- 22 มิ.ย. 2559
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม www.tnews.co.th
รายการ "สถาพรถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 22 มิถุนายน 2559 ออกอากาศทางช่อง ทีนิวส์ ดำเนินรายการโดย คุณสถาพร เกื้อสกุล (ถา) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการ บริษัททีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
สนธิญาณ : สวัสดีครับ แฟนข่าวทีนิวส์ทุกท่าน
สถาพร : เป็นปรากฎการณ์ใหม่น่าสนใจอย่างยิ่ง เป็นปรากฎการณ์ต่อเนื่องจากพระธัมชโย ของวัดพระธรรมกาย ต่อเนื่องมาถึงเรื่องของคุณบุญชัย เบญจรงคกุล ตอนนี้สังคมเริ่มมีความรู้สึกร่วมที่จะต้องดำเนินการอะไรสักอย่างหนึ่ง นั้นก็คือว่าประชาชนจำนวนหนึ่งไปยกเลิกการใช้เครือข่าวดีแทค
สนธิญาณ : ปรากฎการณ์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่งที่หยิบยกมาเรียนแฟนข่าวทีนิวส์วันนี้ ว่าปรากฎการณ์ของคุณบุญชัย ว่าแท้จริงแล้วธุรกิจสื่อสารอย่างมือถือดีแทคยังเป็นของคนไทยอยู่หรือไม่ หรือว่าเป็นของต่างชาติ ผมเรียนอย่างนี้ว่าสิ่งที่เกิดคือเมื่อคุณบุญชัย ออกมาเชิญชวนประชาชนไปร่วมปฎิบัติธรรม ถ้าแน่นอนว่าผู้มาร่วมปฎิบัติธรรมเยอะก็ทำให้เจ้าหน้าตำรวจเข้าจับกุมพระธัมชโยได้ เหมือนกับปรากฎการณ์ที่เกิดเมื่อดีเอสไอเอาหมายค้นเข้าไปเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา แล้วปรากฎว่าไม่สามารถฝ่ากำแพงมนุษญ์เข้าไปได้ ทั้งนั้นการเชิญชวนคนมาปฎิบัติของคุณบุญชัย ก็ทำให้สังคมเข้าใจไปในทิศทางนั้นว่าอย่างแน่นอน ว่าเจตนาต้องการให้ลูกศิษย์ลูกหาของวัดพระธรรมกายมาร่วมเป็นกำแพงมนุษย์ให้ปกป้องพระธัมชโย มันจึงเกิดแรงเบี่ยง ว่าถ้าเป็นแบบนี้ คุณบุญชัยมีสถานะเป็นประธานบริษัทดีแทค ก่อนหน้านี้รับรู้ว่าเป็นเจ้าของดีแทค ทำให้เกิดกระแสการไปยกเลิกการใช้เบอร์ของดีแทค หรือการใช้บริการดีแทค การไปยกเลิกการใช้บริการของดีแทคน่าสนใจตรงที่ว่าเริ่มจากเครือข่ายของสันติอโศก เริ่มเป็นเจ้าแรก ซึ่งเครือข่ายของสันติอโศกผมต้องเรียนว่ามีผู้คนอยู่ในเครือข่ายเป็นแสนเหมือนกัน แต่จะใช้ดีแทคเท่าไหร่ไม่ทราบได้ แต่ก็กลายเป็นกระแสใหญ่โต ถ้าผู้คนลูกศิษย์ลูกหาในเครือข่ายสันติอโศกยกเลิกการใช้แน่นอนว่ากระทบกระเทือนกับดีแทค และไม่ใช่แค่นั้นกระแสสังคมอื่นไหลตาม ลองไปดูในโชเซียลได้เลยในเฟสบุ๊ค มีการชวนกัน รณรงค์กันเลิกใช้ดีแทค และไปเชื่อมโยงเลิกใช้ดีแทคจนกว่าประเทศจะเป็นประชาธิปไตยก็ดูสนุกสนาน กระแสนี้เกิดทำให้ดีแทคอดทน อยู่ไม่ได้แสดงว่ามันมีผลพอสมควร นึกออกไหมครับ
สถาพร : มันต้องมีผลกระทบอย่างแน่นอน เค้าถึงออกหนังสือชี้แจ้ง
สนธิญาณ : ใช่ นอกจากหนังสือชี้แจ้งแล้ว ระดับประธานเจ้าหน้าบริหาร นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ซึ่งเป็นชาวนอร์เวย์ เข้ามาเป็นเจ้าของผู้บริหารของเทเลนอร์ฐานะวันนี้เป็นตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารได้ออกมาพูดด้วยตัวเองว่า วันนี้คุณบุญชัย เบญจรงคกุล เป็นแค่กรรมการของบริษัทคนหนึ่งในจำนวนกรรมการ 12 คน เพียงแต่คณะกรรมการได้เลือกคุณบุญชัย ให้ทำหน้าที่ประธานเท่านั้นเอง โดยคุณบุญชัยไม่ได้เข้ามาบริหารหรือดูแลด้านการเงินของดีแทคแต่อย่างใด การดำเนินการของบริษัทในเรื่องต่างๆอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของตัวเองและคณะผู้บริหารที่ได้รับมอบหมายภายใต้การดูแลของคณะกรรมการ พูดง่ายๆภาษาชาวบ้านคือที่บริหารจัดการอยู่เนี่ยคุณบุญชัยไม่เกี่ยว บุญชัยเป็นเพียงบอร์ดที่ให้นโยบาย คุณบุญชัยเป็นเพียงบอร์ดที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานแค่นั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่ออะไร เพื่อจะบอกว่าดีแทคไม่เกี่ยวกับสิ่งที่คุณบุญชัยเคลื่อนไหว ซึ่งเค้าก็ยืนยันว่าดีแทคไม่ได้มีนโยบายไปสนับสนุนด้านการเงินหรือด้านใดๆ แก่บุคคลใดเป็นพิเศษ ไม่เกี่ยวกับการเมือง หรือเข้าไปยุ่งทางศาสนาใดใดก็แล้วแต่ นี้ก็เป็นการปฎิเสธที่เรียกว่าการปกป้องธุรกิจ แต่สิ่งที่ผมเอามานำเสนอแฟนข่าวทีนิวส์อยู่ตรงที่ว่า เรื่องนี้มันสะท้อนได้อย่างชัดเจนแล้วว่า ดีแทควันนี้ตกอยู่ในมือของต่างชาติ เป็นของต่างชาติ ท่านผู้ชมจะบอกว่าคุณสนธิญาณมันยังไง ใครๆก็รู้ว่าดีแทคเป็นของต่างชาติ ไม่เป็นของต่างชาติแล้ว ประธานเจ้าหน้าผู้บริหารระดับสูงในดีแทคทั้หมดก็เป็นฝรั่งทั้งสิ้น ถ้าจะเป็นของคนไทยว่าไปจ้าง มันก็คุมในตำแหน่งสำคัญนึกออกไหม คุมตำแหน่งประธานเจ้าหน้าบริหาร คุมการเงินการทอง นี้คุณบุญชัยไม่เกี่ยวเลย ง่ายๆคือไม่มีคนไทยเข้ามาเกี่ยวข้อง จะว่าทำไมคนไทยไม่เกี่ยวข้อง เพราะแต่เดิมดีแทคปรากฎชัดว่าเป็นของคุณบุญชัย ต่อมาก็ขายให้เทเลนอร์ไปในสภาวะที่เรียกว่าวุ่นวาย ผมเรียนต่อไปว่าปรากฎครั้งนี้มันทำให้ความจริงด้านหนึ่งปรากฎว่าดีแทคเป็นของต่างชาติ ท่านผู้ชมคงบอกว่ารู้มานานแล้วว่าดีแทคเป็นของต่างชาติ แต่มันปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับ กฎหมายไทยห้ามไม่ให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในกิจการสื่อสารเกินครึ่งหนึ่ง ห้ามไม่ให้เป็นเจ้าของ ต้องมีคนไทยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มาร่วมหุ้นกันได้แต่คุณต้องมาเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อย แต่ถ้าไทยถือหุ้นใหญ่ก็ต้องมีอำนาจบริหาร แต่วันนี้คนไทยไม่มีอำนาจบริหาร อำนาจใหญ่อยู่ที่เทเลนอร์นึกออกไหมครับ
สถาพร : งั้นแสดงว่าเรื่องนี้มันต้องถูกโยงไปอีกเรื่องนึงของตลาดหลักทรัพย์ เรื่องของ กสทช. ที่ต้องไปตรวจสอบต่อ
สนธิญาณ : ใช่ ถูกต้อง แต่ต้องเรียนก่อนว่า ผมต่อสู้มาโดยตลอด เรียนอย่างนี้ว่า มันมีธุรกิจไม่กี่ประเภทที่เกี่้ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ เกี่ยวกับความเป็นความตายของประเทศ 1.พลังงาน 2. สื่อสาร 3.ข้าว การเกษตร ที่ดิน 4. เงิน 5. ขนส่ง 6. ธุรกิจค้าปลีก อันนี้มันสัมพันธ์กับความมั่นคงประเทศหมด ยกตัวอย่างง่ายๆเวลาเกิดสงคราม ธุรกิจ6 อย่างนี้ จะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวพันกับความอยู่รอดของประเทศ รัฐไทยจึงมีนโยบยาอย่างชัดเจน ไม่ให้ธุรกิจเหล่านี้อยู่ในมือของต่างชาติ กฎหมายก็ระบุชัดเจน ยกเว้นธนาคารที่มาเปิดเสรีทางการเงิน ดีแทคอยู่ในมือต่างชาติ เป็นของต่างชาติชัดเจน หลีกเลี่ยงกฎหมายไทย หลีกเลี่ยงยังไงคือให้คนไทยไปถือหุ้นแบบนอมินี ให้ดูเหมือนหุ้นคนไทยมีมากกว่า แต่รู้ไหมว่าไปเขียนระเบียบกฎเกณฑ์ไว้ว่ายังไง หุ้นคนไทย100หุ้นโหวตได้1เสียง ขณะที่หุ้นของเทเลนอร์ก็เท่ากับ1เสียง เพราะฉะนั้นหุ้นคนไทยที่นอมินีถืออยู่ 60 พอจะโหวต100ต่อ 1 เสียง ก็ไม่มีความหมาย ไม่มีเปอร์เซ็นต์เพียงพอที่จะโหวตชี้ขาด นึกภาพออกไหม ผมเลยเรียนว่านี้คือสิ่งที่สะท้อนออกมาว่า จากกรณีของคุณบุญชัยเนี่ยกับวัดพระธรรมกายว่าวันนี้ที่ออกมาของดีแทคของประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีแทค เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าธุรกิจดีแทค เป็นธุรกิจของต่างชาติ เป็นสิ่งที่รัฐไทย เป็นสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ หัวหน้า คสช.และนายกรัฐมนตรี ควรจะหันมาสนใจและดูอย่างจริงจังสักที ภายใต้ข้ออ้างการค้าเสรี ทำอย่างเสรี แต่มันต้องอยู่ภายใต้กฎหมือถืออยู่ในประเทศไทยกี่ล้านเครื่อง 90 ล้านเครื่อง 90 ล้านเบอร์ มากกว่าจำนวนประชากร เพราะเราเห็นบางครั้งมี 2-3 เบอร์ อาจจะเป็นธุรกิจของเค้า ใน90ล้านเบอร์ เป็นของเอไอเอส 42 ล้านเบอร์ เป็นของดีแทค 22 ล้านเบอร์ เป็นของทรู 21 ล้านเบอร์ รวมเป็น 91 ล้าน เห้นไหม ว่าวันนี้ธุรกิจมือถือธุรกิจสื่อสารมือถือใน90ล้าน อยู่ในมือต่างชาติ 70 ล้าน ผมก็ไม่อะไรกับเครือของทรู ของซีพี เป็นที่รู้กันว่ายังเป็นคนไทย 90 ล้านเบอร์อยู่ในมือฝรั่ง สังเหตไหมเวลามีความผิดความมั่นคง ไลน์กันไปไลน์กันมา เจ้าหน้าตรวจจับได้หมดนึกออกไหม มันเช็คลงไปที่ข้อมูลได้ แสดงว่าต่างชาติต้องการข้อมูลก็เช็คได้ แม้กฎหมายจะเขียนว่ามันผิดกฎหมายนะ แต่ก็นรู้กันเนี่ยล่ะความลับมันจะเปิดเผยขึ้นมาได้ ดังนั้น อยากจะฉีกมุมมุมนี้ให้เข้าใจว่าคุณบุญชัย นั้นเป็นเพียงประธานกรรมการที่ฝรั่งเศสจับมานั่งบนหัวโต๊ะ เพราะเห็นว่าบริษัทนี้ยังเป็นบริษัทคนไทยอยู่ แต่แท้จริงแล้วที่ออกมาปฎิเสธแบบไร้เยื่อใยเพราะกลัวผลกระทบที่ถูกผู้คนมาแห่ย้ายค่ายเนี่ยก็ทให้ปรากฎการณ์นี้ชัดเจน ก็ฝากเรื่องนี้ไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่ กสทช. เจ้าหน้าที่ คสช. ว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องดูแลเรื่องนี้อย่างชัดเจนจริงจริง ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
