ถึงเวลาชำระคณะสงฆ์ไทย!!..คือ"หัวใจ"ในการรักษาพระพุทธศาสนา หมดยุคตกต่ำของพระพุทธศาสนา!!

  ในห้วงระยะเวลาที่คณะสงฆ์ไทยเข้ามาเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมืองโดยมีวัดพระธรรมกายและทักษิณชินวัตรเป็นตัวละครสำคัญนั้นเป็นยุคตกต่ำของพระพุทธศาสนา!!!!!
         ธรรมกายขยายอิทธิพลด้วยการบิดเบือนหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาเอา เรื่องบุญ(ทาน)มาสอนว่าทำแล้วจะรวย ซึ่งความจริงครึ่งเดียวส่วนอีกครึ่งหนึ่งที่พระพุทธเจ้าสอนคือต้องทำด้วยจิตใจที่เสียสละเป็นจาคะ ไม่ใช่ด้วยจิตใจที่เป็นกิเลสหวังความร่ำรวย!!!!
          เพราะบุญความหมายคือการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์พระพุทธศาสนาสอนให้ชำระล้างกิเลสให้หมดจากจิตใจ แต่คำสอนธรรมกายนั้นกลับเป็นการเพิ่มพูนกิเลส
         เงินทองที่ผู้คนทำบุญมาถูกส่งไปยังวัดต่างๆทั่วประเทศในรูปแบบต่างๆกันทำให้วัดทั้งหลายต้องเสมือนหนึ่งขึ้นต่อวัดพระธรรมกายไม่ต้องนับพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ธรรมกายดูแลอย่างดี!!!!
        ก่อนหน้านี้วัดและพระสงฆ์ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใส่ใจในคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่สอนให้สรรพสัตว์ทั้งหลายก้าวให้พ้นจากบ่วงทุกข์ แห่งวัฏสงสารไปสู่พระนิพพาน!!!!
         แต่กลับสอนให้เพิ่มพูนกิเลสสร้างวัตถุมงคล หาวิธีการมาจูงใจคนให้ทำบุญด้วยหวังผลอย่างหนึ่งอย่างใดบางวัดซ้ำร้ายไปกว่านั้นสร้างเทพเจ้าขนาดใหญ่ขึ้นในวัดเพื่อหวังให้คนมาสักการะวัดก็จะได้ผลประโยชน์ติดตามมา
          มหาเถระสมาคมและวัดพระธรรมกายคุมสำนักพุทธฯซึ่งมีทั้งหน้าที่ส่งเสริมและดูแลงานของพระพุทธศาสนาทั้งวัดและคณะสงฆ์มาตั้งแต่ก่อตั้ง2545 จึงทำให้ไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเองเพราะต้องคอยตอบสนองมหาเถระสมาคมและวัดพระธรรมกายพร้อมทั้งผู้บริหารก็แสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง
จนร่ำรวยไปต่ำตามกัน
ในช่วงที่ภาครัฐดำเนินการกดดันวัดพระธรรมกาย เพื่อคว้านหาตัวพระธัมมชโย ได้มีแต่งตั้งโยกย้ายผอ.สำนักพุทธฯ  โดยอาศัยอำนาจพิเศษ ม.44 ตั้งแต่พ.ต.ท.พงษ์พร พราหมณ์เสน่ห์ เข้ามาเดินหน้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง เดินหน้าตรวจสอบการทุจริตเงินทอนวัด กลับถูกต่อต้านอย่างหนักจากพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่บางรูปในมหาเถรสมาคม บางรูปถึงขั้นออกมาประกาศผ่านสื่อ คว่ำบาตรกันเลยทีเดียว จนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต้องโอนออนผ่อนตามส่งย้าย พ.ต.ท.พงษ์พร!!!!
        แต่ในที่สุด"ฟ้าก็มีตา" พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจย้ายพ.ต.ท.พงษ์พรกลับมาอีกครั้ง!!!

ปรากฏการณ์แปลกๆที่ไม่เคยมีมาก่อนจึงเกิดขึ้น!!!!
       พระพรหมดิลกเจ้าคณะกรุงเทพมหานครได้ออกคำสั่งที่ จค.141 / 2560 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2560 ถึงเจ้าคณะเขตทุกเขตในพื้นที่กรุงเทพฯห้ามติดแผ่นป้ายโฆษณาพระพุทธรูปพระเครื่องวัตถุมงคลพูดอย่างง่ายก็ห้ามทำวัตถุมงคลเพื่อขายกลายๆนั่นเอง เค้าทำไปทำไมเด็กโฆษณาก็ขายไม่ได้
        ต่อมาสมเด็จสนิท พระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เป็นสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก และกรรมการมหาเถรสมาคม ได้ออกคำสั่งที่ 1/2560 ลว. 28 ก.ย.60 เรื่อง ให้พระสงฆาธิการตรวจสอบพฤติกรรมและลงโทษพระภิกษุสามเณรในปกครองที่ประพฤติมิชอบไม่ควรและผิดพระธรรมวินัย ที่สำคัญรวมไปถึงพระตุ๊ด พระกระเทยทั้งหลาย
โดยอาศัยอำนาจตามความในข้อ7(1) ถึง (5)แห่งกฎมหาเถรสมาคม (มส.) ฉบับที่ 23 (พ.ศ.2551) ว่าด้วยการระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ เห็นสมควรให้พระสังฆาธิการตรวจสอบพฤติกรรมและลงโทษพระภิกษุสามเณรในปกครอง ดังนี้ 
1.พระภิกษุสามเณรผู้กระทำการอันละเมิดกฎหมายบ้านเมืองและพ.ร.บ.คณะสงฆ์ให้พระสังฆาธิการดำเนินการตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ หรือประกาศมหาเถรสมาคมที่เกี่ยวข้อง และประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้เข้าดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดกับพระภิกุสามเณรผู้มีพฤติกรรมดังกล่าว 
2. พระภิกษุสามเณรผู้วิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงตนกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความสงบสุขของประชาชน หรือส่อไปในทางยั่วยุ ปลุกปั่น ทำลาย ก้าวร้าวรุนแรง และไม่สร้างสรรค์ให้พระสังฆาธิการกวดขันควบคุม พระภิกษุสามเณรผู้มีพฤติกรรมดังกล่าว มิให้กระทำการเช่นว่านั้น และหากเข้าข่ายละเมิดกฎหมายบ้านเมืองให้ประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด
3. พระภิกษุสามเณรมีความประพฤติเสียหาย หรือไม่เหมาะสม เป็นที่ติเตียนของประชาชนในลักษณะโลกวัชชะ เช่น การแสดงพฤติกรรมไม่สอดคล้องกับเพศกำเนิดของตน การใช้อุปกรณ์สื่อสารผิดกาลเทศะ การไปในสถานที่ไม่สมควรแก่บรรชิต ฯลฯ ให้พระสังฆาธิการกวดขันควบคุมมิให้พระภิกษุสามเณรผู้มีพฤติกรรมดังกล่าวประพฤติตน แสดงออกหรือกระทำการเช่นว่านั้นโดยเด็ดขาด 
4.พระภิกษุสามเณรผู้ใดไม่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย และไม่รักษาเชิดชูพระธรรมวินัยให้เป็นวิถีทางประพฤติปฏิบัติของตน ตลอดจนหมู่คณะให้พระสังฆาธิการกวดขันควบคุมภิกษุสามเณรผู้มีพฤติกรรมดังกล่าว มิให้ประพฤติตนหรือกระทำการเช่นว่านั้น โดยเด็ดขาด และหากเข้าข่ายละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินกระบวนการลงโทษตามพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์โดยเคร่งครัด ทั้งนี้ พระสังฆาธิการรูปใดไม่ดำเนินการหรือย่อหย่อนในการสำรวจ ตรวจสอบ กวดขัน ควบคุมพฤติกรรมหรือลงโทษพระภิกษุสามเณรในปกครอง และไม่จัดการตามกำหมาย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติหรือประกาศมหาเถรสมาคม กับพระภิกษุสามเณรผู้มีพฤติกรรมข้างต้น ย่อมต้องได้รับโทษฐานละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ อนึ่งหากพระสังฆาธิการได้พยายามดำเนินการตามพระธรรมวินัย และตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายคณะสงฆ์ กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ หรือประกาศของมหาเถรสมาคมแล้ว ยังไม่สามารถบังคับการให้เป็นไปตามนั้น ให้เร่งประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอการสนับสนุนและอารักขาจากทางราชการ

        
        ซึ่งคำสั่งดังกล่าวถือเป็นคำสั่งที่ดีแต่น่าแปลกใจคือก่อนหน้านี้ไม่เคยมีคำสั่งอย่างนี้มาก่อน และจะด้วยเหตุผลนี้หรือไม่ก็ตามที่ทำให้เจ้าคุณธงชัยวัดไตรมิตรผู้โด่งดังต้องเก็บของขลังหลบลี้ไป
มีรายงานข่าวว่า มีความเคลื่อนไหวที่วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพฯ โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่กุฏิของ พระพรหมมังคลาจารย์ หรือ เจ้าคุณธงชัย ได้มีการนำวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลังต่างๆที่เป็นของเจ้าคุณธงชัย ขึ้นรถบรรทุกนำออกมาจากวัด  จากนั้นทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังวัดไตรมิตรฯ ได้พูดคุยกับผู้ดูแลวัด ซึ่งทางผู้ดูแลได้แจ้งว่า ทางวัดได้ปิดจำหน่ายการเช่าซื้อวัตถุมงคล โดยให้เหตุผลว่าเป็นการปิดปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งปิดได้ระยะหนึ่ง  แต่ผู้ดูแลได้กล่าวว่า การปิดปรับปรุงพื้นที่เช่าซื้อวัตถุมงคลครั้งนี้ เป็นการปิดแบบไม่มีกำหนดเปิด

แต่อย่างไรก็ตามพระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อยก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำสั่งพระพรหมดิลก ผ่านทางเฟสบุ๊คโดยระบุว่า...
๒ ตุลาคม ๒๕๖๐ข่าวพระพรหมดิลก (เจ้าคุณเอื้อน หาสธมฺโม) วัดสามพระยา เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ออกคำสั่ง ห้ามคณะสงฆ์ในเขตกรุงเทพติดแผ่นป้ายการโฆษณาพระพุทธรูป พระเครื่อง วัตถุมงคล และเทวรูปในที่ต่างๆ พุทธะอิสระขอเพิ่มข้อห้ามอีกซักข้อสองข้อได้ไหมเจ้าคุณ ห้ามมีกิ๊ก และห้ามสะสมกิ๊ก ห้ามมีเงินทอง และห้ามสะสมเงินทอง ห้ามรับสินบน และห้ามไปงานฉลองพัดยศ ข้อห้ามเหล่านี้น่าจะมีคุณูปการแก่พระธรรมวินัยในขณะนี้มากกว่ามั้งเจ้าคุณ หรือว่าเจ้าคุณกลัวถูกย้อนศร
       นับแต่นี้ไปจับตาว่าหลังการกลับมาอีกครั้งของพ.ต.ท. พงษ์พร การเดินหน้าปฏิรูปคณะสงฆ์ จะเป็นอย่างไร ?