เฉียบจริงๆ! "สนธิญาณ"พลิกปูมลากไส้"สหรัฐ" ทุนสามานย์ ดีต่อไทยที่แท้ เพราะ"ผลประโยชน์"!!??

การเดินทางไปสหรัฐอเมริกาของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อพบปะกับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในห้องรูปไข่ ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ในครั้งนี้ เชื่อได้เลยว่า มีหลายคนแทบกระอักเลือด โดยเฉพาะฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะเป็นมวลชนคนเสื้อแดง แกนนำนปช. ที่เคยออกมาพูดจาถากถาง เหยียบหยาม ซ้ำเติม พล.อ.ประยุทธ์ หลังจากการรัฐประหาร ยึดอำนาจ เมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 ว่าไม่เป็นที่ยอมรับของต่างชาติ โดยเฉพาะสหรัฐ

จากนั้นทางคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานบริหาร และบรรณาธิการอำนวยการ สำนักข่าวทีนิวส์ ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอระเด็นดังกล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ไปสหรัฐเที่ยวนี้คนกระอักเลือดเยอะ ฟันธงเลย หนึ่ง!! บรรดาคนเสื้อแดงแกนนำนปช. ไม่เคยออกมาใช้คำว่าเหยียดหยามซ้ำเติมพลเอกประยุทธ์หลังจากรัฐประหารปี57 ว่าต่างประเทศไม่ให้การยอมรับ หรือสหรัฐไม่คบ ซึ่งถามว่าท่าทีเป็นแบบนั้นจริงไหมต้องตอบว่าจริง ต้องถือว่าสหรัฐปฏิเสธและต่อต้านพลเอกประยุทธ์ ถามว่าพลเอกประยุทธ์รู้ไหม ? ตอบเลยว่ารู้และยอมรับ โดยเมื่อตอนต้นปี58 ในเดือนมีนาคม พลเอกประยุทธ์ได้ไปปาฐกถา ที่การประชุมวอร์ตัน โกบอล ฟอรัม ครั้งที่ 47 ในหัวข้อเอเชียในยุคที่โลกไร้พรมแดน เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยคณาจารย์ ศิษย์เก่า นักธุรกิจทั้งไทยและสหรัฐฯ และต่างชาติเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
       
       “ขอให้ไปบอกกับสหรัฐฯ ให้เข้าใจด้วยว่า การตัดเสื้อ จะตัดตัวเดียวแล้วให้ทุกคนใส่ไม่ได้ ต้องมีหลายขนาดให้เหมาะกับแต่ละคน จึงต้องมีช่างตัดให้ จะตัดเสื้อตัวเดียวให้คนทั้งโลกใส่ไม่ได้ เพราะแต่ละประเทศ มีปัญหาต่างกัน แต่หากได้รับการช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ทุกประเทศจะได้รับความเท่าเทียมกัน ร่วมมือกันทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม วันนี้ผมจะไปพูดคุยกับญี่ปุ่น และสมาชิกอีกหลายประเทศ จะมีความร่วมมือหลายมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ ความมั่นคง และสังคมทั้งในและนอกอาเซียน มีอาเซียนบวกสาม จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอาเซียนบวกหก จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย ผมเดินตลาดพวกนี้ได้ทั้งหมด”


พูดภาษาง่ายๆว่า ไม่คบเรา เราก็ไม่คบคุณ คบคนอื่นก็ได้ เพื่อนๆ เราเยอะแยะไป และพลเอกประยุทธ์บอกต่อด้วยว่า “ใครไม่ให้ไป ผมก็ให้รองนายกฯไป "  ซึ่งต้องเรียนแบบนี้หนึ่งต้องชื่นชมพลเอกประยุทธ์ ส่วนตัวก็ขาเชียร์อยู่แล้ว แต่อีกอันหนึ่งบรรดาพี่น้องคนเสื้อแดงหรือคนที่รักทักษิณแล้วก็ฟังไปชื่นชมสหรัฐ ดังนั้นจะเรียนเลยว่านี่เป็นเรื่องที่ผิด..ใช่ว่าจะชื่นชมพลเอกประยุทธ์แต่จะบอกให้ฟัง ว่าสหรัฐคิดอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องผลประโยชน์ ประเทศเขา

คุณสนธิญาณยังกล่าวต่อว่า..ตอนที่พลเอกประยุทธ์เข้ามายึดอำนาจไม่ใช่ทักษิณ ชินวัตร คนเดียวที่กระอักเลือดสหรัฐก็กระอักเลือดย้ำตรงนี้เพราะในช่วงระยะหลัง ตั้งแต่ทักษิณขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี สหรัฐเลือกข้างทักษิณมากกว่าเลือกข้างสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย ในสังคมไทยจะเรียนว่าสหรัฐเริ่มเข้ามามีบทบาทหลังสงครามโลกครั้งที่สองนั่นจึงเป็นบทบาทที่สหรัฐเปิดขึ้นมา เพราะ ก่อนสงครามโลกสหรัฐไม่ได้เป็นมหาอำนาจ ก่อนหน้านั้นมหาอำนาจของโลกคืออังกฤษและฝรั่งเศส. ยึดของไปหมดอังกฤษได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ พระอาทิตย์ไม่ตกดิน. ส่วนฝรั่งเศสมาแบ่งกันคนละข้างตะวันออกกลางอังกฤษก็ไล่เรียงมาจนถึงอินเดียพม่า. มาเลเซียฝั่งตะวันออกลาวเขมรเวียดนามจีน จีนเนี่ยหลายประเทศรุมโต๊ะหน่อย หลังสงครามโลกครั้งที่สองเนื่องจากว่าเรา จอมพล ป จะพาไปเข้าาข้างกับญี่ปุ่นกับเยอรมัน ซึ่งมีเหตุผลเพราะก่อนหน้านี้ฝรั่งเศสกดขี่ข่มเหงเรา. มาแบ่งเฉือนดินแดนเรา ทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษเราเสียดินแดนไป 10 กว่าครั้ง จอมพล ป ก็โกรธแค้นจึงส่งกองทัพรบกับฝรั่งเศส เป็นสงครามอินโดจีน ระหว่างสงครามโลก  แถบลาวเขมรขึ้นมาบางส่วนชัยชนะของจอมพล ป จากนั้นจึงได้มาก่อตั้งอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่มาของสงคราม หลังจากนั้นปรากฏว่าเราแพ้สงคราม แต่ระหว่างแพ้สงครามเราก็มีคุณูปการ เพราะมีผู้คนอีกจำนวนหนึ่งในประเทศที่อาจารย์ ปรีดีพนมยงค์ ตั้งคณะเสรีไทยขึ้น ในสหรัฐมีหม่อมราชวงศ์เสรีปราโมทย์ ในอังกฤษมีอาจารย์ป๋วยและคณะ หลายท่านรวมทั้งพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระราชินีในรัชกาลที่เจ็ด เพราะเป็น เสรีไทยก็รวมกัน. เพราะฉะนั้นเมื่อแพ้สงครามแต่เราบอกไม่แพ้เพราะ เสรีไทยก็เตรียมต่อต้าน อักษะอยู่มี สหรัฐเข้ามาหนุนเรา. เพราะสหรัฐอยากมีบทบาทแทนอังกฤษ ช่วงนั้นเราก็มีความผูกพันกับสหรัฐลึกซึ้งตั้งแต่นั้น และหลังจากนั้นสหรัฐก็เข้าแทรกแซงไทยมาโดยตลอดพร้อมกับเกิดสงครามเย็นขึ้น สงครามระหว่างสหรัฐและประเทศโลกเสรี มีคอมมิวนิสต์ร่วมด้วย สิ่งใดเกิดแบ่งแยกแตกแยกเป็นสองฝั่งสองฝ่าย หลังสงครามโลกครั้งที่สองรัสเซียซึ่งได้เปลี่ยนเป็นประเทศที่ โดยเลนิล กวาดเอายุโรปตะวันออกทั้งหมดทั้งหมดรวมทั้ง รวมทางเยอรมันแบ่งครึ่งหลังจากแพ้สงคราม. สร้างกำแพงเบอร์ลินขึ้น

 

 

โดยสหรัฐเข้าแทรกแซง จะเล่าให้ฟังสำหรับผู้ที่ชื่นชอบทักษิณคนเสื้อแดงและไปโอ๋สหรัฐ โดยก่อนหน้านี้สหรัฐไปสนับสนุนพลตำรวจเอก เภา สารสิน  สหรัฐสนับสนุนจอมพลสฤษดิ์ สนับสนุนทหารให้ยึดอำนาจเป็นเผด็จการมาโดยตลอด  ก่อนหน้านี้สหรัฐถึงขนาดมาเขียนแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมให้ไทยเป็นฉบับภาษาอังกฤษ เราเอามาใช้อยากให้ประเทศเราไปเป็นประเทศอุตสาหกรรมพัฒนาเพื่อจะต้านคอมมิวนิสต์สร้างระบบทุนขึ้นแทรกแซงทุกเรื่อง กองทัพต้องซื้ออาวุธจากสหรัฐทั้งหมด พลเอกชวลิตใครจะว่ายังไงก็ตามแต่ เรื่องนี้มีประเด็นคือวันดีคืนดีก็ไปหาจีน ซึ่งสหรัฐก็ผ่อนคลายลงหลัง 14 ตุลา และสหรัฐได้ข้อสรุปเรื่องประเทศไทยสถาบันที่แข็งแกร่งที่สุดคือสถาบันพระมหากษัตริย์โดยนับแต่นั้นสหรัฐก็มุ่งเข้าหาสถาบันพระมหากษัตริย์มาคลายตอนที่ ทักษิณ ไอ้กลุ่มทุนสามานย์ที่เข้ามาผูกกับทักษิณที่ผ่านประธานาธิบดีบุช ต้องการที่จะเข้าครอบงำธุรกิจเราเละเพราะ กลุ่มทุนสามานย์เข้าโจมตีเงินบ้านเราจนประเทศเราวินาศสันตะโรใช้บริษัทต่างๆใช้ธนาคารมายึดบริษัทใหญ่ใหญ่ทั้งหมดในประเทศไทยนั้นเป็นแผนของสหรัฐทั้งสิ้นจากกลุ่มทุนสามานย์เพื่อองค์การหลังรัฐบาลสหรัฐ

มาถึงพลเอกประยุทธ์ยึดอำนาจ. ที่บอกว่าช้ำใจมากในข้างต้น ฑูตผู้หญิงที่ชื่อคริสตี้จนมาถึงกลิน เดวีส์ ทั้งสองคนนี้ออกมาต่อต้านเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์บอกต่อต้านมาตรา 112 มีใครบงการอยู่ตรงนั้นก็คือฮิลลารี คลินตัน ลองกลับไปเชื่อมโยงดูกับบุชว่าจะเป็นอย่างไร. ซึ่งมาก็แทรกแซงกิจการในประเทศเราตลอดเวลาหนุนทักษิณชัดเจน   ต่อมาด้านพลเอกประยุทธ์ที่บอกว่าต้องชื่นชมภาษาถ้อยคำที่ผมอ่านพอยึดอำนาปั้ง สหรัฐบอกว่า. ไม่ขอร่วมซ้อมรบ คอบบ้าโกล   พลเอกประยุทธ์บอกจะซ้อมกับจีนเลย หลังจากนั้นพลเอกประยุทธ์ทอดมือไปที่รัสเซียทันทีกลุ่มบริค ซึ่งประชาชนครึ่งโลก2000-3000 คนไม่อยากจับขึ้นกับธนาคารโลกแล้วเพราะธนาคารโลกมีทุนสามานย์กดขี่ข่มเหงอยู่ ซ่อนอยู่ข้างหลังบีบบังคับให้ทั่วโลก เปิดเสรีเพื่อเคลื่อนกำลังทุนไปยึดอำนาจ พลเอกประยุทธ์จึงไปเข้าร่วมกับกลุ่มบริค จีนตั้งธนาคารเพื่อจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชียขึ้น. ซึ่งก่อนหน้านี้สหรัฐรวมกับญี่ปุ่นสร้างธนาคาร เพื่อพัฒนาเอเชีย แข่งกันชัดเจนโดยไทยก็เข้าไปร่วมเพราะจีนจะแพบารมี น้ำหนักที่พลเอกประยุทธ์วางไปที่จีนกับรัสเซีย. เรียกว่ากวนโอ้ยสหรัฐ

กลับมาดูว่าวันนี้ว่าทำไมสหรัฐกลับมาดีกับพลเอกประยุทธ์โดยในปี55 จำได้ไหมสหรัฐมาขอใช้สนามบินอู่ตะเภาเพื่อจะทำสถานีเรดาร์ออก ออกไปสำรวจอากาศ ยิ่งลักษณ์เซ็นหลังจากนั้น. สหรัฐที่ไม่เคยให้ทักษิณเข้าประเทศได้ต่อวีซ่าให้ โอบาม่า เคยออกมาด่าทักษิณเจ็บแสบซ้ำไปว่าเป็นคนขี้โกงอ่ะหลังจากนั้นออกวีซ่าให้ทักษิณเลย ทำไมถึงออกให้เพราะยิ่งลักษณ์อนุมัติ ให้ใช้สนามบินอู่ตะเภาปรากฏว่าสามเหล่าทัพคัดค้านบอกว่าแม้จะให้ใช้เพื่อดูภูมิอากาศก็ไม่ได้ จริงๆจะเรียนว่าสนามบิน อู่ตะเภาเป็นศูนย์กลางที่จะบินไป. ยุทธศาสตร์ต่างๆ สหรัฐแอบมาใช้ที่นี่ในสมัยก่อนหน้านี้ในสมัยทักษิณ ไปทิ้งระเบิดประเทศเพื่อนบ้านตอนโจมตีแทบตะวันออกกลาง ดังนั้นสนามบินอู่ตะเภาเป็นทั้งฐานทัพ เป็นสนามบินยุทธศาสตร์ที่สหรัฐต้องการนักหนา แต่ปรากฏว่าคัดค้านจนมาถึงวันนี้ทรัมป์ขึ้นมาครองอำนาจ สหรัฐถือโอกาสที่จะปรับแนวนโยบาย เล่นกลิน เดวีส์หันหลังกลับ 360 องศา  กลับมาให้สัมภาษณ์ว่าเราจะไม่เอาเรื่องประชาธิปไตยเป็นหลักต้องปรองดองมาก่อน เพราะฉะนั้นวันนี้ที่มาพูดทั้งหมดนั้น อยู่ที่ผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น