 99/201 ตําบล ประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี

      ล่าสุดหลังจากที่เป็นประเด็นว่าจับน้องพรได้แล้ว ทำให้สังคมมีการตั้งคำถามว่าเธอไม่น่าจะทำเดียว พ่อแม่เธอน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเมื่อวานที่ผ่านมาในรายการทุบโต๊ะข่าว อมรินทร์ ได้ไปสัมภาษณ์เหยื่อผู้เสียหายที่ถูกครอบครัวน้องพรหลอก โดยมีการะบุโดย นางสาวสุกัญญา ปะระไทย หรือปู อายุ 30 ปี หนึ่งในผู้ที่ถูกนางสาวจริยาภรณ์ หลอกลวง เปิดเผยข้อมูลว่า เมื่อช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม ปี 2555 น.ส.จริยาภรณ์ สีโต หรือนิ่ม ได้ขอเบอร์โทรศัพท์ตนจากเพื่อนอีกคนที่ถูกหลอกเหมือนกับตนมา โดยตัวเธอนั้นก็ยอมรับว่า ตนอยากเข้าทำงานที่เทศบาลดังกล่าวในตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ซึ่งยอมรับว่าตอนนั้นตนสนใจ เพราะตอนนั้นคือตกงาน ไม่มีเงิน เมื่อตนตอบตกลง น.ส.จริยาภรณ์ ก็บอกว่าต้องให้เงินจำนวน 100,000 บาท เพื่อเป็นค่าเข้าทำงาน นอกจากนนี้เพื่อนของเธอนั้นได้มีการได้รับโทรศัพท์ มานัดตนให้ไปหา น.ส.จริยาภรณ์ เป็นเพื่อนเพื่อจะให้เงินแก่น.ส. จริยาภรณ์ จำนวน 7 หมื่นบาท เมื่อไปถึงตนก็เห็นว่า  น.ส.จริยาภรณ์ อยู่กับพ่อแม่และทุกคนก็สวมเสื้อและเครื่องแบบราชการ จึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเองว่าไม่ถูกหลอกแน่ เมื่อเพื่อนตนให้เงินเสร็จ ตนก็บอกน.ส.จริยาภรณ์ว่าตนยังไม่มีเงินแล้วจะทำการโอนเงินให้ภายหลัง แล้วจึงทำการแยกย้าย

    จากการแอบอ้างและสวมชุดข้าราชการจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นทางประมวลกฎหมายอาญานั้นจะต้องถูกระวางโทษดังนี้

มาตรา 145 ผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็น เจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
เจ้าพนักงานผู้ใดได้รับคำสั่งมิให้ปฏิบัติการ ตามตำแหน่งหน้าที่ ต่อไปแล้วยังฝ่าฝืนกระทำการใด ๆ ในตำแหน่งหน้าที่นั้น ต้องระวาง โทษตามที่กำหนดไว้ในวรรคแรกดุจกัน 

มาตรา 146 ผู้ใดไม่มีสิทธิที่จะสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่อง หมายของเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภา จังหวัดหรือสมาชิกสภาเทศบาล หรือไม่มีสิทธิใช้ยศ ตำแหน่ง เครื่องราชอิสริยาภรณ์หรือสิ่งที่หมายถึงเครื่องราชอิสริยาภรณ์ กระทำการเช่นนั้นเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ ต้องระวางโทษ