ฟังชัดๆ"สนธิญาณ" ชี้ "ชินวัตร" ครอบครัวพิเศษ พ่อแม่ลูกโดนคดีหมด- ย้ำ!!“พ่อแม่รังแกฉัน”โยงใยหลานๆ ย้อนอภินิหาร"อุ๋งอิ๊ง"ข้อสอบรั่ว!!??

จากคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ธนาคารกรุงไทย ที่มีมูลค่าสูงถึง 9,900ล้านบาท กับ “กลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ”  โดยคดีนี้เกิดขึ้นในช่วงปี 2555 ยุคที่ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และได้ปรากฏชื่อของ “พานทองแท้ ชินวัตร” บุตรชายนายทักษิณ   ล่าสุดกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีมติให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ส่งผู้แทนเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อออกหมายเรียกนายพานทองแท้ กับพวกรวม 4 คน เข้ารับทราบข้อหาฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน โดยพนักงานสอบสวนได้ส่งหมายเรียกถึงนายพานทองแท้ นางเกศินี จิปิภพ นางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร และนายวัยชัย หงส์เหิน โดยกำหนดให้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 24 ต.ค.นี้

ด้านคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานบริหาร และบรรณาธิการอำนวยการ สำนักข่าวทีนิวส์ ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า..เรื่องนายพานทองแท้ ต้องรอดูวันที่ 24 จะมารายงานตัวหรือไม่มารายงานตัว ? โดยสำหรับกระแสข่าวที่ทนายมาเปิดออกมาเปิดเผยว่ามีการเชื่อมโยงไปที่มูลนิธิรัฐบุรุษ ซึ่งเป็นมูลนิธิของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นการกระทำที่เรียกได้ว่า... แล้วแต่จะนึกเอาแล้วกัน เพราะว่าในเรื่องดังกล่าวมันคนละประเด็นกัน กับเรื่องของนายพานทองแท้ ซึ่งนายวิชัย กฤษดานนท์ มีความสนิทสนมกับพลเอกเปรมมานาน ดังนั้นหากจะมีการบริจาคเงินให้กับมูลนิธิก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ประเด็นมันคนละเรื่องกับเรื่องของกรุงไทย เงินที่มา กว่าจะถึงตัวนายพานทองแท้ที่มีเส้นทางสลับซับซ้อน อย่างไรก็ตามวิธีการที่นำมาสร้างกระแสทำนองดังกล่าวว่ายังไงก็ไม่รอด

โดยคุณสนธิญาณระบุต่อด้วยว่า ...คิดว่าคงจะเป็นตระกูลเดียวในเมืองไทยที่เป็นนายกรัฐมนตรี3 คน คือ พี่ชาย น้องเขย น้องสาว และก็เป็นตระกูลเดียวในเมืองไทยที่จะได้ถูกดำเนินคดีพ่อแม่ ลูก และอา โดยจะว่ายังไงก็ตามแต่ก็ต้องขอยืนยันว่าใช้ศัพท์คำว่า “พ่อแม่รังแกฉัน” จริงๆ ลูกๆของนายทักษิณก็เหมือนกันที่ออกมาโยงใยเรื่องหลานหลาน  จะเล่าให้ฟังเคยได้ยินเรื่องข้อสอบรั่วไหมในปี47 เป็นเหตุการณ์ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะว่าในปีนั้นมีลูกของนายทักษิณ คนหนึ่งที่ชื่อแพทองธารจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่ไม่รู้ว่าจะเชื่อมโยงกันหรือไม่ ซึ่งผลการสอบของแพทองธารปรากฏว่าไม่ผ่านเกณฑ์ซึ่งต่อมากลับว่ามีการแก้ไขเกณฑ์ในการสอบเข้าจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ซึ่งควบคู่กันไปท่ามกลางข่าวลือ. ข้อสอบรั่ว ซึ่งในขนาดนั้น มี ร.ต.อ.วรเดช จันทรศร เลขาธิการ ก.อ.(ในขณะนั้น) ต่อมาก็ถูกตั้งกรรมการสอบและยอมรับว่าเป็นผู้เปิดดูข้อสอบ แต่ไม่ได้เอามาบอกใคร ปรากฏว่าผลการสอบสวนไม่ได้ส่งผลอะไรมากมายนักก็ลงโทษทางวินัยไปเล็กๆน้อยๆในการเปิดดูข้อสอบแต่นางตะเคียนทองทานก็ได้เป็นนิสิตของจุฬาสมกับความตั้งใจของแม่ 

 

 

โดยคะแนนของแททองธารสูงอย่างเป็นที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง เรียกได้ว่าตกตะลึงจากคะแนน 52 เป็น 72 ในวิชาภาษาไทย สังคมจาก 41.25 เพิ่มเป็น67.25 ภาษาอังกฤษ 64 เป็น 84 คณิตสาศตร์ 27 เป็น 63 ไม่เพียงเท่านั้นต่อมา ร.ต.อ.วรเดช ก็ได้มามีตำแหน่งทางการเมือง แต่ท้ายที่สุดก็ได้มาเป็นอธิบดีของมหาวิทยาลัยชินวัตร นี่แค่ยกตัวอย่าง. อีกทั้งยังจำกันได้ไหมตอนที่ศาลตัดสินคดีหน้าของแพทองธารที่เบ้ปากใส่ศาล. ก็เป็นอย่างนี้เพราะฉะนั้นเรื่องของพานทองแท้ถ้าคิดว่าดีเอสไอแกล้ง รัฐบาลพลเอกประยุทธ์แกล้ง ต้องทำแบบนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะอดีตนายกรัฐมนตรีนายสุเทพเทือกสุบรรณอดีตรองนายกรัฐมนตรี. พี่ฟ้องนายธาริตเพียงดิษฐ์อดีตอธิบดีดีเอสไอ