"สนธิญาณ" ชี้! "วีระ" ขยับต้าน "สุเทพ-คสช." เข้าทาง"ระบอบทักษิณ"  เพราะได้แนวร่วมมุมกลับ ไม่จำแนกใครคือปัญหาหลักของชาติ

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tnews.co.th

รายการ "สถาพรถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 30 มิถุนายน 2559  ออกอากาศทางช่อง ทีนิวส์ ดำเนินรายการโดย คุณสถาพร เกื้อสกุล (ถา) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย)  กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สถาพร : สวัสดีครับ พี่ต้อยครับ

สนธิญาณ :  สวัสดีครับ ท่านผู้ชมแฟนข่าวทีนิวส์ทุกท่านครับ

สถาพร : เมื่อวานนี้หรือก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา ปรากฏว่าคุณวีระ สมความคิด เลขาธิการครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น ก็ออกมาโพสต์เฟสบุ๊คในกรณีที่คุณสุเทพ เทือกสุบรรณนั้น ก็ออกอากาศผ่านเฟสบุ๊กเช่นเดียวกัน แล้วก็วิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงว่าท้ายที่สุดก็ไปพูดถึง คสช. ในการที่เข้ามาปฏิวัติยึดอำนาจ มันเกิดอะไรขึ้น ถ้าพูดถึงกันแล้วคือ คุณวีระน่าจะเป็นคนนึงที่สนับสนุน คสช.  เพราะว่าที่ผ่านมา คสช. ก็ไปช่วยเหลือนำออกมาจากเขมร อะไรต่างๆเนี่ยครับ พี่ต้อยครับ

สนธิญาณ :  ประเด็นของ วีระ สมความคิดเนี่ยนะครับ ก็เป็นประเด็นเดียวทางภาพรวมทางการเมืองที่ผมจะขยายให้ท่านผู้ชมแฟนข่าวทีนิวส์ได้เข้าใจสถานการณ์ในนี้นะครับ ตอนนี้เนี่ยนะครับ การเคลื่อนไหวทางการเมือง กลุ่มก้อนทางการเมือง เป็นเรื่องที่จะต้องจับตา เพราะมันมีความสลับซับซ้อนและเป็นเรื่องที่จะเข้าใจยากขึ้นเรื่อยๆนะครับ ถ้าเราไม่ทำความเข้าใจให้ชัดเจน ก่อนหน้าที่จะมีการยึดอำนาจเนี่ยนะครับ เราต้องมาดูก่อนว่า คู่ความขัดแย้งทางการเมือง ฟากฝั่งหนึ่งคือระบอบทักษิณที่ครองอำนาจอยู่ และการครองอำนาจของระบอบทักษิณที่เราได้เห็น นั่นก็คือการทุจริตคอรัปชั่น การละเมิดสิทธิ ชีวิตของผู้คน บ้าคลั่งในอำนาจ นั่นเป็นสิ่งที่ได้ปรากฎขึ้นและทำให้คนส่วนใหญ่ของสังคมไทย รวมทั้งตัวของคุณวีระ สมความคิด ด้วย ออกมาต่อต้านคุณทักษิณ เครือข่ายระบอบทักษิณ ผู้ที่ออกมาต่อต้านในยุคแรกนะครับก็จะเรียกชื่อว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย การเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หัวหอกอันสำคัญก็คือ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล หรือโทรทัศน์เอเอสทีวีหรือหัวหอกอันสำคัญ คุณวีระ สมความคิดก็ไม่ได้เป็นแกนนำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรอก แต่ก็เป็นหนึ่งอยู่ในนั้น

สถาพร : เป็นแนวร่วม

สนธิญาณ : เพราะว่าได้จัดรายการอยู่ที่ช่องเอเอสทีวี เป็นส่วนหนึ่งในการต่อต้านระบอบทักษิณ ต่อมาคุณวีระ สมความคิดก็ขัดแย้งกับเอเอสทีวีและคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ประเด็นที่ขัดแย้งกันก็เรื่องเกี่ยวกับการรับบริจาคเงิน เพราะคุณวีระ สมความคิดก็ถือว่าเป็นนักเคลื่อนไหวอาชีพนะครับ ภาพพจน์ก็เป็นการต่อสู้เพื่อการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเนื่องจาก ในรายการคุณวีระ สมความคิด ก็รับบริจาคเงิน ทางเอเอสทีวีเค้าบอกว่า การรับบริจาคเงินทางเอเอสทีวีไม่ควรที่จะรับบริจาคเงินเป็นส่วนตัวบุคคล ควรจะเป็นกองกลาง ควรจะเป็นองค์กลางของเอสทีวีหรือของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คุณวีระ สมความคิดก็บอกว่า นี่เรื่องที่แม่ยกหรือคนืที่รักหรือสนับสนุนคุณวีระ นะครับให้คุณวีระเป็นการส่วนตัวนี่ ก็เกิดความขัดแย้งกัน คุณวีระ สมความคิดก็ถอนตัวแล้วก็ถอยออกมาจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พันธมิตรก็เคลื่อนไหวในขณะนั้นนะครับ การเคลื่อนไหวพันธมิตรก่อนการเคลื่อนไหวก่อนปี 49 นะครับ เต็มไปด้วยพรรคการเมืองจากพรรคประชาธิปัตถ์ ถือว่าพันธมิตรเป็นแสง เป็นธงชัยในการที่จะเคลื่อนผล ทำลายล้างหรือต่อสู้กับระบอบทักษิณ ท้ายสุดก็เกิดการรัฐประหารในปี 49 พลเอกสุรยุทธมา บทบาทพันธมิตรก็เบาบางลง เลือกตั้งใหม่ สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี พันธมิตรก็เคลื่อนไหวอีกครั้งนะครับ แต่ลักษณะค่อนข้างที่จะแผ่วลง แต่รัฐบาลสมัครมาสู่รัฐบาลสมชายต่อเนื่องในระยะเวลาไม่นานแล้วก็มาถึงรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปรากฏว่าพันธมิตรก็หันเป้ามาทางคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประเด็นหลักๆก็จะอยู่ที่เรื่องของพื้นที่ทับซ้อนนะครับ ระหว่างไทยกับเขมร ประสาทเขาพระวิหาร ก็กลายเป็นเสมือนหนึ่งตั้งใจปัด พันธมิตรก็เดินคนละทาง ขณะเดียวกันในช่วงระยะเวลาระหว่างนั้น คุณสมคิด ลิ้มทองกุลก็ถูกลอบฆ่ากลางเมืองนะครับด้วยอาวุธสงคราม คุณสนธิปักใจเชื่อว่าการลอบฆ่านั้นมาจากทหาร ผมจะเรียนแบบนี้ เห็นมั้ยเริ่มสับสนอลม่านหล่ะ คือจากฟากฝั่งที่เคยต่อต้านทักษิณเนี่ยนะครับ กลายมาเป็นหลายกลุ่มหลายก็อก

สถาพร : เริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้น จนท้ายสุดนะครับทางฟากฝั่งของคุณทักษิณก็ได้มีการจัดตั้ง นปช. ขึ้น แนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเนี่ย การต่อสู่รัฐบาลเพื่อประชาธิปัตถ์ นี่ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปใหญ่ พันธมิตรที่ยังต่อสู้กับระบอบทักษิณก็ยังซัดประชาธิปัตถ์ จนในที่สุด รัฐบาลยิ่งลักษณ์มา เลือกตั้งใหม่ รัฐบาลยิ่งลักษ์มา ปฏิบัติตามฝ่ายค้าน ก่อรูปการต่อสู้ขึ้นในการเป็น กปปส. ในระหว่างนั้นสำหรับคุณวีระ สมความคิด มันคือช่วงเวลาที่หายไป เพราะตอนที่คุณอภิสิทธิ์เป็นรัฐบาล คุณวีระ สมความคิด ก็พยายามที่จะต่อสู้เรื่องดินแดน เดินทางไปชายแดนเขมรแล้วก็ถูกทางการเขมรจับกุมตัวไป  ความจริงตอนไปมี ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ไปด้วย ผมเรียบเรียงให้เห็นภาพนะครับ ดูเหมือนว่าฝ่ายต่อสู้ก็เหมือนว่าจะกล่าวหาว่ารัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ไปเข้าข้างรัฐบาลเขมร เป็นขายชาติไปนั้น ยิ่งสะสมตอกย้ำเข้าไป คุณวีระ ก็ดดนจับไป แต่ตอนนั้นมีตัวแทนจากกลุ่มสันติอโศกไปด้วย ความจริงต่างๆก็ปรากฎขี้นว่ามันแล้วแต่มุมมอง ทัศนะ และข้อเท็จที่เป็นอยู่ที่เกิดขึ้นว่ามันคืออะไรกัน ในส่วนตัวผมถามเจ้ากรมแผนที่ทหารเก่าๆ  เค้าก็บอกว่าไทยเสียเปรียบนะครับ แม้ประชาชนคนไทยจะมีโฉนด รัฐไทยจะออกโฉนดขึ้น ความจริงตอนนั้นมันมีความแครงให้ดินแดน เราต้องออกโฉนดเพื่อความยืนยันสิทธิ์ไปก่อน แต่ท้ายสุดก็มีความชี้ขาดก็ว่าไป คุณวีระก็ไปติดคุณติดนานเลยอยู่ที่เขมร ตั้งแต่รัฐบาลคุณอภิสิทธิ์จนถึงรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ ก็น่าจะไม่รู้เรื่องรู้ราวเมืองไทยว่าอะไรมันเป็นอะไร และน่าจะไม่รู้เรื่องราวหรือเห็นภาพหรือซาบซึ้ง เค้าก็ไม่น่าจะเข้าใจเหมือนตอน กปปส. ต่อสู้กับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ว่าผู้คนออกมามากมายแค่ไหนอะไรยังไง แล้วมีการเสียสละอะไรยังไงบ้าง เพราะคุณวีระออกมาจากคุกเกิดการรัฐประหาร แล้วการที่คุณวีระออกมาด่าคุณสุเทพ ว่า บอกว่าเป็นสิ่งที่ทำเพื่อประโยชน์ตัวเองหรือว่าจะมาพูดด้วยความภาคภูมิใจได้ไงว่าเป็นส่วนหนึ่งของการรัฐประหาร ผมพูดทั่วๆไปนะว่าถ้าไม่มีรัฐประหารคุณวีระก็ไม่ได้ออกมาจากคุกหรครับ ก็ติดไปตามจำนวนเวลา เพราะคนที่ไปขอคุณวีระออกมาจากคุกเขมรคือ พล.อ.ประยุทธ์ ที่นี้พูดไม่ใช่ว่าให้คุณวีระ มาสำนึกในพระคุณ พล.อ.ประยุทธ์ หรอก เพราะว่าถ้าพล.อ.ประยุทธ์ทำไม่ถูก เรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวอยู่แล้วกับบ้านเมือง แต่ว่ามันก็เกิดกระบวนการออกมาวันนี้คุณวีระก็ออกมาซัดทั้งลุงกำนัน และพล.อ.ประยุทธ์ เล่นรุนแรงเล่นถึงลุงกำนัน เล่นถึงสันดานนักการเมือง ซึ่งคุณวีระคงไม่เข้าใจเรื่องลุงกำนันก็ตามว่าไม่เกี่ยวข้องว่าจะไม่เข้าไปเล่นการเมืองล่ะ แล้วที่ออกมาแน่นอนว่าความชัดเจนเลยว่าการเคลื่อนไหวของลุงกำนันเพื่อเป็นสัญลักษณ์ภายใต้กรอบกฎหมายที่สนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่ต้องอ้อมคอมไปอย่างอื่น ในทางกฎหมายรณรงค์ไม่ได้ลุงกำนันก็พูดเป็นการส่วนตัว เพราะพูดในฐานะส่วนตัวประชาชนก็เอาไปคิดพิจารณากันเอง มันก็เหมือนที่จตุพรพูดว่าไม่รับ เพราะเหตุผลอะไรนั้นล่ะก็เป็นการแสดงสัญลักษณ์กันไปทั้งสองฝ่าย

สนธิญาณ :   แต่อย่างนี้คุณวีระ มีอย่างหนึ่งที่ชัดเจนก็คือภายใต้ความเคลื่อนไหวที่คิดว่าตัวเองทำเพื่อบ้านเมืองมันจะมีเกร็ดสาระสำคัญว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นเป็นเรื่องถูกต้อง เพียงคนเดียว ในขณะที่คนอื่นไม่ได้เดินตามวิธีคิดก็อาจจะเป็นคนไม่ดี คนผิดคนเลวไป  แต่ผมคิดว่าปริบททางการเมืองที่เป็นอยู่เนี่ย มันมีคำถามว่าระหว่างคุณสุเทพกับระบบทักษิณที่เป็นอยู่ อะไรมันเป็นปัญหาของบ้านเมืองมากกว่ากัน การจัดอันดับแก้ปัญหาอันไหนมันจะเริ่มมาก่อนกันใครก่อน ควรที่จะเป็นแนวร่วมจับมือกับใครก่อนจะร่วมแก้ปัญหาบ้านเมือง อันนี้คือสิ่งที่ต้องคิด เหมือนกลุ่มทวงพลังงาน ในขณะที่ออกมาเคลื่อนไหวด่า พล.อ.ประยุทธ์ อย่างสาดเสียเทเสีย ถึงขั้นขายชาติไปโน่น แต่ผมก็ไม่บอกว่าเค้าสนับสนุนระบอบทักษิณมันก็เหมือนเข้าไปเป็นแนวร่วมล่ะเหมือนกับคุณวีระ มันเป็นแนวร่วมมุมกลับเนี่ย มุนหนึ่งต้องกลับมาดูว่าทำไมนะ มันก็ประเด็นเดียวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เห็นชอบ ข้อเสนอของเค้า ไม่ชอบตามสิ่งเค้าเรียกร้อง ตามข้อมูลที่เค้ามี เมื่อไม่เอาตามเค้าสิ่งที่เค้าดูเหมือนจะถูกต้องอยู่ฝ่ายเดียวเนี่ย มันก็กล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ ว่าขายชาติ ไม่เห็นแก่คิดเพื่อประโยชน์ของประชาชน ทีนี้พล.อ.ประยุทธ์ก้ต้องมาพิจารณาอีกว่าการตัดสินดังกล่าว มันมีเงื่อนไงข้อมูลอยู่บนประโยชน์ส่วนตัวหรือเพื่อนพ้องอีก หรือว่าใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ ในการที่จะใช้แนวทางที่กำลังดำเนินการอยู่ อันนี้ประชาชนก็ต้องเป็นฝ่ายตัดสินใจอยู่ อันนี้ผมเชื่อว่าโดยส่วนตัวว่าประชาชนเชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ มากกว่าคุณวีระ มากกว่ากลุ่มพลังงาน เพราะฉะนั้นคุณวีระ กับกลุ่มปฎิรูปหลังงานจะต้องดิ้นรนทำไปคือ ยิ่งออกมาดิ้นสู้กับพล.อ.ประยุทธ์มากขึ้น คุณวีระก็ต้องออกมาซัดกับคุณสุเทพมากขึ้น ทำให้ราคาตัวเองเพิ่มขึ้น ระบอบทักษิณจะได้ประโยชน์ไหมไม่ได้หรอก เพราะว่าเวลากลุ่มแกนนำเหล่าออกไป ประชาชนจะถอยห่างแน่ เพราะโลกปัจุจบันความคลั่งไคล้ ความศรัทธา หรืออะไรโดยไม่ลืมหูลืมตาเนี่ยมันไม่ใช่ เพราะประชาชนมีความคิด เค้ามีสมอง ผมใช้คำนี้ เค้ามีสติปัญญาที่จะคิดใคร่ครวญได้และเป็นบทเรียนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ใครที่เป็นแกนนำ ใครที่เป็นผู้นำอย่างแผงกาย อย่างผยองนะครับ ตอนที่ประชาชนเค้ามาร่วมไม่ใช่ว่าเค้าร่วมมือศรัทธาคุณหรอก มันเป็นความรู้สึกร่วมถึงเป็นการนำพาไปสู่ความเคลื่อนไหวได้ในประเด็นนั้นๆ ดังนั้นเมื่อประเด็นหมดประชาชนอาจจะรู้สึกไปอีกทางหนึ่งก็ได้ เพราะฉะนั้นข้อสรุปที่คุณต้องตะหนักนะครับ ผู้นำหรือแกนนำที่ผ่านมาในอดีตตกม้าตายมาเยอะ ส่วนสภาพกาลของคุณวีระกับกลุ่มปฎรูปพลังงานจะเป็นยังไงต่อไปในอนาคตก็ติดตามดูกันได้ครับ ขอบคุณครับ