"สนธิญาณ" ชี้! อิทธิพล "ระบอบทักษิณ" ยังแผ่กว้าง หลังชื่อ "หมอเรวัติ" โผล่นั่งผู้ตรวจการฯ อีกรอบ จับตา! ท่าที "สนช." ต่อเรื่องนี้!

 รายการ "สถาพรถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 8 กรกฎาคม 2559  ออกอากาศทางช่อง ทีนิวส์ ดำเนินรายการโดย คุณสถาพร เกื้อสกุล (ถา) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย)  กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ : สถานการณ์ที่ผมคิดว่าควรจะต้องติดตามและสะท้อนให้เห็นคือระบบอุปถัมภ์หรือบางสิ่งบางอย่างที่แฝงเร้นอยู่ และต้องติดตามเกาะติดกันอย่างใกล้ชิดเพราะว่า ดูความตั้งใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้วที่พูดตรงไปตรงมาจะต้องดูแลประเทศนี้ต่อไปให้อยู่ในร่องในรอย นั่นก็หมายถึงต้องต่อสู้ขจัดระบอบทักษิณให้สิ้นซาก ผมย้ำนะครับ ไม่ได้หมายความว่าขจัดคนเสื้อแดง หรือไปเกี่ยวข้องกับประชาชนผู้คนทั้งหลาย สิ่งที่เรากำลังพูดกัน สิ่งที่อยากให้จับตามองก็คือบรรดาแกนนำสิ่งที่ซ่อนเร้นขับเคลื่อนและนำพาสถานการณ์ไปสู่ความเลวร้าย อย่างกรณีที่น่าสนใจคือการคัดสรรผู้ตรวจการแผ่นดิน นายแพทย์เรวัต วิศรุตเวช เป็นบทเรียนที่น่าสนใจและต้องติดตาม ทีนิวส์จะไปติดตามเกาะติดให้ได้ชมกัน ความน่าสนใจอยู่ตรงที่การเสนอชื่อนายแพทย์เรวัติเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินได้เริ่มมาแล้วครั้งหนึ่ง ส่งเข้า สนช. ปรากฏว่าในครั้งนั้นมติของ สนช. 66 เสียงไม่รับ 66 เสียงรับ และมี 24 งดออกเสียง งดออกเสียงด้านหนึ่งก็เท่ากับไม่รับก็จะยกมือไปแล้ว เพราะฉะนั้นจะมาบวกกันก็จะเห็นได้คล้าย ๆ ว่าเหมือนกับไม่รับ 90 เสียงเลยทำให้ดูเหมือนตกไป ปรากฏว่าคณะกรรมการสรรหามาใหม่ได้ชื่อนายแพทย์เรวัต จะต้องเคารพไหมก็ยังต้องเคารพ แต่เขาก็กลับมาดูอีกว่ากว่าจะได้มาเรียกว่าคณะกรรมการสรรหาจะต้องโหวตกัน 30 ครั้ง กรรมการสรรหามีอยู่ 6 คน โหวตกัน 3 ต่อ 3 แล้วสุดท้ายมาออกที่ 4 ต่อ 2 ก็ต้องไปควานหาดูว่าใครที่เป็นผู้โหวตให้คะแนนเสียงมาเป็น 4 ต่อ 2 รายงานข่าวเขาบอกว่าเป็นผู้ใหญ่ที่มาจากศาลรัฐธรรมนูญนี่ก็ต้องไปเกาะติดกันดู ถามว่าทำไมนายแพทย์เรวัต ถึงมีความพยายามในเรื่องนี้และมีอิทธิฤทธิ์อะไรที่ทำให้ได้รับการเสนอชื่อ แม้จะโดน สนช. ปฏิเสธไปแล้วต้องมาดูประเด็นนี้ ประเด็นที่ผมเรียนว่าภายใต้ระบบทักษิณการที่พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่าจะยืนอยู่ในอำนาจหรือสืบเนื่องดูแลประเทศไปอีก 5 ปี มาจากตรงที่บทเรียนรัฐธรรมนูญปี 2549 ที่กำหนด Roadmap เอาไว้พอดีและรอเวลาไปที่การเลือกตั้ง เมื่อเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยก็ชนะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ก็เกิดประเด็นที่เราจะต้องรับรู้ร่วมกัน ก็คือบรรดาข้าราชการประจำทั้งหลาย ซึ่งในระยะเวลาที่ผ่านมาล้วนเติบโตอยู่ในระบอบทักษิณทั้งสิ้น ที่แฝงเร้นแฝงตัวอยู่ก็รอคอยให้ระบอบทักษิณกลับมามีอำนาจอีกครั้งหนึ่ง พอกลับมามีอำนาจอีกครั้งก็เข้าสวมรอยและดำเนินการทางอำนาจต่อไป จากกรณีของนายแพทย์เรวัตจะคล้ายกันหรือไม่ก็ต้องกลับมาดู เขาบอกว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ทำให้นายแพทย์เรวัตยังมีอิทธิฤทธิ์อยู่ก็เพราะมีนักการเมืองหญิงคนหนึ่งซึ่งเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีหญิงก็มีไม่กี่คนนะครับ แต่ถ้าจ่อเข้ามาก็จะเห็นบทบาทชัดขึ้นเพราะรัฐมนตรีหญิงคนนั้นวันนี้ก็ดูจะมีบทบาททางการเมืองนะครับ หลังจากที่นุ่งขาวห่มขาวไปนาน ฟังแบบนี้เหมือนจะชัดแต่ผมไม่ได้ลงรายละเอียดให้ชัดเจน ต้องไปตามเกาะติดกันดู นี่รายงานข่าว แล้วถ้าดูต่อไปอีกว่าถ้าย้อนดูระบอบทักษิณที่สร้างกลไกแบบนี้เอาไว้ใช่หรือไม่ และน่าสนใจตรงที่เขาบอกว่าอิทธิฤทธิ์ที่ยังเหลืออยู่ใน สนช. แม้ว่า สนช. จะมี คสช. เป็นคนตั้งเองทั้งหมด ก็เพราะนักการเมืองหญิงคนนี้มีความสัมพันธ์อันดีกับบิ๊กบางคนใน คสช. ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างแน่นอน เพราะจะให้ยืนยันนอนยันร้อยครั้งพันครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ไม่เปิดออกตัวพบกับใคร ยิ่งมีอำนาจยิ่งต้องเก็บตัว นี่เป็นประเด็นที่จะต้องติดตามกันก็เอามาแลกเปลี่ยนให้ท่านผู้ชม เปิดประเด็นเอาไว้จะได้ติดตามกันถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องนี้ตอนที่จะเดินเข้า สนช. ไม่ธรรมดาแน่นอนคอยดูนะครับ ศึกนี้จับตามันแน่นอน