"สนธิญาณ" ชี้!! "ทักษิณ" สั่งเปิดศึกปรับยุทธศาสตร์ - สร้างองค์กรแนวร่วมสู้ คสช.

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tnews.co.th

 

 

 

ยุคล : สวัสดีครับ ต้อนรับคุณผู้ชมเข้ามาช่วงเวลาของรายการยุคลถามตรงสนธิญาณฟันธงตอบนะครับ ค่ำคืนนี้วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม 2559 คุณผู้ชมยังคงอยู่กับผมยุคล วิเศษสังข์ เช่นเดิมนะครับ เราจะมาติดตามสถานการณ์ทางการเมือง ในวันนี้ที่พี่ต้อย สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผอ.สำนักข่าวทีนิวส์ ได้ปักหมุดเอาไว้ เพื่อให้คุณผู้ชมได้รับทราบกันถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังเข้มข้นอยู่ ณ ขณะนี้ หัวข้อที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้เป็นหัวข้อที่คุณผู้ชมเองน่าจะเฝ้าติดตามกันอยู่ ก็คือว่าทักษิณสั่งเปิดศึกปรับยุทธศาสตร์สร้างองค์กรแนวร่วมสู้ คสช. ใช้คำว่าทักษิณสั่งเปิดศึก และเป็นการต่อสู้กับ คสช.ด้วย ทำไมสัปดาห์นี้พี่ต้อยถึงยกเอาเรื่องนี้มาพูดคุย เพราะฉะนั้นเอาให้ชัดเจนเราก็จะได้ไปสอบถามกับพี่ต้อย สนธิญาณ เราไปทักทายพี่ต้อยกันก่อนเลยนะครับ สวัสดีครับพี่ต้อยครับ

 

สนธิญาณ : สวัสดีครับ แฟนข่าวทีนิวส์ทุกท่านครับ ก็ผมกันทุกวันจันทร์ครับ

 

ยุคล : วันนี้ตั้งหัวข้อมา คือว่าหลุดออกไปจากสถานการณ์ที่ทุกคนรับรู้เลยก็ไม่ใช่ แต่เหมือนกับอยู่ในบรรยากาศก็เป็นแบบนั้น ทักษิณสั่งเปิดศึกปรับยุทธศาสตร์สร้างองค์กรแนวร่วมสู้ คสช. วันนี้ถึงเลือกประเด็นนี้มาพูดครับ

 

สนธิญาณ : ต้องเรียนอธิบายแบบนี้นะครับ ภายใต้หัวข้อที่พูดวันนี้สาระสำคัญอยู่ที่ความหมายของคำว่าองค์กรแนวร่วม ส่วนที่ทักษิณสั่งสู้สั่งเปิดศึกเป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้วของทักษิณ แต่ครั้งนี้ไม่ธรรมดาเนื่องจากว่า ได้มีโทรศัพท์สายตรงมาถึงสุภาพสตรีท่านหนึ่ง เพื่อที่จะให้เดินเกมทางการเมืองบางประการ สุภาพสตรีท่านนั้นเป็นใครเดี๋ยวเราจะมาไล่เรียงกัน สุภาพสตรีที่ว่ามีคำนำหน้าเป็นคุณหญิง

 

ยุคล : พูดมาขนาดนี้ คือคุณหญิงสุดารัตน์

 

สนธิญาณ : ใช่ครับ เพราะว่าถ้าเราสังเกตบทบาททางการเมืองในช่วงระยะเวลานี้ บทบาทของคุณหญิงสุดารัตน์ ค่อนข้างที่จะออกมาอย่างแหลมคม กลับไปดูสิครับในตอนที่ คสช. ยึดอำนาจใหม่ ๆ คุณหญิงสุดารัตน์ปรับตัวเองหลบสถานการณ์ทางการเมืองไปโผล่อยู่ที่ประเทศอินเดีย ใส่ชุดขาวนุ่งขาวไปสร้างเรียกกันว่าพระพุทธเจ้าน้อย นั่นก็คือเป็นรูปพระกุมารสิทธัตถะยืนชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้อง งานภารกิจที่คุณหญิงสุดารัตน์ได้ไปทำที่อินเดียจริง ๆ ก็คือการไปสร้างปรับปรุงที่ลุมพินีสถานอันเป็นสถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรียกว่ามีผู้คนชาวพุทธจากทั่วโลกหลั่งไหลไปในแต่ละปีมากมาย และการดูแลรักษาไม่ได้ดูแลรักษาหรือทำนุบำรุงอย่างดีเท่าที่ควร นี่เป็นบุญกุศลของคุณหญิงสุดารัตน์ที่ไปสร้าง แต่ที่จะเข้าใจผิดพลาดกันนิดหน่อย แถมให้คุณผู้ชมจะได้เข้าใจ พระพุทธเจ้าน้อยไม่มีในโลกนี้ ไม่มีในอดีตและจะไม่มีในอนาคต ชื่อที่จะมาเรียกหากันอย่างไรก็ตามแต่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดขึ้น ณ วันที่ได้ตรัสรู้ แต่ตอนที่เกิดขึ้นเป็นคนนั่งอยู่ในฐานะของพระโพธิสัตว์

 

ยุคล : พระพุทธเจ้ากับพระโพธิสัตว์ไม่เหมือนกันหรือครับ

 

สนธิญาณ : ไม่เหมือนกันครับ พระโพธิสัตว์คือผู้ที่ยังเดินอยู่ในเส้นทางที่จะเป็นพระพุทธเจ้า ยังไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า ผู้ที่เป็นพระพุทธเจ้านั่นก็คือต้องตรัสรู้ นั่นก็คือรู้สภาวะธรรมชาติทั้งสิ้นที่มีอยู่และจับเอาอันไหนมาสอนมาลำดับความให้สรรพสัตว์ทั้งหลายได้เรียนรู้เข้าใจก็ว่ากันไป ตามสิ่งที่พระองค์จะได้กำหนด ซึ่งสาระสำคัญอันเป็นหัวใจในธรรมะหรือธรรมชาติของทั้งสิ้นที่นำมาเสนอก็คือธรรมชาติของชีวิต สรรพสัตว์ทั้งหลายที่จะต้องวนเวียนอยู่ในวัฏสงสารและทำอย่างให้พ้นจากวัฏสงสารไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิด นี่ก็แทรกทำความเข้าใจกัน คุณหญิงสุดารัตน์ก็ไปเอาดีทางด้านธรรมะต้องว่ากันอย่างนั้น ส่วนจะเอาดีได้หรือไม่ก็ต้องไปพิจารณากันจากวิถีปฏิบัติของคุณหญิงสุดารัตน์เอาเองครับ ทีนี้หลังจากนั้นมาก็เงียบหาย ใครไปถามอะไรก็หน่อยไม่พูด หน่อยไม่เอา หน่อยไม่อยากออกความเห็นเรื่องการเมือง

 

ยุคล : ภาพก็ออกมาเป็นแบบนั้นจริง ๆ เวลามีคนกล่าวหาคุณหญิงสุดารัตน์ เขาก็เดินในทางสายพระพุทธศาสนาแล้วก็เป็นแม่บุญ แบบที่พี่ต้อยมาพูดก็ขัดนะครับ ว่าเป็นการกล่าวหาคุณหญิงสุดารัตน์หรือเปล่า

 

สนธิญาณ : กล่าวหาตอนไหนครับ

 

ยุคล : ก็ตอนนี้ว่าจะไปยุ่งกับการเมือง

 

สนธิญาณ : จะไปกล่าวหาอะไรครับ บทบาทของเขาก็เอาจริง ก่อนหน้าจะเกิดเหตุที่ไม่ศาลายา มหิดล ซึ่งได้เชิญคุณหญิงสุดารัตน์ เชิญคุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จากพรรคประชาธิปัตย์ เชิญคุณสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล จากพรรคชาติไทยพัฒนา 3 พรรคไปพูดในหัวข้อการกำกับการเมืองผ่านรัฐธรรมนูญ ของ คสช. นัยยะเป็นแบบนี้ คนจัดตั้งหัวข้อชัดเจนอยู่แล้วต้องการชี้ให้เห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ให้อิสระนักการเมือง มากำกับนักการเมือง ไม่สามารถที่จะทำอะไรตามอำเภอใจอย่างที่เคยทำมา ความเห็นร่วมกันก็คือรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ถ้าเราดูจะมีกระแสตอบโต้ในเรื่องแนวคิดแบบนี้เยอะเหมือนกัน ว่าประชาชนเดือดร้อนอะไรที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปปราบนักการเมืองขี้โกง ไปจำกัดสิทธิ์ไม่ให้นักการเมืองใช้อำนาจอำเภอใจ นโยบายประชานิยมโดยไม่ระมัดระวังทำให้ประเทศชาติเสียหาย เพราะฉะนั้นการที่ทั้ง 3 คนไปต้องเรียนท่านผู้ชมว่า ทั้ง 3 คนมีแนวคิดชัดเจนอยู่แล้ว

 

ยุคล : ล่าสุดคุณนิพิฏฐ์ออกมาถอนตัวแล้วนะครับ

 

สนธิญาณ : ตอนตัวไม่ไปที่นัด 3 คนนี้มีแนวคิดชัดเจนอยู่แล้วโจมตีตลอดมาอยู่แล้วว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับอาจารย์มีชัยไม่เป็นประชาธิปไตยทางการเมือง ผู้จัดเลยเชิญ 3 คนนี้ไป ก่อนหน้านั้นคุณหญิงสุดารัตน์หลังจากที่ไปชุบตัวอยู่กับงานบุญก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องสิทธิเสรีภาพแสดงทัศนะทางการเมือง ที่ค่อนข้างจะแหลมคม ตอนที่แสดงบทบาทเช่นนี้เมื่อเปรียบเทียบกับตอนที่ยังเงียบ ๆ อยู่ในระหว่างนั้นเกิดข่าวบางข่าวขึ้นว่า คสช. จะมีกาตั้งพรรคขึ้นเพื่อสืบทอดอำนาจเกิดกระแสข่าวแบบนี้ขึ้น แล้วมีชื่อของคุณหญิงสุดารัตน์ขึ้นมาในข่าวนี้ด้วย ตัวคุณหญิงสุดารัตน์ไม่ได้ปฏิเสธข่าวนี้ เนื่องจากว่าตัวคุณหญิงสุดารัตน์มีความสนิทกับ พล.อ.ประวิตร แต่จะมีบทบาทที่จะมาตั้งพรรคจริงหรือไม่ไม่มีใครรู้ได้ แต่ท้ายที่สุดจบข่าวสารนี้เพราะพล.อ.ประยุทธ์บอกว่าไม่มีการตั้งพรรคไม่ทำแบบนั้น แล้วที่สำคัญไม่ต้องตั้งพรรคหรอกครับ พล.อ.ประยุทธ์ก็เดินหน้าต่อจะเรียกว่าสืบทอดอำนาจก็ชัดเจน ฉะนั้นพรรคการเมืองก็จะไปเกิดขึ้นทำไม เมื่อเป็นแบบนี้บทบาทของคุณหญิงสุดารัตน์ที่เปิดมาทุกคนก็จับตาอยู่ว่าเป็นเรื่องที่จะทำให้มีบทบาทโดดเด่นขึ้นหรือเปล่าสำหรับพรรคเพื่อไทยในวันข้างหน้าเพราะว่าพรรคเพื่อไทยขณะนี้ไร้หัวไร้หาง อยู่ในสภาวะที่ลำบาก คุณหญิงสุดารัตน์ได้เคยถูกทักษิณโทรศัพท์หาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559

 

ยุคล : ก็คือปีนี้เลย เดี๋ยวผมไล่เรียงรายละเอียดให้ดู คือมีข่าวว่าเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา คุณหญิงสุดารัตน์และแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้นัดอดีต ส.ส. ของกรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทยกินข้าวสังสรรค์เนื่องในโอกาสเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน ที่บ้านพักในซอยลาดปลาเค้า60 ถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ โดยมีอดีต ส.ส. มาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง สำหรับไฮไลต์สำคัญของงานก็คือการวิดีโอคอลของนายทักษิณ ชินวัตร สายตรงมายังคุณหญิงสุดารัตน์เลย โดยนายทักษิณบอกกับอดีต ส.ส. กรุงเทพฯ ว่า มีหัวหน้าทีมผู้หญิงที่เก่ง มีความสามารถ เห็นร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้วต้องบอกว่าห่วยแตก ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญมากเกินไป เขียนแบบนี้ประเทศชาติถอยหลังลงคลอง เหมือนเมียนมา (พม่า) เกาหลีเหนือ ผมจากบ้านไปเกือบ 10 ปี แต่บ้านเมืองเรากลับถอยหลังไปเกือบ 20 ปี ตอนนี้ผู้นำก็บ้าอำนาจจนขาดสติ ขาดวุฒิภาวะ แสดงกิริยาไม่สมควร ขอให้พวกเราเตรียมตัวไว้เลย จะมีการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยมีโอกาสสูงมากที่จะกลับมาบริหารประเทศ

 

สนธิญาณ : นั่นคือเนื้อหาที่ทักษิณวิดีโอคอลมาในงานเลี้ยงปีใหม่ของอดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทยในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งมีคุณหญิงสุดารัตน์เป็นแกนนำอยู่ วันนั้นทักษิณยังมีความหวังอยู่เพราะพล.อ.ประยุทธ์ยังไม่เปิดตัว ไม่แสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่าจะไม่ทิ้งบ้านเมืองจะดูแลบ้านเมืองต่อ ร่างรัฐธรรมนูญก็ยังไม่เห็น ข้อเสนอแม่น้ำ 4 สายก็ยังไม่ชัด ก็มาสร้างกำลังใจว่าเดี๋ยวเลือกตั้งเราก็ชนะ พรรคเพื่อไทยก็ได้กลับมาบริหารประเทศ ผมย้ำแล้วนะครับว่าวันนี้ทักษิณไม่ได้ที่จะเข้ามาบริหารประเทศต่อ โอกาสน้อยมากเรียนย้ำอีกครั้ง ว่าร่างรัฐธรรมนูญผ่านก็ข้อเสนอของแม่น้ำ 4 สายทำให้พรรคเพื่อไทยมีโอกาสน้อยมากที่จะเป็นรัฐบาล ถ้าไม่ผ่านพล.อ.ประยุทธ์ก็ร่างรัฐธรรมนูญออกมาเองอยู่แล้ว

 

ยุคล : ก็บอกว่าอยู่ต่อนะครับ

 

สนธิญาณ : ชัดเจน ดังนั้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีรายงานข่าวในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งว่าทักษิณได้ติดต่อมาที่คุณหญิงสุดารัตน์เป็นสายตรง แหล่งข่าวคนสำคัญที่อยู่คนข้างกายที่คุณหญิงสุดารัตน์และอยู่ในพรรคเพื่อไทย บอกว่าโทรศัพท์ถึง 2 - 3 ครั้ง และนี่จึงเป็นที่มาหรือไม่ที่ทำให้คุณหญิงสุดารัตน์วันที่ไปพูดที่มหิดล ร่วมกับนายนิพิฏฐ์และนายสมศักดิ์ จึงได้ชวนทั้ง 3 คนมาปรึกษากันต่อ

 

ยุคล : ทักษิณสั่ง ทักษิณขออะไรอย่างนี้หรือครับ

 

สนธิญาณ : คือเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วนะครับ คุณหญิงสุดารัตน์เติบโตทางการเมืองมาจาก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อยู่พรรคพลังธรรม ทักษิณเข้าไปเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม นั่นนักประชาธิปไตยแบบทักษิณได้เป็นหัวหน้าพรรค แต่หัวหน้าสั่งไม่ได้เลยสักคน สั่งกลุ่มนี้ติดกลุ่มนั้น สั่งกลุ่มนั้นติดกลุ่มนี้ ซึ่งนั่นคือบรรยากาศทางการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยจริง ๆ ประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นได้ต้องเรียนอย่างนี้ โดยเฉพาะประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาพรรคการเมืองเป็นโครงสร้างพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมืองต้องเป็นของประชาชน ประชาชนต้องมีส่วนในการกำหนดทิศทางการบริหารของพรรคการเมือง ดังนั้นเป็นประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานเพราะพรรคการเมืองเป็นตัวแทนที่จะมาครองอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย ประชาธิปไตยตรงไหนครับ พูดเรื่องจริงเป็นพรรคของทักษิณที่เขาสั่งคนเดียว ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทำให้เห็นชัด แล้วลองนึกดูว่าเวลาคนที่อยู่ในพรรคไทยรักไทยออกมาพูดเรื่องประชาธิปไตย หรือแม้แต่คุณหญิงสุดารัตน์ออกมาพูดเรื่องสิทะเสรีภาพ ตัวเองอยู่ในพรรคเพื่อไทยยังไม่มีสิทธิเสรีภาพจะทำอะไรเลย จะต้องสยบอยู่แทบเท้าทักษิณ ทักษิณทนไม่ได้ในพรรคพลังธรรมออกมาตั้งพรรคไทยรักไทย ลูกพรรคพลังธรรมจำนวนหนึ่งหอบตามกันมา คุณหญิงสุดารัตน์, อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง น่าจะนายแพทย์วัลลภ ยังตรง ด้วยนะครับ เสื้อแดงตัวฉกาจ นี่คือบทบาทของคุณหญิงสุดารัตน์ที่ผ่านมา ฉะนั้นอย่าได้สงสัยถ้าหากว่ามีสายตรงมาจากทักษิณ ยังดีนะครับ ตอนนี้ขอชื่นชมคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหน่อย เพราะตอนที่คุณหญิงสุดารัตน์ชวนนิพิฏฐ์ชวนสมศักดิ์พอเป็นกระแสข่าว เกือบจะแห่ตามกันไปแล้วนะครับ คุณอภิสิทธิ์ออกมาเบรคคุณนิพิฏฐ์บอกว่าที่คุณหญิงสุดารัตน์เชิญพรรคการเมืองหลายพรรคจะไปร่วมพูดคุยนั้นยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีมติชัดเจนที่จะส่งไปพูดคุยหารือกับคุณหญิงสุดารัตน์ แต่หากใครจะพูดส่วนตัวก็เป็นเรื่องของนักการเมืองคนนั้น ทำให้คุณนิพิฏฐ์ออกมาเลยว่าอย่างไรก็ไม่ไป แต่ก็มีเกี้ยวแถมท้ายว่า ถึง คสช. เชิญก็ไม่ไป คือทางฟากฝั่งไหนเชิญก็ไม่ไปเหมือนว่ารักษาจุดยืน แต่จุดยืนของคุณอภิสิทธิ์และคุณนิพิฏฐ์ชัดเจนค่อนข้างที่จะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพียงแต่คุณอภิสิทธิ์ยังแสดงท่าทีที่ไม่ชัดเจนถูกคุณจตุพรกระแนะกระแหนอยู่ตลอดเวลาว่าเอาให้แน่ จะเอาอย่างไรแสดงจุดยืนให้ชัดเจนสักที นี่คือสภาพที่เกิดขึ้นเพราะฉะนั้นวันนี้ถ้าย้อนกลับไปดูตอนที่บรรดา ส.ส. พรรคเพื่อไทย 17 คน โพสต์เฟซบุ๊กไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ วันนี้ผมเรียนท่านผู้ชมได้ว่าเดินหน้าแน่นอนครับ จับตานับตั้งแต่ตอนนี้ การเดินหน้าที่ว่าจะมีการเดินอย่างเป็นยุทธศาสตร์มีการปรับทิศทางยิ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีการประชุมคณะกรรมการ กบข. หลังจากการประชุมพล.อ.ประยุทธ์ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันชัดเจนว่า "คดีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวจะต้องเร่งให้เกิดความชัดเจนและรวดเร็วเพื่อเข้าสู่ขบวนการ เนื่องจากตนมีหน้าที่รับผิดชอบตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 เกี่ยวกับการชดเชยความเสียหายซึ่งจะต้องทำให้แล้วเสร็จเพื่อจบหน้าที่ของตน" เนื้อหาตรงนี้ชัดเจนนะครับ ต้องทำให้แล้วเสร็จเพื่อจบหน้าที่ของตน และส่วนคดีของ ปปช.

 

ยุคล : จะเป็นผู้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมที่ทำร้องขอ อย่าฟังคำบิดเบือน แต่ต้องดูที่เจตนา หากคิดว่าทำถูก ก็ต้องเข้าสู่กระบวนยุติธรรมจะได้ไม่มีปัญหา

 

สนธิญาณ : พล.อ.ประยุทธ์กล่าวแบบนี้ คดีคุณยิ่งลักษณ์ได้เห็นกันในเร็ววันแน่ใกล้เข้าไปทุกที โดยเฉพาะความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งความเสียหายจากจำนำข้าวท่านผู้ชมก็รู้อยู่แล้วว่านับเป็นแสนล้านบาท อยู่ที่จะถูกเรียกเท่าไหร่ แต่ไม่ต้องถึงแสนล้านหรอกครับ ระดับหมื่นล้านก็เหนื่อยสาหัสสำหรับคุณยิ่งลักษณ์อย่างแน่นอน หมายความว่าจะเกิดแรงเหวี่ยงและหลังจากนี้อีกไม่กี่เดือนคดีอาญาในฐานะเป็นจำเลยของคดีปล่อยประละเลยให้เกิดความเสียหายจำนำข้าว ตามมาตรา157 จ่อเข้ามา ผมเรียนย้ำนะครับว่าการสู้ของทักษิณวันนี้ธงใหญ่อยู่ที่ตัวคุณยิ่งลักษณ์ ไม่ได้อยู่ที่การจะกลับมามีอำนาจผ่านระบบการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง เพราะชัดเจนอยู่แล้ว

 

ยุคล : ทำไมพี่ต้อยถึงยังเชื่อว่าคุณทักษิณเป็นห่วงคุณยิ่งลักษณ์แบบสุดซึ้ง ยอมไม่ได้ให้คุณยิ่งลักษณ์ติดคุกไม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการไหน

 

สนธิญาณ : อันนี้แน่นอน ผมเรียนนะครับว่าคุณยิ่งลักษณ์เป็นน้องที่คุณทักษิณรักมาก ดูสิครับน้องกี่คนรวมทั้งพี่อยากจะมาเป็นหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะรู้ว่าทักษิณชี้ใครก็ได้เป็น คำถามคือทำไมทักษิณชี้ยิ่งลักษณ์ ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมือง คุณพายัพ ชินวัตร ก็อยู่ในการเมืองคุม ส.ส.อีสาน คุณแดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็เป็น ส.ส. คุมอยู่ที่ภาคเหนือ คุณชัยสิทธิ์ ชินวัตร ก็เป็นลูกพี่ลูกน้อง ก็ผ่านตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมีความพร้อมแต่ทักษิณไม่เลือก แต่เลือกคุณยิ่งลักษณ์ที่ไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองเลย กระโจนเข้าสู่เส้นทางการเลือกตั้ง 49 วัน และกระโจนเข้าสู่การเมือง มาเป็นนักการเมืองอ่านโพยผิด ๆ ถูก ๆ ผมพูดให้ทุกคนฟังว่าคุณยิ่งลักษณ์เป็นคนที่มาจิตใจเรียกว่า แข็งแรงมาก

 

ยุคล : พี่ต้อยพูดสวนนะเพราะว่า ทุกคนที่ฟังหรือดูคุณยิ่งลักษณ์จะรู้สึกว่าคุณยิ่งลักษณ์

 

สนธิญาณ : ไม่ใช่ เหตุผลที่คุณทักษิณเลือกนี่ไม่ธรรมดา ผมยกตัวอย่างแบบนี้ เดินไปที่ไหนที่หนึ่ง ตอนเราเข้าโรงเรียนใหม่ ๆ ไปพบเพื่อนในชั้นเรียนใหม่หรือไปในที่สังคมหนึ่งซึ่งเราไม่รู้จักสิ่งที่เราจะรู้สึกคือวางตัวไม่ค่อยถูก เราจะทำอย่างไร คุณยิ่งลักษณ์ไม่เคยรู้เรื่องการเมือง ไม่เคยรู้เรื่องการบริหารราชการแผ่นดินเดินไปทางไหนก็วางตัวไม่ถูกก็ไม่มี ทุกอันเดินไปด้วยความมั่นใจ นอกเหนือจากความมั่นใจปกติธรรมดาบางครั้งยังเดินออกไปแล้วแสร้งบีบน้ำตาพอเผลอจะเข้าม่านก็หัวเราะคิกคัก คนแบบนี้ถือว่าเป็นคนใจอ่อน ไม่ธรรมดา

 

ยุคล : เล่นละครแบบนี้หรือครับ

 

สนธิญาณ : กล้าเล่นละครต่อหน้าคน ธรรมดาไหมล่ะครับ

 

ยุคล : แล้วที่พูดผิด ๆ ถูก ๆ นี่ไม่ได้เล่นละครใช่ไหมครับ

 

สนธิญาณ : ไม่เล่นละครแต่ไม่กลัวไม่สนใจ หนึ่งจัดรายการหนึ่งไม่ทำการบ้านอ่านผิด ๆ ถูก ๆ หนึ่งกล้าไหมครับ

 

ยุคล : ก็ไม่กล้านะครับ

 

สนธิญาณ : แล้วนี่เป็นนายกรัฐมนตรีทำไมเขาถึงกล้า ก็แสดงว่าใจแข็ง คนที่ไม่สนใจอะไรได้ต้องใจแข็ง นี่จึงเป็นประเด็นหนึ่งที่ทักษิณรู้สึกผิด แต่รู้สึกผิดเฉย ๆ อย่างเดียวไม่ได้ วันนี้เนื่องจากตัวคุณยิ่งลักษณ์เป็นผู้หญิง ผมถึงเรียนย้ำว่าตัวคุณยิ่งลักษณ์จะเป็นคนที่ถูกหยิบขึ้นมาสร้างสถานการณ์ให้จุดไฟขึ้นมาในประเทศ เมื่อการต่อสู้ผ่านแนวทางระบบรัฐสภา แนวทางการเลือกตั้งปิดประตูตายจากที่เคยพูดกับคุณหญิงหน่อยว่าเดี๋ยวเลือกตั้งเราก็ได้ครองอำนาจอยู่แล้ว หรือที่ขวัญชัยบอกว่าให้เงียบ ๆ แกล้งตายก่อนเดี๋ยวเลือกตั้งเสร็จจะมีอำนาจ ความหวังอันนี้สลายยุติไปแล้วนะครับ มีหนทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เกิดความสู้รบและเป็นความหวังของทักษิณ คือการจุดไฟขึ้นในนครอีกครั้ง คือการจุดสถานการณ์ที่พาไปสู่การแตกหักอีกครั้ง ผมอยากจะเรียนท่านผู้ชมว่าทักษิณกำลังจะปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ ต้องติดตามนะครับ รับรองเลยว่านี่เป็นเรื่องใหม่ที่จะเอามาขยายความให้ดูกัน

 
 
ยุคล : วันนี้ที่พี่ต้อยมาพูดจริง ๆ แล้วหัวข้อที่แล้วตั้งกันขึ้นมา ก็คือ ทักษิณสั่งเปิดศึกปรับยุทธศาสตร์สร้างองค์กรแนวร่วมสู้ คสช. คือทักษิณสู้ คสช. เรารู้อยู่แล้ว แต่วันนี้พี่ต้อยตั้งหัวข้อขึ้นมาคือ อยู่ดี ๆ บอกว่าทักษิณปรับยุทศาสตร์สร้างองค์กรแนวร่วม คือปรับยุทธศาสตร์และสร้างองค์กรแนวร่วม เชื่อว่าคนดูก็อยากรู้ว่าทักษิณจะมาลูกเล่นไหน ดังนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนเรามาตามต่อในเบรคหน้าช่วงนี้พักกันก่อนครับ (พักช่วง)
กลับเข้ามาในช่วงที่ 2 เบรคที่แล้วก่อนที่เราจะพักกันไป คำว่า "ทักษิณ ปรับยุทธศาสตร์และสร้างองค์กรแนวร่วม" คืออย่างไรครับ ดูแล้วยังไม่เห็นภาพว่าคุณทักษิณทำอะไร รู้แต่ว่าคุณวัฒนาอนุญาตไปแล้วก็เจอคุณทักษิณแล้วถ่ายรูปกัน แต่คุณทักษิณก็ไม่ได้พูดอะไร แต่วันนี้พี่ต้อยบอกว่าปรับยุทธศาสตร์แล้วอย่างไรครับ

สนธิญาณ : ต้องกลับมาดูสถานการณ์ตั้งแต่ คสช. ยึดอำนาจมา นปช. และพรรคเพื่อไทย พยายามอย่างยิ่งในการที่จะต่อสู้กับ คสช. และบ่อนเซาะ พยายามจะหยิบประเด็นทางการเมืองต่าง ๆ มาต่อสู้โดยตลอด แต่โอกาสเรียกว่าแทบไม่มี ได้เรื่องอะไรบ้าง ก็มีทุจริตราชภักดิ์ ปรากฏว่าสืบสาวราวเรื่องข้อเท็จจริงเดินหน้าไปตีปี๊บกันว่าเสร็จแน่ ๆ ปรากฏว่ากระแสไม่ขึ้น การตรวจสอบออกมาดูแล้วไม่ใช่เรื่องทุจริตคอร์รัปชัน มีประเด็นที่เป็นปัญหาอยู่หน่อยคือเรื่องค่านายหน้าในการหล่อองค์พระบรมราชานุสาวรีย์และไม่ใช่เรื่องที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบไปทำ เป็นเรื่องที่เอกชนเซียนพระรายหนึ่งไปดำเนินการทำให้กระแสตกไป พยายามหยิบเรื่องเศรษฐกิจขึ้นมาว่าไม่ไหวย่ำแย่ ประชาชนก็บอกว่าเศรษฐกิจย่ำแย่ก็ยังพอทนได้ดีกว่าไปอยู่ในสถานการณ์ที่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งแล้วทุจริตโกงกินกัน สร้างนโยบายประชานิยมจนประเทศเสียหายแบบนี้อดทนได้ สร้างกระแสต่างชาติไม่เอาโลกล้อมประเทศเดินไป ผลปรากฏว่าบทบาทของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ในเวทีโลกดีขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุดก็เลื่อนจากเทียร์3 ขึ้นมาเป็นเทียร์2 สหรัฐฯเปิดโอกาสให้มากขึ้น จะด้วยท่าทีที่พล.อ.ประยุทธ์เดินเกมไปให้น้ำหนักกับรัสเซียและจีนเพิ่มขึ้นหรืออีกด้านหนึ่ง ได้มีการพยายามปรับปรุงอย่างจริงจังในเรื่องของการค้ามนุษย์ ทำให้ไม่มีกระแส ดังนั้นเมื่อกระแสเรื่องร่างรัฐธรรมนูญออกมาจึงเข้าทางในการที่จะหยิบเอาเรื่องร่างรัฐธรรมนูญมาเป็นตัวเคลื่อนไหวในทางการเมือง และยิ่งออก พ.ร.บ.ประชามติออกมา ซึ่งผมเรียนนะครับว่าเหตุผลที่ออก พ.ร.บ.ประชามติออกมา เพราะไม่ต้องการให้เกิดการรณรงค์กันระหว่างคู่ขัดแย้งทางการเมือง เพราะทั้ง 2 ฝั่งต่างมีมวลชน ถ้ารณรงค์กันแบบเดินหน้าบ้าคลั่งอาจจะนำพาสถานการณ์บ้านเมืองเข้าไปสู่การเผชิญหน้ากัน และการออกกฎหมายก็เป็ยเรื่องของ สนช. เรื่องของตัวบุคคลไม่ใช่เรื่องรัฐบาลหรือ คสช. สั่ง กฎหมายออกมาแล้วเป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนจะต้องปฏิบัติตามแต่ปรากฏว่ามีกระบวนการการออกมาท้าทายอยู่ตลอดเวลา การท้าทายที่อยากจะเรียนท่านผู้ชมเรากลับมาดูให้แยกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งแรกคือเพื่อไทยกับ นปช. พวกนี้เขาเรียกว่าท้าทายแบบมีเหลี่ยมมีเชิง แหย่ๆหยุดๆ ปรับกลยุทธ์เพราะพวกนี้กลัวถูกจับ กลัวเป็นประเด็นปัญหากับตัวเองขึ้นมา เพราะนักสู้เหล่านี้แท้จริงมีเป้าหมายทางการเมืองรองรับอยู่ทั้งนั้น พลาดพลั้งเสียทีขึ้นมาโดนคดีอาญาขึ้นมาลงเลือกตั้งอะไรไม่ได้ก็เสียหาย พวกนี้ก็ระมัดระวังแล้วปรับท่าทีของตัวเอง แต่เรามาดูอีกกลุ่มหนึ่งประเภทเดินหน้าท้าตาย ไม่กลัว  1.พลเมืองโต้กลับ ออกมาจุดประเด็นตอบโต้ คสช. อย่างรุนแรง ด้าน คสช. ก็มีท่าทีอะลุ่มอล่วยมีท่าทีที่ระมัดระวัง 2.กลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ภาพลักษณ์เป็นนักศึกษาเพิ่มขึ้นเดินหน้าคัดค้านแสดงสัญลักษณ์ในการต่อสู้แตกต่างกับฝั่ง นปช. และพรรคเพื่อไทย ก็คือ ท้าทายให้จับกุม อยากถูกจับกุม

 

ยุคล : ทุกวันนี้โดนจับไป 7 คน แต่พอบอกว่ามีการให้ประกันก็ไม่ยอมที่จะประกันตัว ยอมจะอยู่แบบนั้น

 

สนธิญาณ : ถูกต้อง เพราะถ้าประกันตัวออกไปทำให้เงื่อนไขทางการเมืองจบจะไม่มีอะไรเคลื่อนไหวกันต่อ ประกันตัวไปเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมก็จะจบ ศาลเขาให้ประกันตัวก็ไม่ยอมประกันยอมนอนคุก คนที่เป็นนักศึกษาก็เขียนจดหมายถึงอาจารย์ สร้างบทบาทขึ้นมาในคุก ข้างนอกก็เดินหน้ากันต่อ ก็กดดันต้องปล่อยโดยไม่มีเงื่อนไข

 

ยุคล : ก็คือให้ยกเลิกคดีเลยนะครับ ถ้าเป็นแบบนั้น

 

สนธิญาณ : ถูกครับ ปล่อยไม่มีเงื่อนไขคือการยกเลิกคดี ก็จะทำให้เข้าทางวัดพระธรรมกาย อันไหนที่เขาสู่กระบวนการยุติธรรมจริง ๆ เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ทนายความต้องรู้ดีแต่ยังออกมาเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างกระแสให้ปล่อยโดยไม่มีเงื่อนไข คุณบังคับให้เขาปล่อยโดยไม่มีเงื่อนไขทั้ง ๆ ที่ความจริงไปประกันตัวออกมาก็ได้เพียงแต่เด็กพวกนั้นไม่ยอมประกันตัวเองออกมา นั่นคือประชาธิปไตยใหม่ เพื่อนฝูงก็โหมสร้างกระแสกันมา อยู่ ๆ ก็เกิดกลุ่มขึ้นมาใหม่อีกกลุ่มคือ กลุ่มอีสานใหม่

 

ยุคล : ที่เดินจัดกิจกรรมอยู่ที่ภาคอีสาน

 

สนธิญาณ : เปิดขึ้นมาอีกกลุ่มหนึ่งแล้ว พลเมืองโต้กลับ ประชาธิปไตยใหม่ วันนี้เกิดกลุ่มอีสานใหม่ ซึ่งกลุ่มนี้สร้างโครงการที่เรียกว่าวอล์คโฟว์ไรท์ส(Walk4Rights) แปลว่า เดินเพื่อความถูกต้อง เพื่อสิทธิเสรีภาพอันเป็นพื้นฐาน ประเด็นนี้ต้องการเดินสถานการณ์ไปสู่ทางการเมือง รู้อยู่แล้วว่าชุมนุมเกิน 5 คนไม่ได้และตอนนี้ยังมีกฎหมายอีกว่า หากมีการจัดชุมนุมทางการเมือง ก็ต้องขออนุญาตปรากฏว่ากลุ่มนี้เดินสร้างกระแส ตำรวจทหารก็เข้าไปดำเนินการควบคุมตัว กิจกรรมต่อเนื่องก็มาทันที ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนก็ยื่นข้อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ยุติคุคามเสรีภาพในการแสดงออกเดินเพื่อสิทธิ์ชีวิตคนอีสาน เห็นไหมเนื้อหาชัดเจน

 

ยุคล : 1. ทุกคนย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบเปิดเผย ปราศจากอาวุธ 2.การกระทำเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารที่กดดันไม่ให้กุมขบวนการอีสานใหม่เคลื่อนไหว และบังคับให้ลบคลิปวิดีโอเพจขบวนการอีสานใหม่ ซึ่งเป็นการแทรกแซงเสรีภาพในกระบวนการคิดเห็นโดยไม่ชอบโดยกฎหมาย โดยเป็นการละเมิดอันเป็นการละเมิดพันธกรณีตามข้อ 19 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) 3.การบังคับใช้พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ต้องบังคับใช้โดยคำนึงถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายที่บัญญัติขึ้นมาเพื่อคุ้มครองการใช้สิทธิและเสรีภาพ  ดังนั้นเจ้าหน้าที่รัฐจึงมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ชุมนุมไม่ใช่ผลักดันผู้ใช้สิทธิเสรีภาพให้ตกอยู่ในอันตรายมากยิ่งขึ้น การอ้าง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 เพื่อปิดกั้นมิให้กลุ่มขบวนการอีสานใหม่พักในพื้นที่ดังกล่าวโดยมิได้มุ่งคุ้มครองสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนตามพันธกรณีระหว่างประเทศ จึงเป็นการบังคับใช้ที่ไม่ชอบตามหลักสิทธิมนุษยชน

 

สนธิญาณ : เรามาดูแบบนี้ครับท่านผู้ชมระหว่างที่ไปอ้างเรื่องสากล คุณไม่ได้พูดเรื่องของกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในประเทศและการที่เราไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยอ้างเรื่องสิทธิเสรีภาพ คือถ้าจะมาสู้กันก็ต้องสู้ว่ากฎหมายนี้ไม่เป็นเสรีภาพ ประเด็นคือไปสู้กันที่ปลายเหตุเพื่อที่จะหยิบสถานการณ์มาเคลื่อนไหว นี่หมาด ๆ มาเลยวันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เครือข่ายสลัมแรงงานนักศึกษากิจกรรมเพื่อเสรีภาพจัดกิจกรรมปล่อยลูกโป่งที่ลานพ่อขุนมหาวิทยาลัย

 

ยุคล : คือบางครั้งมีชื่อแบบนี้ ถามพี่ต้อยก็คือ เวลาบอกว่าเครือข่ายแรงงานเหมือนกับเป็นกลุ่มคนใช้แรงงาน คนที่เข้ามาทำงานตามโรงงานต่าง ๆ จริง ๆ เป็นแบบนั้นไหมครับ

 

สนธิญาณ : จริงครับ อาจจะมี 5 คน 10 คน

 

ยุคล : แต่ไม่ใช่ทั้งหมดถูกไหมครับ

 

สนธิญาณ : เป็นแนว คำถามถามว่าเหมือนกับกลุ่มเครือข่ายสลัมทำไมถึงมาจัดในรามคำแหง ทุกอันเวลาเคลื่อนไหวเป็นยุทธวิธีทั้งสิ้น จะเริ่มเข้าทางตามที่ผมพูดให้ฟังแล้วว่าเป็นรูปการณ์ของการเคลื่อนไหวแบบนี้ เป็นรูปการณ์ของการสร้างกระแสให้เห็นว่ามีความหลากหลายทางการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น พลเมืองโต้กลับ ประชาธิปไตยใหม่ กลุ่มอีสานใหม่ กลุ่มเครือข่ายสลัมแรงงานนักศึกษานักกิจกรรมเพื่อสิทธิเสรีภาพ เห็นไหมมีองค์กรหรือกลุ่มประชาชนใหม่ ๆ เกิดขึ้นในการต่อต้าน คสช. เพิ่มมากขึ้น

 

ยุคล : เยอะจริงหรือว่าเป็นการตกแต่งขึ้นมา

 

สนธิญาณ : ไม่ได้เยอะจริงครับ แต่สร้างภาพให้ดูเยอะเพื่อจะได้ให้เห็นภาพว่าคนที่ต่อต้าน คสช. ในขณะนี้มีมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

ยุคล : และมาจากหลายกลุ่ม

 

สนธิญาณ : ปริมาณคนไม่ได้เอาตัวนี้มาพูด เพราะว่าบทบาทของพรรคเพื่อไทยและ นปช. ไม่สามารถมานำการต่อสู้ได้แล้ว คนไม่เอาครับ เปิดเรื่องศูนย์ปราบโกงคนต่อต้านกันทั้งประเทศ เมื่อแป้กหมดการเคลื่อนไหวในรูปแบบใหม่ ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะตอนที่จะต้องเคลื่อนไหวนำพาไปสู่การแตกหัก ผมย้ำกับท่านผู้ชมว่าการเคลื่อนไหวที่จะนำพาไปสู่การแตกหักของทักษิณในวันนี้ไม่ใช่การเลือกตั้งครับ การเลือกตั้งเป็นแค่การสร้างภาพเป็นเรื่องของการเดินไปตามปัจจัยในการที่จะทำให้นักการเมืองมีกิจกรรมไม่ได้หมายความว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ลงรับสมัครเลือกตั้ง แต่เดินไปตามกลไกและรู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางที่จะได้อำนาจรัฐมา ที่จะได้ใช้อำนาจรัฐตามอำเภอใจตัวเอง เพราะฉะนั้นหลักที่ผมจะเรียนย้ำกับท่านผู้ชมก็คือว่า หนทางที่จะเดินได้ก็คือการเปลี่ยนแปลงประเทศที่เรียกว่า ปฏิวัติประชาชน และการปฏิวัติประชาชนจะเกิดขึ้นได้ในยุคสมัยนี้จะต้องมีกองกำลังจากต่างชาติเข้ามา เหมือนที่พูดมาว่านี่อยู่ในแผนองค์กรจัดตั้งลับอยู่แล้ว ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากการวางระเบิดที่หน้าศาลอาญาของนายมหาหินและคำสารภาพมหาหินชัดเจน ดังนั้นวันนี้จะเดินสถานการณ์ขับเคลื่อนไปให้ถึงคนลุกขึ้นสู้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเงื่อนไขคือตัวคุณยิ่งลักษณ์เหมือนที่ได้พูดไว้ จะเกิดขึ้นมาได้ จะบอกว่าพรรคเพื่อไทยนำการต่อสู้ไปไม่ได้ นปช. นำการต่อสู้ก็แป้กมาแล้ว กลับมาดูในสมัยที่การต่อสู้กับยิ่งลักษณ์สิครับ พรรคประชาธิปัตย์นำมาเองไปไม่ได้ต้องปรับตัว ปรับมาเป็น กปปส. คือสิ่งที่เรียกว่าองค์กรแนวร่วม ก่อนหน้านั้นจะมีแล้วกองทัพธรรม กองทัพประชาชนเพื่อประชาธิปไตย องค์การพิทักษ์สยาม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคลื่อนมาแต่ไปไม่ได้ไปแล้วตันยกระดับขึ้นมาก็ติดหมด การสร้างองค์กรแนวร่วมมาในรูปของ กปปส. กำนันสุเทพมาเป็นคนนำ กลุ่มต่าง ๆ เข้าผนึกจากแต่เดินต่างคนต่างเคลื่อน พอมาร่วมเป็น กปปส. ประชาชนรู้สึกได้ว่านี่กลุ่มเดียวกันพวกเดียวกัน ร่วมกันเป็นขบวนเพียงแต่ตั้งอยู่จุดนั้นนี้ ถือว่าเป็นหนึ่ง นี่ถือเป็นความหมายอันสำคัญของการรวม สิ่งเหล่านี้มาจากทฤษฎีการปฏิวัติ ทฤษฎีการต่อสู้ ทฤษฎีทางการเมือง จะเล่าให้ฟังในสมัยที่คอมมิวนิสต์รบต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ให้เป็นคอมมิวนิสต์ หลังจาก 6 ตุลาคม 2519 คอมมิวนิสต์ก็มั่นใจมากว่าอย่างไรก็จะชนะเหมือนเดิมกันมาจับมือกัน เจอกันที่ท้องสนาม หมายความว่าเราจะมายาตราทัพจากที่เปลี่ยนแปลงประเทศได้แล้ว ด้วยเหตุผลนี้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ถ้าเปรียบเทียบเป็นเหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทยแบบนี้ นำการเคลื่อนไหวมา เห็นว่าถ้ายังนำโดยพรรคคอมมิวนิสต์ การร่วมของคนก็จะไม่กว้างขวางขึ้นจึงต้องตั้งองค์กรแนวร่วมขึ้น พรรคคอมมิวนิสต์ก็ผลักดันให้ตั้งเรียกว่า คณะกรรมการประสานงานกำลังรักชาติประชาธิปไตยขึ้น ชื่อย่อคือ กปชป. คล้าย ๆ กับ กปปส. องค์กรนี้ตั้งขึ้นก็ไม่ให้พรรคคอมมิวนิสต์ออกหน้า โดยเอาอาจารย์ธีรยุทธ บุญมี ตอนนั้นก็ยังหนุ่มฟ้ออยู่ มาเป็นเลขาธิการเพื่อที่จะสร้างกระบวนการการนำการต่อสู้ให้ประชาชนคนไทยเห็นว่าตอนนี้หากจะต่อสู้ไม่ใช่ต่อสู้ให้กับพรรคคอมมิวนิสต์ ฉะนั้นตอนนี้เป็นการสู้ขององค์กรแนวร่วม ในอีกทางหนึ่งทางสากลก็จะได้เห็นว่าบางประเทศอาจจะติดขัดในการสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย แต่ถ้าสนับสนุนองค์กรแนวร่วม ซึ่งเป็นองค์กรที่จะต่อสู้เพื่อที่จะปลดแอกประเทศไทยออกจากเผด็จการ ก็จะทำให้การสนับสนุนนี้กว้างขึ้น แต่ท้ายที่สุด กปชป. ก็ล้มคว่ำลงไม่เป็นท่าเพราะว่า แม้จะมีการตั้งรูปแบบอย่างนั้นขึ้น แต่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยยังควบคุมการเคลื่อนไหวอยู่ทุกจุด กระดิกตัวไม่ได้ อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี ก็เหมือนเป็นหุ่นเชิดหรือเรียกว่าเป็นคนที่ถูก กปชป. เหมือนองค์กรที่พรรคคอมมิวนิสต์อุปโลกน์เหมือนเป็นเครื่องมือให้กับพรรคคอมมิวนิสต์ ท้ายที่สุดอาจารย์ธีรยุทธ บุญมี ก็ออกจากป่ามาสู่เมือง กลับมาถึงตรงนี้ผมถึงอยากจะเอาเรื่องนี้มาพูดให้ฟังในวันนี้ว่า ลูก ๆ เด็ก ๆ นักศึกษาและคนที่รักประชาธิปไตย วันนี้คุณก็เคลื่อนของคุณไป ยุทธวิธีต่าง ๆ โผล่ขึ้นกลุ่มองค์กรชื่อใหม่โผล่ขึ้นดูหลากหลายและโดดเด่น วันหนึ่งจะถูกผลักให้กลายเป็นองค์กรแนวร่วม ในวันที่จะถึงเวลาแตกหัก หรือในวันที่ยกตัวอย่างฟากฝั่งของฝ่ายที่ต่อสู้ คสช. ก็เริ่มมองเห็นว่ามีแสงสว่างอยู่รำไร เช่น วีระ สมความคิด ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์และ คสช. อย่างรุนแรง นอกจากจะพูดเรื่องทุจริตคอร์รัปชันแล้วยังโจมตีเรื่องเผด็จการด้วย ทางฟากฝั่งนี้ก็รู้สึกว่าเข้าทางแล้ว พวกนี้เคยต้านระบบทักษิณเหมือนกันแล้ว หรืออย่างเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทยหลังจากที่ไม่ได้ดังใจตามที่เรียกร้องไปในเรื่องพลังงานซัดพล.อ.ประยุทธ์เสียเรียกว่าอย่างหนักหน่วง คือไม่รู้จะพูดอย่างไรครับ หมายความว่าผมไม่อยากจะไปให้รายละเอียดในการโจมตี แต่ในการโจมตีตรงนี้หมายถึงว่าได้ปฏิเสธรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช. อย่างสิ้นเชิง ก็เป็นเรื่องปกติเมื่อขีดว่า คสช. และรัฐบาลเป็นศัตรูของประชาชนเพราะไม่ดำเนินการพลังงานตามที่กลุ่มต้องการหรือมีข้อเสนอไป อันนี้ครับทำให้อีกฝั่งหนึ่งกลายมาเป็นความรู้สึกทางความหวังขึ้นว่าถ้าจะเดินหน้าล้ม คสช. ต้องปรับรูปขบวนการใหม่แล้ว เพราะจะให้คนที่เคยต่อสู้กับระบอบทักษิณไปร่วมกับพรรคเพื่อไทยก็ร่วมไม่ได้ เหมือนกับการถุยน้ำลายขึ้นฟ้าแล้วตกใส่หน้าตัวเอง ไปร่วมกับ นปช. ก็ร่วมไม่ได้ เพราะเหมือนกับเครือข่ายพลังงานฯก็ต้องถือว่าอยู่ฟากฝั่งตรงข้ามกับ นปช. เพราะมีความอิงแอบสนิทสนมกับกลุ่มพันธมิตรเดิม เมื่อเป็นแบบนี้หากว่าวันใดมีการประกาศว่าเราจะจัดตั้งองค์กรแนวร่วมขึ้นเพื่อจัดการกับเผด็จการ คสช. มีหน้าใหม่ ๆ ตั้งขึ้นการไปเข้าร่วมของฝ่ายต่าง ๆ ก็จะไม่ตะขิดตะขวงใจ เพราะไม่ได้ร่วมกับเพื่อไทยหรือ นปช. แต่เพื่อไทยกับ นปช. จะมาร่วมในนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ไม่ใช่คุณเป็นผู้นำ จะนำไม่นำเรื่องนี้เป็นเรื่องทฤษฎีทางการเมือง เป็นกลยุทธ์ในการเคลื่อนตัวทางการเมือง ในยุทธศาสตร์ของการปฏิวัติคุณจะรู้เท่าทันหรือไม่เป็นเรื่องของคุณ ผมเอาเรื่องนี้มาลำดับให้คุณฟัง จะบอกว่าน้อง ๆ ทั้งหลายมาความเป็นอิสระจากความคิดของคุณจริง แต่ความจริงไม่ได้เป็นอิสระหรอก มีการโยงใยผ่านเครือข่ายระบบจัดตั้งมาแบบเนียน ๆ ทำให้เห็นว่าคุณเป็นคนที่มีจิตใจกล้าต่อสู้กล้าเสียสละกล้าหาญ ทำเพื่ออุดมการณ์และประเทศชาติ ยกย่องเชิดชูไป แต่ท้ายทีสุดผมก็ฟันธงว่าคุณคือเครื่องมือการต่อสู้ของทักษิณ เพราะมิติของชาติไม่ได้มีแค่มิติเดียวในเรื่องของประชาธิปไตย มีมิติอันละเอียดอ่อนเรื่องทางสังคม การอยู่ร่วมกัน ศีลธรรม เศรษฐกิจที่จะต้องสัมพันธ์กับโลกในวงกว้างจะทุนสามานย์ที่เข้ามาครอบงำ มีเรื่องมากมายมหาศาล เรื่องระหว่างประเทศที่จะต้องมีการดุล วันหนึ่งไม่รู้จะเกิดสงครามขึ้นมาเมื่อไหร่ เราจะวางตำแหน่งอย่างไร ไม่ใช่เรื่องว่าอะไรก็ต้องประชาธิปไตย และโดยข้อเท็จจริงกลับไปพิจารณาดูว่าเลือกตั้งอย่างเดียวแล้วมีพรรคการเมืองซึ่งเป็นองค์กรพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยโดยเฉพาะในระบบเลือกตั้งยังไม่เป็นประชาธิปไตยตั้งแต่พรรคการเมือง เป็นเจ้าของของคนเดียวที่มีทุนยักษ์ใหญ่ ของคนที่ทุจริตคอร์รัปชัน นั่นเป็นประชาธิปไตยตรงไหนครับ จึงเอาเรื่องนี้มาเปิดเผยให้ฟัง มาชี้ให้เห็นว่าเส้นทางทางการเมืองต่อไปจะเดินไปตามเส้นทางไหน

 

ยุคล : นี่เป็นอีกเรื่องที่พี่ต้อยได้นำเสนอไป เดี๋ยวช่วงสุดท้ายเข้าใจว่าพี่ต้อยน่าจะพูดถึงเรื่องของพระธัมมชโยกับวัดพระธรรมกาย

 

สนธิญาณ : ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าให้ตามดูครับ ว่าสิ่งที่ผมจะพูดก็คือวัดพระธรรมกายถึงคราวอวสานแน่นอน

 

ยุคล : มาตามต่อกันในเบรคหน้าครับ (พักช่วง)  กลับมายังเบรคสุดท้าย เราจะมาพูดกันเรื่องของวัดพระธรรมกาย ก็ต่อเนื่องมาจากรายการคืนความสุขให้กับคนในชาติ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี ที่พูดเอาไว้ตอนหนึ่งเป็นตอนสั้น ๆ ที่พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายว่า "อาจจะต้องใช้มาตรา44 ในการควบคุมตัวจับกุม เพราะว่าหลายอย่างด้วยกัน ท่านก็รู้ดีอยู่ กฎหมายปกติไม่ค่อยเชื่อ แต่เข้าไปจับกุมดำเนินคดีก็ใช้วิธีการอันละมุนละม่อมไม่เคยต้องไปทำร้าย ไปทุบตีอะไรต่างๆ ไปทรมาน ไม่เคยทำซักอย่าง ถ้าทำผมก็ลงโทษนะ" วันนี้พูดถึงมาตรา44 แล้ว คือ พล.อ.ประยุทธ์ มีไม้กายสิทธิ์อยู่ไม้หนึ่งที่สามารถทำทุกอย่างได้อย่างสมูท วันนี้พูดถึงมาตรา44 ในการจัดการกับคดีของพระธัมมชโย ทำไมถึงต้องเดินมามาตรา44

 

สนธิญาณ : ผมเรียนว่า เรื่องวัดพระธรรมกายตั้งแต่ศาลได้ออกหมายจับและท้ายที่สุดดีเอสไอได้ไปขอหมายค้นเพื่อที่จะเข้าจับกุมหลังจากที่พระธัมมชโยได้หลีกเลี่ยงในความพยายาม ในการที่จะประสานงานเพื่อให้มอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหาแล้วจะได้ประกันตัวไป ดีเอสไอยืนยันว่าให้มีการประกันตัวแน่นอนแต่พระธัมมชโยก็ปฏิเสธ โดยเฉพาะขั้นที่เตรียมการที่ สภ.คลองหลวง นัดหมายยืนยันกันแล้ว ท่านอธิบดีดีเอสไอได้ยืนยันกับผมว่าได้มีการนัดหมายและการตัดสินใจเปลี่ยนในนาทีสุดท้ายก็น่าจะเชื่อว่ามาจากตัวพระธัมมชโย ไม่ได้มาจากลูกศิษย์ การที่จะบอกว่ามามอบตัว คือถ้าพระธัมมชโยไม่ยอมลูกศิษย์ก็ไม่มีใครกล้าไปบังคับหรือขอมามอบตัว เพราะฉะนั้นพระธัมมชโยตัดสินใจเองว่าจะมามอบตัวแล้วปรับเปลี่ยนในนาทีสุดท้ายจึงนำพาไปสู่การออกหมายค้นเพื่อจะเข้าจับกุม แล้วปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือกำแพงโล่มนุษย์ ผมเรียนกับท่านผู้ชมว่ายืนยันมาตั้งแต่ต้นกราบวิงวอนขอให้พระธัมมชโยมามอบตัวเพื่อให้สถานการณ์บ้านเมืองเข้าสู้สภาวะที่ไม่ถูกเอาเรื่องวัดพระธรรมกายไปหยิบฉวยให้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะมีคนจ้องอยู่แล้ว และคนที่จ้องอยู่นั้นได้เข้าไปมีส่วนกำหนดหรือมีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวของบรรดาลูกศิษย์เครือข่ายวัดพระธรรมกาย ผมเตือนว่าถ้ายังไม่ยอม วัดพระธรรมกายจะถึงกาลอวสาน วันนี้คำพูดของพล.อ.ประยุทธ์ผมเรียนเลยว่า ไปถอดความดูกันให้ดี นับตั้งแต่วันที่ใช้หมายค้นเข้าไปแล้วถูกขัดขวาง ถ้อยคำที่ผมเรียนไปว่าไม่รู้ว่าฉลาดน้อยหรือมีความตั้งใจหรือถูกใช้เป็นเครื่องมือสำหรับคนที่ออกมาอ่าน บอกว่า หลวงพ่อจะไม่ยอมมอบตัวถ้าบ้านเมืองยังไม่เป็นประชาธิปไตย ฉลาดน้อยพูดออกมาแบบนี้ก็แสดงว่าเปิดตัวเปิดหน้าชัดเจน จะเปิดศึกกับ คสช. เพราะบ้านเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยเพราะ คสช. ยึดอำนาจ

 

ยุคล : ก็ชัดเจนอยู่แล้วนะครับ

 

สนธิญาณ : นี่ที่บอกว่าฉลาดน้อย หรือตั้งใจ เอาล่ะไหน ๆ แล้วเพราะมีข้อสรุปหลุดออกมาเรื่อย ๆ ว่ารัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ดีเอสไอ รวมถึงรัฐบาลกลั่นแกล้งอยากจะทำให้วัดพระธรรมกายมีปัญหา เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันกับการตั้งสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่ ก็สร้างกระแสกันไป หรือจะเป็นเครื่องมือเพราะออกมาอ่านเอกสารกระดาษแต่ไม่เข้าใจ โดยมีคนเขียนให้ ถามว่าถ้าเราทั้งหลายเป็น พล.อ.ประยุทธ์ บริหารราชการบ้านเมืองจะรู้สึกอย่างไร ความจริงประเด็นที่พล.อ.ประยุทธ์พูดมาจากประเด็นนี้จริง ๆ ที่ไปพูดว่าจะมอบตัวต้องให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า "ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม เป็นต้นมา ยังไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเลยจากการยึดอำนาจมา และท้าให้ไปตรวจสอบได้ ดังนั้นผู้ที่ดื้อดังขัดขืนหลีกเลี่ยงไม่ยอมให้มีการจับกุม ใช้ประชาชนเป็นโล่กำบังอะไรเหล่านั้นนี้ ถ้าดำเนินการได้ก็จะถูกดำเนินคดี อาจจะต้องกฎหมายพิเศษบ้าง  แต่ก็ต้องทำในสถานการณ์ที่ไม่ทำให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น ต้องเข้าใจ หลายคนก็ใจร้อน ทำไมไม่ใช้มาตราโน้น มาตรานี้ ทำให้เร็ว ผมไม่สามารถจะฝ่าคนเป็นพันๆเข้าไปได้ มันอยู่ที่ทำยังไงคนเป็นพันๆหมื่นคนเหล่านั้นจะยุติซะ แล้วก็ผลักดันให้คนที่มีปัญหาน่ะออกมาต่อสู้คดีตามกฎหมายมันเหมือนไม่เคารพกฎหมาย ก็บอกว่า อะไรนะ จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็ต่อเมื่อประเทศชาติมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เอ๊ะเขาทำได้เหรอ ไม่น่าทำได้นะ ผมถามประชาชนทั้งประเทศซิว่าทำได้ไหม ช่วยกันตอบผมหน่อยเถอะ" เรื่องนี้เอาให้ชัวร์ ๆ พล.อ.ประยุทธ์พูดในรายการคืนความสุขคือแต่ละทุกศุกร์ท่านพูดยาวหลายประเด็น เรื่องนี้เรียกว่าสื่อทั้งหลายจับประเด็นกันแทบไม่ทัน เพราะหลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันเลยว่าจะใช้มาตรา44 ก็ฟังเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ชัด ๆ ว่า เนื้อหาที่พูดเป็นอย่างไร

 

ยุคล : ลองไปฟังกันดูครับ

 

(คลิปพล.อ.ประยุทธ์พูดในรายการคืนความสุข)

 

ยุคล : เป็นคลิปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ถึงขนาดที่บอกว่าต้องใช้มาตรา44 จัดการกับคดีของพระธัมมชโย แน่นอนว่าปกติเวลาพูดถึงการใช้มาตรา44 ทั้งที่มีกฎหมายเดิมอยู่แล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่ากระบวนการปกติทำไม่ได้

 

สนธิญาณ : ผมเรียนแบบนี้ ถึงแม้พล.อ.ประยุทธ์จะยืนยันว่าใช้มาตรา44 แต่ก็ยังพูดแบบมีเงื่อนไขนะครับ ว่าใช้ความรุนแรงไม่ได้ แต่ความหมายนั้นไม่ได้หมายถึงการเข้าไปจับกุมอย่างเดียว คดีของพระธัมมชโยข้อหาคือ ฟอกเงินและรับของโจร เป็นการกระทำความผิดที่เข้าข่ายที่ ปปง. จะเข้าไปดำเนินการได้

 

ยุคล : ก็คือยึดหรืออายัดทรัพย์

 

สนธิญาณ : อำนาจหน้าที่ของ ปปง. ชัดเจนว่าเขาสามารถที่จะเข้าไปดำเนินการได้ การยึดก็ทำไม่ได้ถ้ากระทำความผิดชัดเจน แต่อายัดทำได้ การอายัดทรัพย์จะดำเนินการโดยการสั่งอายัดก่อน อายัดแล้วค่อยให้เจ้าของทรัพย์หรือผู้มีส่วนกับทรัพย์นั้นเป็นคนมาชี้แจ้งกับ ปปง. เมื่อเข้าข่ายองค์ประกอบความผิด เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พล.ต.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ออกมาเปิดเผย ว่ามีคดีฟอกเงินเพิ่มขึ้นอีก 3 คดีแล้ว คดีแรกก็คือคดีที่เกี่ยวข้องกับนายศุภชัย คดีที่สองเป็นเรื่องของคดีกับเกี่ยวเนื่องกับนายศุภชัยและนายสถาพร ที่บวชเป็นพระยาวนานแล้วจู่ ๆ ก็ศึกมาทำธุรกิจร่ำรวย

 

ยุคล : เป็นอดีตพระจากวัดพระธรรมกาย

 

สนธิญาณ : ไปเอาเงินซื้อที่ดินแล้วขายที่ดิน ท้ายที่สุดเอาเงินกลับมาที่นายศุภชัย คดีที่สามคือเป็นคดีที่เกี่ยวกับนายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความของพระธัมมชโย เป็นเงินที่เข้าเกี่ยวข้องกับบางบริษัท จะมีรายละเอียดที่ผมคิดว่าวันนี้ทำให้คุณสัมพันธ์เหนื่อย

 

ยุคล : หลัง ๆ คุณสัมพันธ์ก็หายไปเลยนะครับ

 

สนธิญาณ : นั่นสิ ก็รู้อยู่แล้วว่าจะโดนคดีอย่างไร ก็ตัวเองรู้อยู่แก่ใจเพราะตัวเองเป็นทนาย ไปจดทะเบียนบริษัทไปตั้งตัวเองเป็นกรรมการและเกี่ยวข้องกับการถอนเงิน โยกย้ายถ่ายเทเงิน ไม่ใช่ทนายธรรมดาแต่มีส่วนร่วม ทีนี้เราก็มาดูว่า 3 คดียิ่งซ้ำเข้าไป เส้นทางทางการเงินยิ่งเห็นชัดว่า มีความซับซ้อน มีความชอบธรรมที่ ปปง. จะเข้าไปได้ เงินทั้งหมดจะถูกอายัดและย้ำนะครับวัดพระธรรมกายที่เรารู้จักจริง ๆ ในพื้นที่ 4,000 ไร่ เป็นพื้นที่วัดประมาณ 200 ไร่ ที่เหลือเป็นพื้นที่ของมูลนิธิธรรมกาย หรืออย่างกรณีที่ไปเกิดปัญหาที่เขาใหญ่ เวิลด์พีซวัลเล่ย์ ก็ไม่ใช่ของวัดพระธรรมกาย

 

ยุคล : เป็นของมูลนิธิตะวันของธรรมกาย

 

สนธิญาณ : อยู่ในเครือข่ายธรรมกายแต่ตั้งมูลนิธิแยก ไม่ใช่วัด แม้ที่คลองหลวงก็ไม่ใช่วัดนะครับ วัดมีพื้นที่เพียง 200 ไร่ ศาสนสถานต่าง ๆ ที่สร้างที่ทำขึ้นเป็นของมูลนิธิ

 

ยุคล : ซึ่งจะแตกต่างจากวัดทั่วไป

 

สนธิญาณ : วัดเป็นองค์กรของรัฐบาลเจ้าอาวาสมีฐานะเป็นเจ้าพนักงาน ดังนั้นหากว่ากระทำอย่างหนึ่งอย่างใด ทรัพย์สินอย่างใดรัฐสามารถเข้าควบคุมได้ แต่ตัวมูลนิธิรัฐไม่สามารถเข้าควบคุมได้ เหตุเพราะเป็นของนิติบุคคล เป็นของเอกชน แต่เมื่อมาเข้าทางของ ปปง. นี่ยิ่งง่ายขึ้นครับเพราะการที่เอามูลนิธิหรือเอาองค์กรภาคเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้องกับเงินที่ไหลในสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ตอนนี้เข้าทางที่จะทำได้ ถ้าอายัดเสร็จ ที่มาชุมนุมจะมีแรงไหมครับถ้าไม่มีเงินจ่าย

 

ยุคล : อายัดคือฟรีซเงินทุกบาท

 

สนธิญาณ : จะกี่พันล้านก็ตามแต่ที่เส้นทางการเงินเดินตามไปถึง ท่านผู้ชมจะงงหรือสงสัยว่าเส้นทางการเงินคืออะไร ปปง. เขาเข้าไปดูหลังจากที่ดู 1 บัญชีว่าเงินที่ถอนวันนี้ถอนไปใช้เป็นเงินสดหรือไปเข้าบัญชีไหน หรือโอนจากบัญชีนี้ไปสู่บัญชีไหน และบัญชีไหนก็จะตามไปต่อทีละบัญชีมีลักษณะแบบนี้ นี่คืออำนาจที่ ปปง. มี ดังนั้นทันทีที่ถูกอายัดเงินผมจะเรียนเลยว่านั่นคือกัลปาวสานของวัดพระธรรมกาย แม้ในวันนี้จะได้มีความพยายามจัดม็อบพระมาเรื่อย ๆ มาจากภาคอีสาน 150 คน ล่าสุดก็มาจากภาคเหนือตอนล่าง 150 คน และลูกศิษย์ที่มาปฏิบัติธรรมก็มากันไม่ต้องพูดไปเรื่องวันก่อนที่เป็นข่าวฉาวที่มีการ์ดคนเสื้อแดงอะไรหรอกครับ ยังแสดงท่าทีให้เห็นว่าอย่างไรก็ไม่ยอมแน่ เดินหน้าสู้แน่ เมื่อยืนยันเมื่อเดินหน้ากันแบบนี้ และพล.อ.ประยุทธ์ประกาศมาแบบนี้ ผมเรียนย้ำนะครับ ว่าคำประกาศของพล.อ.ประยุทธ์ ท่านพูดนะว่ามีคนพูดกันเยอะว่าไม่ทำอะไรสักทีหนึ่ง ฉะนั้นสนธิญาณเอาเรื่องนี้มาขยายให้ฟังว่าจะใช้มาตรา44 ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าไปจับกุม

 

ยุคล : ผมฟังมาตั้งแต่ต้นรู้สึกเลยว่า มาตรา44 ก็คือ จับกุมลุยแล้ว

 

สนธิญาณ : ท่านบอกแล้วว่าคนฝ่าเป็นพันเป็นหมื่นไม่ฝ่า ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง แต่มีวิธีการให้อยู่ไม่ได้

 

ยุคล : ทำอย่างไรครับ

 

สนธิญาณ : เมื่อกี้พูดไปแล้วว่า ปปง. ฟรีซเงิน อายัดเงิน หลังจากนั้นก็ใช้มาตรา 44 ไปสู่กระบวนการอื่น ๆ สู่ผู้สนับสนุน สู้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

 

ยุคล : ใช้วิธีการที่ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ไม่ได้

 

สนธิญาณ : ถูกต้อง ค่อย ๆ บีบเข้าไป กระชับพื้นที่

 

ยุคล : เราจะได้เห็นตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไปใช่ไหมครับ

 

สนธิญาณ : ไม่รู้สิหัวหน้า คสช. พูดเองวันศุกร์จะเห็นไม่เห็นผมไม่รู้ แต่ในฐานะผู้ดำเนินรายการติดตามข่าวแกะรอยผมเชื่อว่าภายในไม่กี่วันนี้เราจะได้เห็นปรากฏการณ์บางอย่างที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดแน่นอน เพราะรัฐบาลก็รู้อยู่แก่ใจว่าถ้าปล่อยให้ปัญหาของสถานการณ์วัดพระธรรมกายยืดเยื้อต่อไป ก็จะมาบรรจบกับเส้นทางทางการเมืองของเรื่องนางสาวยิ่งลักษณ์ และกระบวนการที่ผมได้เรียนว่ากระบวนการสร้างองค์กรแนวร่วมต่าง ๆ ที่หลากหลายหน้าตาเรื่อย ๆ ต่อไปก็จะเยอะและมีเครือข่ายธรรมกายเข้ามาในเครือข่ายองค์กรแนวร่วมที่ตั้งขึ้น เพื่อให้เห็นว่าองค์กรแนวร่วมทั้งหลายกำลังต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการและการต่อสู้มีความชอบธรรมที่ให้ต่างประเทศเข้ามาสนับสนุน เพราะเป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารมาจากทหาร ใช้อำนาจโดยไม่ถูกต้องไม่ชอบธรรม จำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชนและกระทำการคุกคาม นี่เป็นสิ่งที่หยิบยกมาเพื่อใช้ในการต่อสู้กับ พล.อ.ประยุทธ์

 

ยุคล : ก็คือตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ให้จับตาดูมาตรา44 แต่พี่ต้อยบอกว่ามาตรา44 ที่ว่าไม่ใช่เอากำลังไปจับกุมบุกเข้าวัดพระธรรมกาย

 

สนธิญาณ : นี่กฎหมายปกติก็พากำลังเข้าไปได้อยู่แล้ว ฝ่าเข้าไปได้อยู่แล้ว

 

ยุคล : แต่จะมีวิธีการกดดันให้คนที่อยู่รายล้อมวัดพระธรรมกายและเกี่ยวข้องอยู่ไม่ได้

 

สนธิญาณ : นี่จึงต้องใช้มาตรา 44 ไม่ใช่รายล้อมนะ คนพวกนั้นก็ต้องทำความผิดด้วย

 

ยุคล : ไม่ใช่อยู่เฉย ๆ ธรรมดา

 

สนธิญาณ : อาจจะไปใช้ขั้นตอนยุติธรรมแล้วยุ่งยาก มีวิธีการอื่น ๆ ที่จะใช้มาตรา 44 ไปดำเนินการ

 

ยุคล : ฉะนั้นก็ส่งสัญญาณไปถึงคนที่กระทำความผิดอยู่และหลงผิดอยู่ว่าต้องถอนตัวหรือระมัดระวังได้แล้ว ทั้งหมดนี้ก็คือยุคลถามตรงสนธิญาณฟันธงตอบประจำค่ำคืนนี้ วันนี้ขอบพระคุณพี่ต้อยมากครับ ลาคุณผู้ชมแต่เพียงเท่านี้กลับมาพบกันใหม่ในวันจันทร์หน้า สวัสดีครับ

 

สนธิญาณ : สวัสดีครับ